สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นพันพ้นอันหาที่สุดไม่ไม่ได้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาด พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ข้าพระพุทธเจ้าคณะผู้บริหารและพนักงาน บริษัท โชลคลินิก จำกัด
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow

อัปเดตเทรนหน้าใสเกาหลี ฉีดตัวไหนดี และฉีดตัวไหนพร้อมกันได้บ้าง 

อัปเดตเทรนหน้าใสเกาหลี ฉีดตัวไหนดี และฉีดตัวไหนพร้อมกันได้บ้าง

Table of Contents

เทรนด์หน้าใสฉบับสาวเกาหลี ฉีด Rejuran, Meso Chanel, Meso Celine และ Juvelook กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นไทย ซึ่งการทำให้ผิวกระจ่างใสแบบสาวเกาหลี สามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน บางวิธีก็สามารถทำเองได้โดยการใช้ครีมบำรุงหรือการแต่งหน้า แต่บางวิธีก็เป็นการทำหัตถการ ที่ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แล้วหัตถการที่ว่า มีอะไรบ้าง ? และผลลัพธ์ที่ได้เป็นอย่างไร ? ตัวไหนฉีดพร้อมกันได้บ้าง ? บทความนี้มีคำตอบให้

Rejuran

Rejuran คืออะไร ?

รีจูรัน (Rejuran) เป็นหนึ่งในหัตถการในกลุ่มของเมโสหน้าใส มีองค์ประกอบหลักคือ Polynucleotide (โพลีนิวคลีโอไทด์) ที่มีความบริสุทธิ์เข้มข้น 2% ที่ถูกสกัดมาจากชิ้นส่วน DNA ของปลาแซลมอนที่อยู่ตามธรรมชาติในทะเล ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับ DNA มนุษย์สูงถึง 98% โดยจะฉีดเข้าสู่ผิวโดยตรง ตัวยาจะเขาไปฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวในชั้นผิวได้อย่างรวดเร็ว ด้วยกระตุ้นการสร้างสารเคลือบเซลล์ 3 ชนิดด้วยกัน คือ คอลลาเจน อิลาสตินและHA ขึ้นมาใหม่ จุดเด่นของ Polynucleotide คือ สามารถเชื่อมต่อหลอดเลือดเล็ก ๆ ในเซลล์ได้ดี ทำให้ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสื่อมได้ดีขึ้น สามารถการกระตุ้นการหลั่ง Growth Factor ได้ อีกทั้งยังช่วยสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน รวมไปถึง Fibroblast ที่จะช่วยให้ผิวมีความแข็งแรง สุขภาพดีอีกด้วย     

ช่วยเรื่องอะไร ?

  • ช่วยฟื้นฟูผิวให้มีความแข็งแรง มีความยืดหยุ่น ดูสุขภาพดี 
  • ช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น เช่น ตีนกา รอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าและคอ 
  • ช่วยรักษารอยแผลเป็น ไม่ว่าจะเป็นรอยแดง รอยดำ เป็นต้น
  • ช่วยปรับสีผิวให้มีความสม่ำเสมอกัน เพิ่มความกระจ่างใสแก่ผิว มีความฉ่ำวาวดั่งกระจก หรือที่ในปัจจุบันนิยมเรียกกันว่า ‘Glass Skin’ 

เห็นผลภายในกี่วัน ?

สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังฉีดประมาณ 3-5 วัน และควรฉีดต่อเนื่อง 4 ครั้ง โดยห่างกันทุก ๆ 2-3 สัปดาห์ จะทำให้ได้ผลลัพธ์นานถึง 6 เดือน ผลลัพธ์อาจจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับสภาพผิว การดูแลผิว และลักษณะการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคน

เหมาะกับใคร ?

