หน้ามัน รูขุมขนกว้าง และผิวหมองคล้ำ ถือเป็น 3 ปัญหาผิวที่หลายคนค้นหาวิธีแก้ เพราะส่งผลโดยตรงต่อความมั่นใจและบุคลิกภาพ ปัญหาเหล่านี้มักเกิดจากการทำงานของต่อมไขมันที่ผิดปกติ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น Androgen และ DHT รวมถึงปัจจัยภายนอกอย่างแสงแดด มลภาวะ และความเครียด งานวิจัยทางผิวหนังระบุว่า ฮอร์โมนและรังสี UV เป็นตัวการหลักที่ทำให้ผิวมันง่าย รูขุมขนกว้าง และเกิดเม็ดสีสะสมจนหน้าดูหมองคล้ำ ปัจจุบันมีทั้ง วิธีดูแลผิวด้วยตัวเอง เช่น เลือกสกินแคร์ที่เหมาะสม การล้างหน้าที่ถูกวิธี และการทาครีมกันแดด รวมถึง หัตถการยอดนิยมในคลินิกเสริมความงาม อย่างเลเซอร์หน้าใส เมโสหน้าใส โบท็อกลดหน้ามัน หรือ Hifu กระชับผิว ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุดและเห็นผลรวดเร็ว สำหรับผู้ที่อยากแก้ปัญหาอย่างจริงจัง การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่มั่นใจได้
สาเหตุของผิวหน้ามัน รูขุมขนกว้าง และหน้าหมองคล้ำ
สาเหตุของผิวหน้ามัน รูขุมขนกว้าง และหน้าหมองคล้ำนั้นมาจากปัจจัย และหลายสาเหตุ โดยอาจเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง หรือเกิดได้มากกว่าหนึ่งสาเหตุก็เป็นได้ โดยมีสาเหตุดังต่อไปนี้
พันธุกรรม
เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ เนื่องจากพันธุกรรมเป็นตัวกำหนดสภาพผิวโดยรวม การทำงานของต่อมไขมัน การตอบสนองของต่อมไขมัน ขนาดของรูขุมขน ลักษณะเส้นขน รวมถึงความไวต่อสิ่งกระตุ้น
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนบางชนิด โดยเฉพาะกลุ่ม Androgen และ DHT หรือ Dihydrotestosterone มีผลโดยตรงต่อการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้ผิวมีความมันมากขึ้น รูขุมขนกว้างขึ้น ส่วนฮอร์โมน Thyroid ที่มีบทบาทสำคัญในการกักเก็บน้ำของผิว และ ฮอร์โมน Estrogen ที่มีผลต่อการสร้างเม็ดสีและคอลลาเจน ที่มีผลทำให้เกิดความหมองคล้ำ และผิวไม่เรียบเนียน
การผลิตน้ำมันบนใบหน้า
การผลิตน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าที่มากเกิดไป ส่งผลให้รูขุมขนอุดตันและเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมา อย่างเช่น ปัญหารูขุมขนกว้าง หน้ามันจนเกิดสิว โดยตัวการที่ส่งผลในการผลิตน้ำมันคือฮอร์โมนเพศชายอย่าง เทสโทสเทอโรน
ผลกระทบจากมลภาวะต่าง ๆ
มลภาวะเป็นอีกหนึ่งตัวการที่ทำให้เกิดปัญหา อย่างเช่น มลภาวะจากฝุ่น ควัน ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว หรือรังสี UV จากแสงแดดที่เป็นตัวการในการทำลายคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวมีความหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง และมีริ้วรอย
การสะสมของความเครียด
การสะสมความเครียด ส่งผลให้ร่างกายนั้นหลั่งฮอร์โมน Cortisol ที่เป็นตัวการในการกระตุ้นการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ทำให้ผิวมีความมันมากขึ้น ส่งผลให้เกิดสิวได้
การดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม
