Glass Skin คืออะไร ? อยากผิวกระจก ใช้หัตถการไหนได้บ้าง? พร้อมบอกวิธีการสร้าง Glass Skin แบบสาวเกาหลี

GlassSkinคืออะไร

Table of Contents

เคยได้ยินคำว่า Glass Skin กันไหม ? Glass Skin กำลังเป็นเทรนด์ความงามที่กำลังนิยมอย่างมากทั้งในประเทศเกาหลีและประเทศไทย แล้วผิวแบบไหนถึงเรียกว่า Glass Skin ต้องทำยังไงบ้างถึงมีผิวแบบนั้น สามารถหาคำตอบได้ที่บทความนี้ได้เลย

Glass Skin คืออะไร ?

Glass Skin เป็นเทรนด์ความงามจากประเทศเกาหลีใต้ โดยจะเน้นความเป็นธรรมชาติ มีความกระจ่างใส เรียบเนียน ไร้ริ้วรอย มีความเงาดั่งกระจกสะท้อนแสง อีกทั้ง Glass Skin ยังบ่งบอกถึงผิวที่มีสุขภาพดีจากภายในอีกด้วย 

ผิวแบบไหนถึงเรียกว่า Glass Skin

  • ผิวเรียบเนียน ไม่มีรอยต่าง ๆ
  • ผิวกระจ่างใส 
  • ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน 
  • ผิวกระชับ รูขุมขนไม่กว้าง
  • สีผิวสม่ำเสมอ
  • ผิวมีความนุ่มเด้ง ดูสุขภาพดี

Glass Skin กับ หน้ามัน ต่างกันยังไง

กว่าจะได้ผิวที่เป็นแบบ Glass Skin จะต้องผ่านการดูแลผิวมาเป็นอย่างดี ผิวจะดูอิ่มน้ำ มีความเงาดูเป็นธรรมชาติ ต่างจากหน้ามัน ที่มีสภาวะที่ผิวหน้ามีการสร้างน้ำมันมากเกินไป ผิวจึงดูเหนียวและมีความมันเงา

อยากมีผิวแบบ Glass Skin ต้องทำยังไง

ผิว Glass Skin สามารถทำได้ 2 แบบ คือ การทำผิว Glass Skin ด้วยตัวเอง กับ การทำผิว Glass Skin ด้วยหัตถการ หรือสามารถทำ 2 วิธีดังกล่าวควบคู่กันไปด้วยก็ได้ 

การทำผิว Glass Skin ด้วยตัวเอง

การล้างหน้า 

การล้างหน้า ถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ๆ เพราะการล้างหน้าเป็นกิจวัตรประจำวันที่เราต้องทำอยู่แล้ว ทั้งฝุ่น ควัน และมลพิษต่าง ๆ ล้วนแต่เป็นตัวการในการทำลายผิวทั้งสิ้น บางคนหรือผู้ชายจะไม่แต่งหน้า แต่เวลาใช้ Cleansing แล้วนำสำลีมาเช็ด จะเห็นได้ว่ามีคราบสีดำออกมาด้วย เพราะฉะนั้นเราถึงต้องล้างหน้าด้วยกัน 2 ขั้นตอน ดังนี้

  • เช็ดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกด้วย Cleansing – ปัจจุบันมีหลายแบบให้เลือกใช้ สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของผิวแต่ละคน  
  • ล้างทำความสะอาดหน้าอีกรอบด้วย Cleanser – Cleanser ก็คือผลิตภัณฑ์ล้างหน้าทั่วไป ซึ่งจะต้องคำนึงถึงสภาพผิวของตัวเองด้วย สามารถเลือกได้ดังนี้
    ผิวแห้ง : ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นอย่าง milk-based, cream-based, Lanolin, Petroleum Jelly และ Mineral Oil 
    ผิวมัน : ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ กรดไกลโคลิก (AHA), กรดซาลิไซลิก (BHA) และ เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide)
    ผิวแห้งและมัน : ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่แรงนัก มีความอ่อนโยนต่อผิว ที่สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้าและเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ใบหน้า ที่สำคัญ ควรเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพาราเบน แอลกอฮอล์ และน้ำหอม 

การทาครีมบำรุง

การทาครีมบำรุงก็ถือเป็นอีกขั้นตอนในการบำรุงผิวที่สำคัญมาก ควรจะต้องเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวตัวเอง ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์หลายตัวพร้อม ๆ กัน อาจเสี่ยงต่อการแพ้ครีม ที่สำคัญเวลาออกแดดก็ควรจะทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง