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีสุขภาพผิวที่ดีอย่างเป็นธรรมชาติ
  • เหมาะกับผู้ที่มีผิวหน้าแห้งกร้าน โทรม ผิวหน้าไม่ชุ่มชื้น
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยตามวัยบนใบหน้า
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องสิว ต้องการให้รูขุมขนมีความกระชับและใบหน้าที่เรียบเนียน
  • เหมาะกับผู้ที่มีผิวหมองคล้ำจากแสงแดด ต้องการปรับสีผิวให้เสมอกัน รวมไปถึงลดรอยฝ้าและกระ จากแดดอีกด้วย

Meso Chanel

Meso Chanel คืออะไร ?

เมโสชาแนล (Meso Chanel) เป็นชื่อเรียกของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสกินบูสเตอร์ (Skin Booster) ซึ่งคำว่า ชาแนล มาจากการนำชื่อ Luxury Brand อย่าง Chanel มาใช้เพื่อเพิ่มความไฮเอนด์ให้แก่ตัวยา

เมโสชาแนลมีลักษณะเด่น คือ เป็นสารสกัดในกลุ่มไฮยาลูรอนิกแอซิดแบบโมเลกุลเดี่ยว (Non-Cross Linked HA) จะผสมกับสารบำรุงผิวต่าง ๆ ที่สำคัญ เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุ และวิตามิน อยู่ในรูปของสารแบบน้ำ สามารถซึมเข้าสู่ผิวชั้นลึกโดยไม่ทำให้เกิดการอุดตันที่เส้นเลือด มีความปลอดภัยอย่างแน่นอน

หลักการทำงานของ Meso Chanel จะเป็นการนำตัวยาฉีดเข้าไปยังบริเวณผิวหน้า ตัวยาจะซึมลงสู่เซลล์ผิวได้ทันที สารสกัดต่าง ๆ เช่น HA สารต้านอนุมูลอิสระ กรดอะมิโน วิตามิน หรือแร่ธาตุ จะเข้าไปกระตุ้นเซลล์ผิวหนังในชั้นลึก ทำให้ Growth Factor สามารถทำงานได้ดี และยังช่วยให้ Fibroblast ทำงานได้อีกขึ้นอีกด้วย 

ช่วยเรื่องอะไร ?

  • ช่วยปรับผิวหน้าให้สม่ำเสมอ มีความกระจ่างใสเสมอกันทั้งใบหน้า มีความฉ่ำวาวแบบ Glass Skin
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวมีความเต่งตึง เรียบเนียน อีกทั้งยังสามารถช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้าได้ 
  • ช่วยรักษาฝ้า กระ รอยดำจากสิว 

เห็นผลภายในกี่วัน ?

สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังฉีดประมาณ 3 วัน ควรฉีดต่อเนื่องทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ในช่วง 1 เดือนแรก ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน จากนั้นเว้นช่วงเป็นฉีดทุก 4 สัปดาห์ได้ เพื่อคงสภาพผิว ผลลัพธ์อาจจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับสภาพผิว การดูแลผิว และลักษณะการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคน

เหมาะกับใคร ?

  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น
  • เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยหรือจุดด่างดำบนใบหน้า รวมไปถึงรอยแผลเป็นจากสิว
  • เหมาะกับผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ ผิวบนใบหน้าไม่สม่ำเสมอกัน
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีผิวแบบ Glass Skin
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้ามีความแข็งแรง ไม่แพ้ง่าย

Meso Celine

Meso Celine คืออะไร ?

เมโสซีลีน (Meso Celine) เป็นชื่อเรียกของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสกินบูสเตอร์ (Skin Booster) ซึ่งคำว่า ซีลีน มาจากการนำชื่อ Luxury Brand อย่าง Celine มาใช้เพื่อเพิ่มความไฮเอนด์ให้แก่ตัวยา  โดยจะเรียกยี่ห้อ L’ebss รุ่น Lumi Serum หรือ L’ebss กล่องเหลือง ว่า เมโสซีลีน