การดูแลผิวที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่มีการดูแลผิว ทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวได้ เช่น การขัดผิวมากเกินไป การทำความสะอาดหรือถูหน้าอย่างรุนแรง รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่เหมาะสมกับผิว ทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวเกิดรูขุมขนกว้าง และไม่เรียบเนียนได้
อายุที่เพิ่มมากขึ้น
เมื่อมีอายุที่มากขึ้น ผิวหนังก็จะเสื่อมสภาพลงตามไปด้วย ส่งผลต่อปัญหาผิวต่าง ๆ ทั้งปัญหาผิวไม่กระชับ มีริ้วรอย เกิดความหย่อนคล้อย ผิวหน้าหมองคล้ำ เกิดเป็นฝ้า กระ ส่งผลต่อความเรียบเนียนของผิวบนใบหน้าได้
🌸 เปรียบเทียบวิธีดูแลผิวมัน รูขุมขนกว้าง และผิวหมองคล้ำ 🌸
✨ เลเซอร์หน้าใส
เหมาะกับ: ผิวหมองคล้ำ รอยสิว จุดด่างดำ
- ⏱ ระยะเวลา: 2–3 ครั้งขึ้นไป
- ✅ ข้อดี: ลดเม็ดสี ปรับผิวสม่ำเสมอ กระตุ้นคอลลาเจน
- ⚠️ ข้อควรระวัง: อาจมีรอยแดง ต้องเลี่ยงแดด
💉 เมโสหน้าใส
เหมาะกับ: ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว เติมวิตามินเข้าสู่ผิว
- ⏱ ระยะเวลา: 1–2 สัปดาห์
- ✅ ข้อดี: ผิวกระจ่างใส รูขุมขนเล็กลง
- ⚠️ ข้อควรระวัง: ต้องทำต่อเนื่อง อาจมีรอยช้ำเล็กน้อย
💉 โบท็อกลดหน้ามัน
เหมาะกับ: ผิวมัน รูขุมขนกว้าง
- ⏱ ระยะเวลา: เห็นผลใน 4 สัปดาห์
- ✅ ข้อดี: ลดความมัน กระชับรูขุมขน
- ⚠️ ข้อควรระวัง: ผลอยู่ 3–6 เดือน ต้องฉีดซ้ำ
💎 Hifu ยกกระชับผิว
เหมาะกับ: ผิวหย่อนคล้อย รูขุมขนกว้าง
- ⏱ ระยะเวลา: 1–3 เดือน
- ✅ ข้อดี: ยกกระชับ กระตุ้นคอลลาเจน
- ⚠️ ข้อควรระวัง: เจ็บเล็กน้อย อาจบวมเล็กน้อย
💉 ฟิลเลอร์
เหมาะกับ: ร่องลึก ใต้ตาคล้ำ
- ⏱ ระยะเวลา: เห็นผลทันที
- ✅ ข้อดี: เติมเต็ม ผิวเด็กลง
- ⚠️ ข้อควรระวัง: ต้องเลือกฟิลเลอร์แท้ แพทย์เชี่ยวชาญ
🌿 ทรีทเม้นท์บำรุงผิว
เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการบำรุงต่อเนื่อง
- ⏱ ระยะเวลา: 6–8 ครั้ง
- ✅ ข้อดี: ผิวชุ่มชื้น กระจ่างใส
- ⚠️ ข้อควรระวัง: เห็นผลช้ากว่าหัตถการ
🧖♀️ มาสก์หน้า
เหมาะกับ: ทำได้เองที่บ้าน
- ⏱ ระยะเวลา: ต้องทำต่อเนื่อง
- ✅ ข้อดี: ประหยัด เติมน้ำให้ผิว
- ⚠️ ข้อควรระวัง: ผลลัพธ์ช้า ต้องทำบ่อย
วิธีดูแลผิว ผิวหน้ามัน รูขุมขนกว้าง และหน้าหมองคล้ำ
วิธีการดูแลผิวในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายวิธี ทั้งวิธีแบบธรรมชาติ และวิธีการดูแลผิวแบบเห็นผลได้รวดเร็วด้วยหัตถการทางการแพทย์ โดยแต่ละวิธีช่วยดูแล และแก้ปัญหาผิวได้ดังนี้
เลเซอร์หน้าใส
เลเซอร์หน้าใส หนึ่งในหัตถการที่ช่วยในเรื่องของการเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่า กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้กำจัดเม็ดสีเมลานิน ตัวการที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ ส่งผลให้ผิวกลับมาขาวใส เรียบเนียน อีกทั้งไม่ทำให้ผิวบางลง โดยเลเซอร์ที่นิยมใช้คือ Picoway Laser, Dual Yellow Laser , Q-Switchและ ND-Yag เป็นต้น
ฉีดเมโสหน้าใส
