โบท็อกซ์ Hutox โบท็อกซ์ตัวดังจากเกาหลี ที่ตอบโจทย์คนที่อยากมีใบหน้าเรียวสวย และปราศจากริ้วรอยลึกทำให้ใบหน้าเรียบเนียน แต่ก็อาจมีคำถามจากหลาย ๆ คนว่าเมื่อฉีดโบท็อกซ์ Hutox แล้วอาการหลังฉีดจะเป็นอย่างไร มีผลข้างเคียงต่างจากโบท็อกซ์ตัวอื่น ๆ ไหม รวมถึงมีวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างไรบ้าง หาคำตอบไขข้อสงสัยไปพร้อมกันในบทความนี้ได้เลย
ทำความรู้จักโบท็อกซ์ Hutox คืออะไร?
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ Hutox กันก่อนว่าคืออะไร Hutox คือ โบท็อกซ์ที่มีสารประกอบสำคัญที่ช่วยในการลดการทำงานของกล้ามเนื้ออย่าง Clostridium Botulinum Type A (HU-014) โดยมีจุดเด่นคือ มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.8% ทำให้เห็นผลลัพธ์ในการช่วยปรับรูปหน้า และช่วยลดริ้วรอยได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย เกิดผลข้างเคียงที่น้อย รวมถึงราคาที่สามารถจับต้องได้
บทความแนะนำ : ทำความรู้จัก Hutox โบท็อกซ์ตัวดังจากเกาหลีคืออะไร? ฉีดแล้วดีไหม? ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?
ข้อดีของโบท็อกซ์ Hutox มีอะไรบ้าง?
เนื่องจาก Hutox เป็นโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูง ทำให้ปลอดภัย และเห็นถึงประสิทธิภาพของผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว จึงส่งผลต่อข้อดีดังต่อไปนี้
- มั่นใจในผลลัพธ์และความปลอดภัยเนื่องจากมีความบริสุทธิ์สูง 99.8%
- เห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็ว เริ่มเห็นผลได้ตั้งแต่ 3-7 วันหลังฉีด
- ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวย ลดขนาดกราม ยกกระชับผิว
- ช่วยลดริ้วรอยลึก ทำให้รอยตื้นขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
- ช่วยลดรูขุมขน ทำให้ใบหน้าเรียบเนียน
- ช่วยลดเหงื่อ แก้ปัญหาผู้ที่มีเหงื่อออกมาเกินไปได้
- คงผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 4-6 เดือน
Hutox สามารถฉีดบริเวณไหนได้บ้าง?
Hutox นั้นมักจะฉีดในบริเวณใบหน้า เพื่อช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวย และช่วยลดริ้วรอย แต่ก็สามารถฉีดบริเวณอื่นเพื่อช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ โดยบริเวณที่สามารถฉีดได้ มีดังนี้
- หน้าผาก เพื่อช่วยลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า หรือรอยขมวดคิ้ว
- ระหว่างคิ้ว ช่วยลดรอยย่น
- หางตา เพื่อช่วยลดรอยตีนกา
- กราม เพื่อลดขนาดกราม ปรับรูปหน้า ให้ใบหน้าเรียวสวย
- มุมปาก เพื่อช่วยให้มุมปากยกขึ้น ดูสดใส
- คอ เพื่อช่วยลดรอยย่นและริ้วรอย
- รักแร้ เพื่อช่วยแก้ปัญหาเหงื่อออกมาก
- น่อง เพื่อช่วยลดปัญหาน่องใหญ่ ทำให้ขาเรียวสวยขึ้น
อาการหลังฉีด Hutox เป็นอย่างไร?
อาการหลังฉีดโบท็อกซ์ Hutox อาจเกิดผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรง และสามารถหายเองได้ โดยอาจจะมีอาการและผลข้างเคียงดังนี้
- อาจเกิดรอยช้ำเล็กน้อยจากเข็ม บริเวณที่ทำการฉีด แต่รอยจะหายไปเองภายใน 7-14 วัน
- อาจมีอาการรู้สึกตึงบริเวณที่ฉีด เนื่องจากการออกฤทธิ์ของตัวยา และอาการจะหายไปเองภายใน 7-14 วัน
- รอยบวม แดง บริเวณที่ฉีด และมักจะหายเองภายใน 1-2 วัน
แต่หากพบว่ามีอาการต่าง ๆ เหล่านี้แล้วหายช้า รุนแรงมากขึ้น หรือพบอาการรุนแรงอื่น ๆ เช่น มีปัญหาในการพูด การกลืนอาหาร การมองเห็นที่เปลี่ยนแปลง กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ควรรีบพบแพทย์ทันที
การปฏิบัติดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ทำอย่างไร?
การปฏิบัติดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ผลลัพธ์นั้นมีประสิทธิภาพ และยังช่วยยืดเวลาของโบท็อกซ์ให้อยู่ได้นานมากขึ้น ไม่สลายไว และลดการเกิดผลข้างเคียง ได้ โดยมีข้อปฏิบัติดังนี้
- ควรยิ้ม หรือขยับใบหน้าเบา ๆ เพื่อให้ตัวยาดูดซึมได้มากที่สุด ควรทำหลังจากฉีด 1-2 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการนอนราบ นอนตะแคง หรือนอนคว่ำ อย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการถู ขัด นวด บริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ อย่างน้อย 12 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการกระจายตัวของยา หรือไหลไปกล้ามเนื้อบริเวณอื่นที่เราไม่ต้องการ
- งดการแต่งหน้าในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังจากฉีด
- งดออกกำลังกายหนักในวันที่ทำการฉีดโบท็อกซ์
- งดทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ การตากแดด กินหน้าอาหารหน้าเตาความร้อน รวมถึงการเลเซอร์
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบ อาการบวมจะหายช้า และผลลัพธ์จะสั้นลง
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้ปวด อย่าง ยาแอสไพริน ยานาพรอกเซน และ ยาไอบูโพรเฟน เป็นต้น
ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์?