เมโสซีลีน เป็นผลิตภัณฑ์ในการบำรุงและฟื้นฟูผิวหน้าให้กระจ่างใส เพิ่มความชุ่มชื้น ลดรอยฝ้า กระ โดยตัวซีลีนจะเน้นไปทางเพิ่มความ Brightening ให้แก่ผิว ปรับสีผิวให้เสมอกัน มีส่วนประที่สำคัญ ดังนี้

  • Rose Yeast สารสกัดยีสต์จากกุหลาบ จะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูง
  • กรดทรานเอ็กซามิก (Tranexamic Acid) เป็นสารที่ถูกสังเคราะห์มาเพื่อเลียนแบบกรดอะมิโนที่มีชื่อว่า ไลซีน ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยลดเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวมีความกระจ่างใส ยังสามารถลดฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ด้วย
  • กลูตาไธโอน (Glutathione) เป็นสารที่ร่างกายสามารถสร้างเองได้ แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้น จะมีการผลิตสารตัวนี้ลดลง มีคุณสมบัติในการปกป้องการถูกทำลายของเนื้อเยื่อจากอนุมูลอิสระ กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความขาว กระจ่างใสให้แก่ผิวอีกด้วย

ช่วยเรื่องอะไร ?

  • ช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวมีความเรียบเนียน เต่งตึง สุขภาพดี
  • ช่วยลดเรือนริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า
  • ช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง
  • ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดจากเม็ดสีเมลานินทำงานผิดปกติ เช่น กระ ฝ้า โดยการเปลี่ยนเมลานินสีน้ำตาลและดำให้กลายเป็นสีชมพู
  • ช่วยให้ผิวมีความขาวกระจ่างใสดั่ง Glass Skin

เห็นผลภายในกี่วัน ?

ปัญหาเรื่องจุดด่างดำ กระ ฝ้า จะค่อย ๆ จางลงไป โดยความเข้มของเม็ดสีเมาลานินบนใบหน้าจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 4 เดือน ควรทำอย่างต่อเนื่อง 3-4 สัปดาห์ต่อครั้ง โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 3 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว การดูแลผิว และลักษณะการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคน 

เหมาะกับใคร ?

  • เหมาะกับผู้ที่ผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด 
  • เหมาะกับผู้ที่ผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอกัน
  • เหมาะกับผู้ที่มีความผิดปกติจากเม็ดสีเมลานิน เช่น กระหรือฝ้า
  • เหมาะกับผู้ที่มีจุดด่างดำ รอยดำจากสิว รอยแผลจากสิว

Juvelook

Juvelook คืออะไร ?

Juvelook (จูวีลุค) เป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนประเภท Hybrid Biostimulator มีส่วนผสมที่สำคัญ 2 ชนิด คือ  PDLLA (Poly D,L-Lactic Acid) และ HA (Hyaluronic Acid) ภายในตัวเดียวกัน โดย PDLLA เป็นโปรตีนที่สำคัญต่อความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของผิว ส่วน HA เป็นสารเติมเต็มผิวที่ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำและชุ่มชื้น

Juvelook ถูกเรียกว่าไหมน้ำ เพราะว่ามีคุณสมบัติคล้ายกับการร้อยไหม แต่จะแตกต่างกันที่กรรมวิธี การร้อยไหมโดยทั่วไปจะมีไหม PDO, PCL, PDLLA ซึ่งมีรูปแบบเป็นเส้น ส่วน Juvelook จะใช้ PDLLA ซึ่งมีสถานะเป็นน้ำ ฉีดเข้าไปบริเวณใบหน้า ซึ่งง่ายและปลอดภัยกว่าเข็มร้อยไหมจริง ๆ  อ่านเพิ่มเติม Juvelook คืออะไร? เหมาะกับใคร ต้องฉีดกี่ครั้ง? ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง? ราคาเท่าไหร่?

ช่วยเรื่องอะไร ?