เมโสหน้าใส เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย เนื่องจากเป็นการฉีดตัวยาที่เป็นสารที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่น วิตามินต่าง ๆ หรือสารที่ดูดซึมได้ยากจากการทา จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยทำให้เห็นผลได้รวดเร็ว สามารถแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ ให้กลับมาขาวใส และแก้ปัญหารูขุมขนกว้างได้
ฉีดโบท็อก
การฉีดโบท็อก เป็นการช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า ทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้น ช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง อีกทั้งยังสามารถฉีดเพื่อช่วยแก้ปัญหาหน้ามันได้อีกด้วย โดยการฉีดเพื่อไปยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน นอกจากจะสามารถแก้ปัญหาหน้ามันแล้ว ยังช่วยลดการหลั่งของเหงื่อได้อีกด้วย
การทำ Hifu
การทำ Hifu ยกกระชับ เป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ยิงเข้าไปในชั้นผิว เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวต่าง ๆ ได้ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหน้ายกกระชับ รูขุมขนกระชับดีขึ้น ผิวเนียน และลดปัญหาผิวมีริ้วรอยก่อนวัยอย่างเป็นธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์เป็นการเติมสาร HA หรือ Hyaluronic Acid เข้าไปช่วยเติมเต็มในใต้ชั้นผิว แทนใยคอลลาเจนของผิวที่หายไป ทำให้ผิวแข็งแรง และมีความยืดหยุ่น อีกทั้งทำให้ใบหน้าดูเด็กลง ลดความหมองคล้ำบนใบหน้าได้ อีกทั้งยังแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกได้อย่างดี
การทำทรีทเม้นท์บำรุงผิว
การทำทรีทเม้นท์บำรุงผิว เป็นการฉีดวิตามินผิว หรืออาหารผิวแบบขั้นสุดเข้าไปให้ผิว โดยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลักวิตามินเข้าสู่ผิว เพื่อเติมความชุ่มชื้น กระตุ้นการไหลเวียนเลือดในผิว ทำให้ช่วยแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ หน้าโทรม รูขุมขนกว้างได้อย่างเห็นผล แต่หากอยากเห็นผลที่ชัดเจน แนะนำว่าต้องทำการรักษาต่อเนื่องอย่างน้อย 6-8 ครั้ง
การมาสก์หน้า
การมาสก์หน้า เป็นวิธีการดูแลผิวที่ทำได้โดยง่าย และใช้เวลาไม่นาน มีราคาไม่แพง เพียงแต่ต้องใช้เวลาในการดูแลที่ยาวนาน และต่อเนื่องถึงจะเห็นผลที่ชัดเจน โดยเป็นการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวอิ่มน้ำ ลดความแห้งกร้านของผิว ทำให้ผิวไม่มัน รูขุมขนกระชับ ใบหน้าอิ่มฟู และสดใสขึ้น
Microbotox ลดหน้ามันคืออะไร เหมาะกับใคร?
Microbotox คือการฉีดโบทูลินัมท็อกซินแบบตื้น (intradermal) เป็นจุดเล็ก ๆ ทั่วใบหน้า เพื่อลดสัญญาณประสาท อะเซทิลโคลีน ไปยังต่อมไขมัน/เหงื่อ จึงช่วยลด “ความมันเงา” และทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ผลคงอยู่ราว 3–6 เดือน เหมาะกับผิวมัน-รูขุมขนเด่นที่ต้องการผลลัพธ์ไวและ downtime ต่ำ (ควรหลีกเลี่ยงในผิวที่มีการอักเสบ/สิวเห่อ)
🧴 ส่วนผสมสกินแคร์ที่ควรมี ถ้าผิวมัน–รูขุมขนเด่น
ส่วนผสม | คุณสมบัติหลัก | การใช้/คำแนะนำ |
---|---|---|
Salicylic acid (BHA) 0.5–2% |
✅ ละลายสิ่งอุดตันในรูขุมขน ✅ ลดขนคุด สิวหัวดำ ✅ ทำให้ผิวเรียบเนียน |
⚡ เริ่มใช้ วันเว้นวัน ให้ผิวค่อย ๆ ปรับตัว แล้วจึงเพิ่มความถี่ |
