ฟิลเลอร์หัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือการฉีด “ฟิลเลอร์เกาหลี vs ฟิลเลอร์อเมริกา” ที่กำลังมาแรง โดยเฉพาะฟิลเลอร์ HyaMax (เกาหลี) และ Juvederm (อเมริกา) ที่ต่างก็เป็นตัวท็อปในวงการแพทย์ความงาม ที่เหล่าคนรักสวยรักงามมักจะเลือกฉีด โดยทั้งสองยี่ห้อต่างมีความปลอดภัยผ่าน อย. ของไทย แต่ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน
ทำความรู้จักกับ HyaMax และ Juvederm แต่ละแบรนด์

HyaMax Filler คืออะไร
ฟิลเลอร์เกาหลีแท้ ที่ผลิตจากบริษัท Human Meditek โดยใช้เทคโนโลยี Cross-linked Technology และ Strereocrosslinking Technology จึงทำให้ลดความเสี่ยงของการแพ้ยา และช่วยเชื่อมพันธะโมเลกุล ส่งผลให้สามารถยึดเกาะได้อย่างเหนียวแน่น เติมเต็มส่วนต่าง ๆ ได้อย่างเรียบเนียน ละมุน ดูเป็นธรรมชาติ
อ่านเพิ่มเติม : HyaMax Filler คืออะไร? ฟิลเลอร์เกาหลีแท้ คืนความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย ให้ผิวสวยละมุนเป็นธรรมชาติ
Juvederm คืออะไร
ฟิลเลอร์พรีเมียมจากประเทศอเมริกา ผลิตโดยบริษัท Allergan ที่ใช้เทคโนโลยี VYCROSS Technology และ VYCROSS Technology ในการผลิต ใช้สำหรับฉีดเติมเต็มส่วนต่าง ๆ ปรับรูปหน้า รวมถึงแก้ปัญหาริ้วรอย อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
เปรียบเทียบเนื้อฟิลเลอร์
| รายการ | HyaMax (เกาหลี) | Juvederm (อเมริกา) |
|---|---|---|
| ประเทศที่ผลิต | เกาหลี | อเมริกา |
| หน่วยงานรับรองความปลอดภัย | อย.ไทย และ US FDA | อย.ไทย และ US FDA |
| เนื้อฟิลเลอร์ | เนื้อนุ่ม ละเอียด | มีทั้งเนื้อนุ่มและเนื้อแข็ง |
| ผลลัพธ์ | ให้ผลลัพธ์ที่ผิวละมุน เป็นธรรมชาติ | ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ |
| ราคาเริ่มต้น | เริ่มต้น 12,900 บาท | เริ่มต้น 10,693–15,000 บาท |
จุดเด่นและข้อแตกต่างของ HyaMax vs Juvederm

จุดเด่นของ HyaMax
HyaMax เนื้อฟิลเลอร์มีความละเอียด นุ่ม เข้ากับผิวได้ค่อนข้างดี มีความยืดหยุ่นสูง ไม่เป็นก้อนหลังจากฉีด สามารถอุ้มน้ำได้อย่างดี และสามารถยึดเกาะผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า เติมเต็มส่วนต่าง ๆ แก้ปัญหาริ้วรอย รวมถึงผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดแต่อยากได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 12,900 บาท
จุดเด่นของ Juvederm
Juvederm เนื้อฟิลเลอร์มีทั้งแบบนุ่มและแบบแข็ง เน้นที่ความเรียบเนียน จึงเหมาะกับการนำมาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ปาก คาง ร่องแก้ม ขมับ เป็นต้น อีกทั้งตัวฟิลเลอร์ยังมีส่วนผสมของยาชา จึงช่วยให้ไม่รู้สึกเจ็บในขณะฉีด โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 10,693-15,000 บาท
HyaMax และ Juvederm เหมาะกับบริเวณไหนบ้าง

HyaMax และ Juvederm เหมาะกับการฉีดบริเวณ ริมฝีปาก ขมับ ร่องแก้ม ใต้ตา คาง และฉีดปรับรูปหน้า แต่ด้วยเทคโนโลยีในการผลิตที่แตกต่างกัน จึงทำให้ฟิลเลอร์ HyaMax จะมีความละมุนดูเป็นธรรมชาติมากกว่า Juvederm แต่ ฟิลเลอร์ Juvederm นั้นยกกระชับผิวได้ชัดมากกว่า
ฟิลเลอร์ HyaMax และ Juvederm ปลอดภัยไหม?

ฟิลเลอร์ HyaMax และ Juvederm มีความปลอดภัย หากมีการใช้ฟิลเลอร์ที่เป็นของแท้ได้มาตรฐาน โดยทั้งสองยี่ห้อมีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid ที่สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ อีกทั้งยังผ่านการรับรองจาก อย. ไทย และ US FDA อีกด้วย
ราคา HyaMax vs Juvederm ที่กังนัมคลินิก
ฟิลเลอร์ HyaMax 1 cc ราคาเริ่มต้นประมาณ 12,900 บาท ส่วนฟิลเลอร์ Juvederm 1 cc ราคาเริ่มต้นประมาณ 10,693-15,000 บาท โดยขึ้นอยู่กับรุ่น รวมถึงบริเวณที่ทำการฉีด
เลือกฟิลเลอร์แบบไหนดีให้เหมาะกับเรา
โดยปกติฟิลเลอร์แบบเนื้อนิ่ม จะเหมาะสำหรับการเติมร่องตื้น เพื่อต้องการความอ่อนนุ่มเป็นธรรมชาติ ส่วนฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เหมาะกับการฉีดบริเวณที่ต้องการความคงตัวและรูปทรงที่ชัดเจน รวมถึงแก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ
แต่ทางที่ดีการเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการประเมินสภาพผิว ปริมาณที่ใช้ในการฉีด รวมถึงบริเวณที่เหมาะกับการฉีด อย่างที่กังนัมคลินิกเรามีแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการให้คำแนะนำ ปรึกษา ประเมินสภาพผิวก่อนการฉีด เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
สรุป HyaMax Filler vs Juvederm ต่างกันยังไง? เปรียบเทียบจุดเด่น เลือกแบบไหนดี กังนัมคลินิก
HyaMax Filler และ Juvederm Filler ทั้งคู่เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพสูง ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยทั้งในไทยและต่างประเทศ ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ โดยฟิลเลอร์ HyaMax จะให้ความซอฟต์ ละมุน ดูเป็นธรรมชาติ ในราคาที่คุ้มค่า ส่วน Juvederm จะยกชัด มีความคงตัวสูง จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลุคที่คมชัด แต่ก็ยังให้ความเป็นธรรมชาติเช่นกัน