การมาสก์หน้า

การมาสก์หน้าจะช่วยในการบำรุงผิวมาก ๆ เพราะ ตัวมาสก์จะมีสารต่าง ๆ ที่มีความจำเป็นต่อผิว เราจึงควรมาสก์หน้าอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ขณะทำการมาสก์หน้า ไม่ควรแปะไว้เกินเวลาที่แจ้งไว้บริเวณบรรจุภัณฑ์ เพราะถ้าหากเกินเวลา แผ่นมาสก์จะดูดความชุ่มชื้นออกจากผิวเรา

การสครับผิว

การสครับผิวจะช่วยในการกำจัดเซลล์ผิวเก่าที่ถูกผลัดออกมาแล้วและยังช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างออกจากผิวอีกด้วย  เนื่องจากร่างกายของมนุษย์เรามีการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่เสื่อมสภาพแล้วให้ออกไป กลายเป็นสิ่งที่เราเรียกกันว่า ‘ขี้ไคล’ และจะสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทนเซลล์ผิวเก่า ซึ่งการสครับผิวเป็นตัวช่วยที่ทำให้วงจรการผลัดเซลล์ผิวดำเนินไปได้ง่ายขึ้นและยังมีข้อดีต่าง ๆ ดังนี้

  • ปรับผิวให้มีความกระจ่างใสมากขึ้น
  • ช่วยให้โอกาสการเกิดสิวลดลง
  • ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
  • กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น
  • สกินแคร์ซึมลงสู่ผิวได้ดีขึ้น

หยุดพฤติกรรมทำลายผิว

การดูแลผิวเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี จะต้องดูแลจากภายในด้วย พฤติกรรมที่ควรหยุด มีดังนี้

  • งดการอดนอน หรือนอนน้อย ควรจะนอนหลับให้เพียงพอ 8-10 ชั่วโมง เมื่อระหว่างเรานอนหลับร่างกายจะทำการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เมื่อได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ ผิวจะดูสดชื่นอยู่เสมอ
  • พยายามเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความเครียด เมื่อเกิดอาการเครียด ให้รีบหาสิ่งผ่อนคลายโดยเร็ว
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ รวมไปถึงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนด้วย ควรดื่มน้ำเปล่าแทน การดื่มน้ำเปล่าจะช่วยให้ปริมาณน้ำในผิวมีความสมดุลกัน ซึ่งจะทำให้ผิวพรรณมีความสดใสและดูสุขภาพดี 
  • เลี่ยงการตากแดดหรือไปอยู่ในที่ที่มีไฟสูง รวมไปถึงแสงจากมือถือและคอมพิวเตอร์ด้วย จริง ๆ สามารถทาครีมกันแดดได้ แต่ถ้าเลี่ยงได้ก็จะดีกว่า
  • หมั่นรักษาความสะอาดสิ่งของรอบตัว ทั้งเสื้อผ้า หมอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าขนหนู เตียง เป็นต้น  

การแต่งหน้า

การแต่งหน้าจะสามารถเห็นผลได้ในทันที ซึ่งวิธีนี้จะต้องเลือกใช้เมคอัพจำพวก รองพื้น คูชชั่นที่ช่วยให้ผิวดูฉ่ำวาว และจะต้องใช้เทคนิคการแต่งหน้าเพื่อเสริมความวาวเข้าไปอีก เช่น การ Shading การปัดไฮไลท์ เป็นต้น

การดูแลผิวด้วยตนเองนั้น จะต้องมีวินัยเป็นอย่างมากและจะต้องใช้เวลานานประมาณหนึ่ง บางคนอาจเห็นผลไว บางคนอาจเห็นผลช้าขึ้นอยู่กับสภาพผิวและวินัยของแต่ละคน แต่มีอีกวิธีที่ทำให้ผิวฉ่ำวาว ได้ผิว Glass Skin ที่ต้องการ นั่นก็คือ การทำหัตถการนั่นเอง

การทำผิว Glass Skin ด้วยหัตถการ

การทำเลเซอร์ PicoWay

การทำ PicoWay เป็นการใช้เครื่องเลเซอร์ที่ใช้คลื่นความถี่สูงในระยะเวลาที่สั้นมากระดับ 1 ต่อล้านล้านวินาที (Picosecond) ส่งพลังงานสูงลงสู่ชั้นผิว พลังงานดังกล่าวจะตรงไปทำลายเม็ดสีเมลานินให้แตกตัว อีกทั้งยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนซึ่งจะช่วยฟื้นฟูหรือแก้ปัญหาผิวได้ดังนี้

  • ช่วยลบร้อยฝ้า กระ จุดด่างต่าง ๆ 
  • ช่วยลบรอยดำ รอยแดง รอยแผลเป็น ทำให้หน้าดูกระจ่างใสยิ่งขึ้น
  • ช่วยทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น
  • ช่วยลบรอยแตกลายของผิว
  • ช่วยปรับรูขุมขนให้กระชับ
  • ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