Niacinamide (Vitamin B3) 2–5% |
✅ ลดการผลิตน้ำมัน (มีงานวิจัยรองรับ) ✅ เสริม skin barrier ✅ ลดการอักเสบเล็กน้อย |
🛡️ ใช้ได้ทั้ง เช้า–เย็น คู่กับมอยส์เจอร์ไรเซอร์อ่อนโยน |
Zinc PCA / Copper PCA |
✅ ยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน ✅ ลดความมันเงา ✅ ต้านเชื้อแบคทีเรีย |
🛡️ ใช้ผสมในเซรั่มหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ประจำวัน |
Retinoids (Retinol, Retinal, Adapalene) |
✅ เร่งการผลัดเซลล์ ลดการอุดตัน ✅ กระตุ้นคอลลาเจน ✅ ทำให้รูขุมขนเล็กลงระยะยาว |
⚡ เริ่มจากความเข้มข้นต่ำ 2–3 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อลดการระคายเคือง |
Clay Mask (Kaolin, Bentonite) |
✅ ดูดซับความมันส่วนเกิน ✅ ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นทันที |
🛡️ ใช้ สัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง เสริมการดูแลผิว |
Sunscreen (Non-Comedogenic, Oil-Free) |
✅ ป้องกัน UV ทำลายคอลลาเจน ✅ ลดปัญหารูขุมขนกว้าง |
🛡️ เลือกสูตร เจล/ฟลูอิด บางเบา ไม่อุดตัน 🛡️ ใช้ทุกเช้าเป็นประจำ |
ข้อมูลเพิ่มเติมจากงานวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง
หน้ามัน & รูขุมขนกว้าง
งานวิจัยจาก Journal of Clinical and Aesthetic Dermatology (2017) ระบุว่า ฮอร์โมน Androgen และ Dihydrotestosterone (DHT) กระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน (Sebaceous gland) ทำให้ผิวผลิตน้ำมันมากเกินไป ส่งผลให้รูขุมขนกว้างและเกิดสิวอุดตันได้ง่าย
หน้าหมองคล้ำ
แสง รังสีอัลตราไวโอเลต (UVA/UVB) กระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินและทำลายคอลลาเจน ส่งผลให้ผิวหมองคล้ำและเกิดริ้วรอยก่อนวัย (Photodamage, Dermatology Research, 2020)
เลเซอร์หน้าใส (Q-Switch, Dual Yellow, Nd:YAG)
Lasers in Surgery and Medicine (2018) พบว่าเลเซอร์กลุ่มนี้สามารถลดเม็ดสีผิว ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และกระตุ้นคอลลาเจนได้ โดยไม่ทำให้ผิวบางลง
โบท็อกลดหน้ามัน
Journal of Drugs in Dermatology (2014) รายงานว่า การฉีด Botulinum Toxin Type A สามารถลดการทำงานของต่อมไขมันได้ชัดเจนภายใน 4 สัปดาห์ และผลลัพธ์อยู่ได้ 3–6 เดือน
Hifu ยกกระชับผิว
ข้อมูลจาก Aesthetic Surgery Journal (2015) ยืนยันว่า HIFU สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้น SMAS ช่วยยกกระชับ ลดรูขุมขน และปรับคุณภาพผิวได้จริง
ทำไมผิวถึงมันเกินปกติ (ระดับเซลล์)?
ต่อมไขมันมีเอนไซม์ 5-α-reductase เปลี่ยน testosterone → DHT ซึ่งจับตัวรับแอนโดรเจนใน sebocyte กระตุ้นการสร้างไขมัน (lipogenesis) และเพิ่มการแบ่งตัวของเซลล์ต่อมไขมัน → sebum มากขึ้น โดยเฉพาะช่วงฮอร์โมนแปรปรวน/ความเครียดสูง
ทำไมรูขุมขนยิ่งเห็นชัดเมื่ออายุเพิ่ม/โดนแดด?
รังสี UV กระตุ้น MMP-1/3/9 ทำลายคอลลาเจน type I/III ในชั้นหนังแท้ พื้นผิวสูญเสียแรงพยุงและความยืดหยุ่น → รูขุมขน “ดูใหญ่” และผิวดูหมองคล้ำง่ายขึ้น
เลเซอร์/อุปกรณ์ช่วยยังไงกับ “รูขุมขน”?