  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวมีความกระชับ เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ลง
  • ช่วยเติมเต็มร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า อีกทั้งยังเติมเต็มหลุมสิวและรอยแผลเป็นให้เรียบเนียนอีกด้วย
  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ใบหน้า ทำให้ดูฉ่ำวาวสุขภาพดี
  • ช่วยกระชับรูขุมขน ให้ผิวมีความเรียบเนียนมากขึ้น
  • ช่วยปรับผิวให้มีความสว่าง กระจ่างใสขึ้น 
  • ช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพจากอายุที่เพิ่มขึ้น

เห็นผลภายในกี่วัน ?

สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังฉีด สำหรับปัญหาเรื่องถุงใต้า ใต้ตาลึก หลังจากนั้นอีก 2-4 สัปดาห์ผิวจะมีความอิ่มฟู เรียบเนียน สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นในช่วงเวลานี้ และหลังจากฉีดไปแล้ว 6 เดือน คอลลาเจนในผิวจะเพิ่มมากขึ้น หลุมสิว รอยแตก รอยแผลจะดูจางลง ผิวดูสุขภาพดี 

เหมาะกับใคร ?

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูเด็กลงโดยไม่ต้องผ่าตัด
  • เหมาะกับผู้ที่ผิวหน้าแห้ง ขาดน้ำ ดูไม่สดชื่น และต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
  • เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็น รอบดวงตา หน้าผาก มุมปาก เป็นต้น
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องสิวและรอยแผลเป็นจากสิว 
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องจุดด่างดำ รอยดำ รอยแดง
  • เหมาะกับผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ 

ฉีดตัวไหนพร้อมกันได้บ้าง ?

หัตถการดังกล่าวมีบางตัวที่สามารถฉีดพร้อมกันได้ อย่างไรก็ตามควรเข้าปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการทุกครั้งเพื่อรับการประเมินสภาพผิวและคำแนะนำในการฉีดพร้อมกัน

Rejuran กับ Meso Chanel

Rejuran กับ Meso Chanel สามารถฉีดพร้อมกันได้ และจะเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูหน้าได้เร็วขึ้น โดย Rejuran จะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่วนตัว Meso Chanel จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น เพิ่มความกระจ่างใสให้แก่ผิว เรามีวิธี กู้ผิวคล้ำเสียด้วย Rejuran กับ Meso Chanel ดีไหม? ฉีดพร้อมกันได้ไหม ?

Rejuran กับ Meso Celine 

Rejuran กับ Meso Celine สามารถฉีดพร้อมกันได้ โดยผลลัพธ์จะคล้ายกับชาแนล แต่จะได้ผลลัพธ์เพิ่มเรื่องความกระจ่างใสและความขาว ปรับสีผิวให้ผิวมีความสม่ำเสมอกัน 

Meso Chanel กับ Meso Celine

คนไข้ท่านใดที่มีปัญหาผิวแห้งกร้านและหมองคล้ำ สามารถฉีดชาแนลพร้อมกับซีลีนได้ ผลลัพธ์ที่ได้จะดีขึ้นกว่าเดิมและเห็นผลได้เร็วขึ้นอีกด้วย

สรุป อัปเดตเทรนหน้าใสเกาหลี ฉีดตัวไหนดี และฉีดตัวไหนพร้อมกันได้บ้าง 

ทั้ง Rejuran, เมโสชาแนล, เมโสซีลีนและJuvelook ต่างเป็นหัตถการที่ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน คือ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนการปรับสีผิวให้มีความกระจ่างใสเป็นธรรมชาติ มีความ Glass Skin อย่างที่กำลังเป็นเทรนด์ในปัจจุบัน โดยแต่ละชนิดก็มีความแตกต่างกันทั้งด้านส่วนประกอบและวิธีการ คนไข้ท่านใดสนใจจะทำหัตถการแบบไหนหรือจะฉีดตัวไหนพร้อมกัน ควรจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของตัวคนไข้เอง

ปรึกษาหมอฟรี กังนัมคลินิก 43 สาขาใกล้บ้าน

Scroll to Top
gangnamclinicthailand