การฉีด Rejuran 

Rejuran เป็นสารสกัดจาก Polyneucleotide ที่ได้มาจาก DNA ของปลาแซลมอน ซึ่งใกล้เคียงกับ DNA ของมนุษย์มากที่สุด สามารถเข้ากันได้ดีกับร่างกายมนุษย์ มีความปลอดภัยสูง Rejuran จะเข้ามาแก้ปัญหาผิว ดังนี้

  • ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี
  • ช่วยลดริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า
  • ช่วยปรับรูขุมขนให้กระชับ
  • ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอกัน

การฉีด Sculptra 

Sculptra ประกอบไปด้วยอนุภาคของ PPLA (Poly-L-Lactic Acid) ซึ่งเป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว การฉีด Sculptra จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาผิว ดังนี้

  • ช่วยฟื้นฟูผิวในชั้นลึก ปรับโครงสร้างผิวจากภายใน ทำให้ผิวแข็งแรง
  • ช่วยเติมเต็มริ้วรอยให้ตื้นขึ้น แลดูเป็นธรรมชาติ
  • ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย
  • ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี
  • ผิวดูอ่อนเยาว์กว่าเดิม

การฉีด Gouri

Gouri มีส่วนประกอบหลักคือ PCL (Polycaprolactone) ที่มาในรูปของเหลว เป็นสารละลาย ไม่มีการตกค้างในร่างกาย สามารถฉีดเข้าชั้นผิวได้อย่างปลอดภัย มีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว อีกทั้งยังช่วยแก้ไขปัญหาผิวต่าง ๆ ดังนี้

  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวและอิลาสติน 
  • ช่วยลดริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า
  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว 
  • ช่วยลดเม็ดสีเมลานิน ทำให้กระ ฝ้า รอยแดง รอยดำ หน้าดูกระจ่างใสขึ้น
  • ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งจากการโดนแดดและมลภาวะทางอากาศ
  • ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ลง

การฉีด Radiesse

Radiesse มีส่วนประกอบหลักคือ CaHA (Calcium Hydroxyapatite) ทำหน้าที่ในการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน สามารถช่วยในการแก้ไขปัญหาผิว ดังนี้

  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type 1 เพิ่มขึ้น 150% ทำให้ผิวมีโครงสร้างที่แข็งแรง
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type 3 เพิ่มขึ้น 130% ทำให้ผิวมีความกระชับ ริ้วรอยลดลง
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างอิลาสตินเพิ่มขึ้น 260% ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและเต่งตึง
  • ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี

การฉีด Exosome

Exosome ประกอบไปด้วยสารชีวโมเลกุลกว่า 1,000 ชนิดที่สำคัญต่อผิว สามารถฟื้นฟูและซ่อมแซมผิว และยังแก้ไขปัญหาผิวได้อีกหลายอย่าง ดังนี้

  • ช่วยยับยั้งการทำงานที่ผิดปกติของเม็ดสีเมลานิน ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดกระ ฝ้า รอยดำ รอยแดง เป็นต้น
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ลดริ้วรอย ปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้น ดูอ่อนเยาว์ลง
  • ช่วยทำให้หน้าใส ผิวดูชุ่มชื้น สุขภาพดี
  • ช่วยให้ผิวแข็งแรงจากภายใน ลดโอกาสการเกิดสิวหรือรักษาผิวที่แพ้ง่ายให้แข็งแรงขึ้น

สรุปGlass Skin คืออะไร ? อยากผิวกระจก ใช้หัตถการไหนได้บ้าง? พร้อมบอกวิธีการสร้าง Glass Skin แบบสาวเกาหลี

Glass Skin เป็นเทรนด์ความงามจากประเทศเกาหลีใต้ที่มาแรงมากใจปัจจุบันนี้ ที่นิยามถึงผิวที่เรียบเนียน  ไม่มีริ้วรอย ชุ่มชื้น กระจ่างใส ดูสุขภาพดี ซึ่งสามารถทำได้ด้วยตัวเองหรือจะใช้การทำหัตถการเข้าช่วยก็ได้ โดยการทำด้วยตนเองนั้นจะต้องอาศัยความสม่ำเสมอและระยเวลาที่นานถึงจะเห็นผล แต่ก็จะทำให้ผิวพรรณดีขึ้นจากภายในสู่ภายนอก ส่วนการทำหัตถการก็เป็นอีกวิธีที่เห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็ว แต่จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเข้ารับบริการ เพื่อให้ได้ผิว Glass Skin ที่ดีที่สุดและเหมาะกับคนไข้นั่นเอง

ปรึกษาหมอฟรี กังนัมคลินิก 40 สาขาใกล้บ้าน

Scroll to Top
gangnamclinicthailand