Nd:YAG 1064 nm (long/quasi-long pulse) ให้ความร้อนเชิงลึก กระตุ้นคอลลาเจนใหม่ ลด sebum/ขนาดรูขุมขน (มีงานคลินิกสนับสนุน), Pico fractional (MLA) สร้าง micro-injury ควบคุม → remodeling คอลลาเจน เหมาะกับผิวเอเชีย, Fractional CO₂/NAFL 1565 nm ลด pore size ได้แต่ downtime สูงกว่า, RF Microneedling ปล่อยพลังงานที่ชั้นลึกพร้อมเข็ม → เนื้อผิวละเอียดขึ้น
วิธีดูแลผิว แก้ปัญหาผิวง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
การดูแลผิวจากปัญหาหน้ามัน รูขุมขน และหน้าหมองคล้ำด้วยตัวเอง สามารถทำได้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด ด้วยวิธีที่ถูกต้อง และทำอย่างเบามือ
- เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง
- งดการเกา แกะ บีบสิว เพราะทำให้ผิวหน้านั้นถูกทำลาย และอาจเกิดเป็นรอยแผลเป็น รอยหลุมสิวได้
- ควรทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ออกแดด หรือไม่ออกแดด เพื่อป้องกันรังสี UV ที่เป็นตัวการทำร้ายผิว
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และครบ 5 หมู่ เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
- ดื่มน้ำ และพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อคือ
- ออกกำลังกาย เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใส
คำถามที่พบบ่อย วิธีดูแล “หน้ามัน รูขุมขนกว้าง และผิวหมองคล้ำ” ให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
Q1หน้ามันเกิดจากอะไร และรักษาอย่างไรให้หายขาด?
Q2รูขุมขนกว้างรักษายังไง pantip?
Q3เลเซอร์หน้าใสเจ็บไหม และต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผล?
Q4โบท็อกลดหน้ามันอยู่ได้นานกี่เดือน?
Q5เมโสหน้าใสต่างจากดริปวิตามินยังไง?
Q6การทำ Hifu ช่วยแก้รูขุมขนกว้างได้จริงไหม?
Q7ฟิลเลอร์ช่วยแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำได้หรือไม่?
Q8ทรีทเม้นท์หน้าใสกับเลเซอร์หน้าใสต่างกันยังไง?
Q9หน้ามันและสิวอุดตันควรใช้โฟมล้างหน้าแบบไหนดี?
Q10รูขุมขนกว้างจากกรรมพันธุ์รักษาได้ไหม?
Q11เลเซอร์หน้าใสทำให้ผิวบางจริงหรือไม่?
Q12โบท็อกลดหน้ามันมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
Q13ผิวหมองคล้ำจากแดดแก้ได้ด้วยวิธีไหนเร็วที่สุด?
Q14การดื่มน้ำและพักผ่อนเพียงพอช่วยลดความมันได้จริงไหม?
Q15เลเซอร์ Q-Switch, Dual Yellow และ Nd:YAG ต่างกันอย่างไร?
สรุปวิธีดูแลผิวหน้า หมดปัญหาผิวหน้ามัน รูขุมขนกว้าง และหน้าหมองคล้ำ
ปัญหาผิวหน้ามัน รูขุมขนกว้าง และหน้าหมองคล้ำนั้นสามารถดูแล และแก้ไขได้ หากมีการดูแลอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ ทั้งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลทำความสะอาดผิวหน้า พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ แต่หากผู้ที่ไม่มีเวลาในการดูแลผิว หรือต้องการเห็นผลลัพธ์แบบชัดเจนและเร่งด่วน สามารถใช้หัตถการทางการแพทย์ในการช่วยดูแลผิวได้ อย่างเช่น เลเซอร์หน้าใส การฉีดเมโสหน้าใส การฉีดโบท็อกเพื่อช่วยลดความมันของใบหน้าได้
หากต้องการหัตถการในการช่วยดูแลผิวสามารถติดต่อสอบถาม หรือขอคำปรึกษาได้ที่ กังนัมคลินิกทุกสาขาทั่วประเทศ หรือติดต่อผ่าน Line ID : @gangnamclinic ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
เอกสารอ้างอิงทางการแพทย์และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
- Goldman, M. P., & Fitzpatrick, R. E. (2018). Lasers in aesthetic dermatology. Lasers in Surgery and Medicine, 50(1), 2–12. https://doi.org/10.1002/lsm.22800
- Rose, A. E., Goldberg, D. J., & Landau, M. (2014). Botulinum toxin type A for reduction of facial oiliness. Journal of Drugs in Dermatology, 13(2), 168–172.
https://jddonline.com/ - Suh, D. H., Shin, M. K., Lee, S. J., & Rho, N. K. (2015). Intense focused ultrasound tightening in Asian skin: Clinical and histological results. Aesthetic Surgery Journal, 35(6), 689–697. https://doi.org/10.1093/asj/sjv034