การฉีดโบท็อกซ์เป็นหนึ่งในหัตถการที่ปลอดภัย แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ไม่ควรทำ หรือหากต้องการทำควรต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ ดังนี้
กลุ่มคนที่ห้ามฉีดโบท็อกซ์ แบบที่ไม่สามารถฉีดได้
- ผู้ที่มีปัญหาในเรื่องกล้ามเนื้อในการกลืน
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจ เช่น ถุงลมโป่งพอง โรคหอบหืด
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ผู้ที่มีปัญหาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ มีภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
- ผู้ที่มีอาการติดเชื้อที่ผิวหนัง ในบริเวณที่ทำการฉีด
กลุ่มคนที่ต้องระวัง สามารถฉีดได้แต่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อน
- ผู้ที่มีประวัติการแพ้ส่วนผสมของโบท็อกซ์
- ในคนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เพราะยังไม่มีผลวิจัยรองรับความปลอดภัย
- ผู้ที่เคยมีผลข้างเคียงจากการฉีดโบท็อกซ์
- ผู้ที่มีภาวะเลือดหยุดยาก หรือมีภาวะเขียวช้ำง่าย
- ผู้ที่มีกำหนดการจะผ่าตัด หรือเคยผ้าตัดใบหน้ามาก่อน
- ผู้ที่เคยทำหัตถการต่าง ๆ บนใบหน้ามาก่อน เช่น เลเซอร์ ร้อยไหม ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ เมโส เป็นต้น
- ผู้ที่ตั้งครรภ์ และให้นมบุตร เนื่องจากยังไม่มีผลวิจัยรองรับ
ฉีดโบท็อกซ์ Hutox กี่วันเห็นผล? ฉีดซ้ำได้ไหม?
Hutox เป็นโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์ถึง 99.8% จึงทำให้มีประสิทธิภาพ หลังจากฉีดรู้สึกภายใน 24 ชั่วโมง และเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ 3-7 วัน และผลลัพธ์นั้นคงอยู่ได้ยาวนานถึง 4-6 เดือน แล้วหลังจากนั้นกลับมาฉีดซ้ำได้
FAQ คำถามที่พบบ่อย
โบท็อกซ์สลายเร็วเกิดจากอะไร?
ปัจจัยหลักมาจาก ความร้อนและการไหลเวียนของเลือด ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังจากฉีด การดูแลตัวเองจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานนั่นเอง
ฉีดโบท็อกซ์นวดหน้าได้ไหม?
ควรงดการนวดหน้า สครับหน้า หรือเลเซอร์หลังจากฉีด 2 สัปดาห์ แต่หากมีคอร์สที่ต้องทำเป็นประจำแนะนำให้ทำก่อนมาฉีดโบท็อกซ์
หลังฉีดโบท็อกซ์กินอะไรไม่ได้บ้าง?
หลังจากฉีดโบท็อกซ์ควรงดอาหารประเภทของดอง เช่น ผักผลไม้ดอง ปลาร้า หรืออาหารรสเผ็ดจัด รวมถึงอาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาอย่าง ปิ้งย่าง ชาบู เพราะจะทำให้หลอดเลือดขยายตัว
ฉีดโบท็อกซ์ทาครีมได้ไหม?
ทาครีมได้ปกติ แต่ควรเว้นตรงบริเวณที่ทำการฉีดหรือบริเวณที่มีรอยเข็ม อย่างน้อย 1 วัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ฉีดโบท็อกซ์แล้วโบท็อกซ์บวมเกิดจากอะไร?
หลังฉีดโบท็อกซ์แล้วโบท็อกซ์บวม หน้าบวมนั้น หรือเป็นรอยนูนขึ้นมานั้นเป็นเรื่องปกติหลังจากฉีดที่จะมีอาการหน้าบวม แต่จะสามารถหายได้เองใน 2-3 วัน แต่หากยังมีอาการรุนแรงที่อาจเกิดจากการแพ้โบท็อกซ์ควรรีบพบแพทย์ทันที
สรุปอาการหลังฉีด Hutox Botox เป็นอย่างไร? มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง? และมีวิธีดูแลหลังฉีดอย่างไร?
Hutox คือ โบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.8% เห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว และปลอดภัย สามารถฉีดได้หลายบริเวณ เพื่อช่วยปรับรูปหน้า ให้เรียวสวย และช่วยลดริ้วรอยลึกต่าง ๆ และเพื่อให้การฉีดโบท็อกซ์นั้นได้ผลลัพธ์ที่คงความยาวนานและมีประสิทธิภาพ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างเคร่งครัด และที่สำคัญควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน ความปลอดภัย และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในการรักษาจริง เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้รับบริการ และได้ผลลัพธ์ที่มั่นใจได้ประสิทธิภาพนั่นเอง