การฉีดฟิลเลอร์ยังคงติดอันดับหัตถการยอดนิยมของคนไทยในปัจจุบัน ด้วยนวัตกรรมที่ช่วยให้ผิวกลับมาดูอ่อนเยาว์อีกครั้งหนึ่ง ช่วยปรับรูปหน้าให้ชัดเจนขึ้น และเติมเต็มส่วนที่หายไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ บริษัทต่าง ๆ จึงผลิตฟิลเลอร์ขึ้นมาเพื่อแข่งขันกันในตลาด ซึ่งมีอยู่หนึ่งยี่ห้อที่มีความปลอดภัย เติมเต็มผิวได้หลากหลายจุด นั่นก็คือ “Volifil”
ฟิลเลอร์ Volifil คืออะไร
Volifil (โวลิฟิล) เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตโดยบริษัท BNC Korea จากประเทศเกาหลีใต้ จัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์ประเภท Monophasic กล่าวคือฟิลเลอร์ที่เป็นเนื้อเจลประกอบไปด้วยโมเลกุล HA เนื้อเดียว เหมาะกับการเพิ่มปริมาตรให้แก่ผิว มีความปลอดภัยสูง ได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทั้งจากยุโรป สหรัฐอเมริกา รวมถึงประเทศไทยด้วย
หลักการทำงานของฟิลเลอร์
เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าสู่บริเวณที่ต้องการแล้ว ตัวยาที่มีส่วนประกอบของ HA จะเข้าไปทำปฏิกิริยากับน้ำใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้เกิดการคงรูปของฟิลเลอร์ ผิวบริเวณที่ฉีดจึงถูกเพิ่มปริมาตรให้ตื้นขึ้น ดูอ่อนเยาว์ รวมไปถึงการปรับรูปหน้าให้คมชัดยิ่งขึ้น
ฟิลเลอร์ Volifil ปลอดภัยไหม
ฟิลเลอร์ Volifil มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ได้มาตรฐานยุโรป โดยมีกระบวนการผลิตและได้รับมาตรฐานการผลิต ดังนี้
ผ่านมาตรฐาน CE Mark, ISO 13485
Volifil ผ่านมาตรฐาน CE (Conformite Europeene) หรือ มาตรฐานความปลอดภัยสหภาพยุโรป ซึ่งสามารถจำหน่ายได้ 30 ประเทศของเขตเศรษฐกิจยุโรป ในวงการแพทย์ เป็นที่ทราบกันดีว่าการที่จะได้รับมาตรฐาน CE นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก Volifil ได้รับมาตรฐานนี้ เป็นเครื่องยืนยันว่าฟิลเลอร์ตัวนี้มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงอย่างแน่นอน
ได้รับการรับรองความปลอดภัย FDA DMF และ EDQM
Volifil ได้ผ่านการรับรอง FDA (Food and Drug Administration) DMF (Drug Master Files) และ EDQM (European Directorate for the Quality of Medicines & HealthCare) โดยองค์กรมาตรฐานในระดับสากล
ใช้เทคโนโลยี HCCL™
เป็นเทคโนโลยีการผลิตเฉพาะของ BNC เป็นการสร้าง Cross Linked ให้เนื้อโมเลกุลจับตัวกันได้ โดยใช้ BDDE น้อยลงมาก เนื้อฟิลเลอร์จะสามารถขึ้นรูปได้ดี ลดโอกาสการเกิดความเป็นพิษหลังฉีดฟิลเลอร์ ให้ผลลัพธ์ที่ธรรมชาติ
ใช้เทคโนโลยี PP Process
Volifil ใช้เทคโนโลยี PP Process (Particle Plastic Process) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสิทธิบัตรขั้นสูง ที่จะทำให้โมเลกุลในตัวยามีขนาดเท่ากันอย่างสม่ำเสมอ ตัวฟิลเลอร์จึงมีความละเอียด เรียบเนียน ไม่จับตัวกันเป็นก้อน
Volifil มีกี่รุ่น
ฟิลเลอร์ Volifil มีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน โดยแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ดังนี้
Volifil รุ่น Classic
Volifil รุ่น Classic กล่องสีทอง มีลักษณะเป็นเจลแบบละเอียด ไม่เป็นก้อน เหมาะสำหรับการเติมผิวชั้นตื้น ใช้แก้ปัญหาบริเวณผิวบาง เช่น หน้าผาก ใต้ตา ร่องแก้มและร่องน้ำหมากชั้นตื้น รวมไปถึงฉีดปากเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ลดอาการปากแห้ง
Volifil รุ่น Deep
Volifil รุ่น Deep กล่องสีชมพู มีลักษณะเป็นเนื้อเจลที่มีความแข็งขึ้นมาระดับหนึ่ง มีความยืดหยุ่น เกลี่ยได้ง่าย เหมาะสำหรับเติมเต็มในชั้นไขมันและเติมเต็มชั้นลึกในผู้ที่ผิวบาง มักใช้เติมบริเวณร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ริมฝีปาก ใต้ตาชั้นลึกได้เป็นอย่างดี
Volifil รุ่น SubQ
Volifil รุ่น SubQ กล่องสีเทา มีลักษณะเป็นเนื้อเจลแข็ง สามารถขึ้นทรงได้ดี เหมาะสำหรับเติมเต็มผิวในชั้นลึก เหมาะกับการใช้เติมคาง หน้าแก้ม ขมับ รวมไปถึงการช่วยให้กรอบหน้ามีความชัดขึ้น และในผู้ที่ปากบางมาก สามารถใช้รุ่น SubQ ในการเติมให้ปากมีความเด่นชัดขึ้นได้
ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- Volifil รุ่น Classic เหมาะสำหรับการฉีดปากเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับปาก ใต้ตาชั้นตื้น ร่องลึกชั้นตื้น
- Volifil รุ่น Deep เหมาะสำหรับการเติมปริมาตรเนื้อปาก เติมร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก เติมใต้ตาชั้นลึกได้อย่างดี
- Volifil รุ่น SubQ เหมาะสำหรับการเติมคาง ขมับ เติมปากให้เด่นชัดขึ้นสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากบาง และยังปรับให้กรอบหน้าชัดขึ้นด้วย
ข้อดีและข้อเสียของ Volifil
ข้อดีของ Volifil
- ใช้กระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานยุโรป จึงมีความปลอดภัยสูง
- ใช้ HCCL และ PP Process ในการผลิต ทำให้ตัวฟิลเลอร์มีความละเอียด ไม่จับตัวกันเป็นก้อน อยู่ได้นาน
- ตัวยาฟิลเลอร์สามารถกระจายตัวได้ดี
- Volifil มีถึง 3 รุ่นให้เลือกใช้ ตามลักษณะปัญหาผิวของแต่ละคน
- ราคาไม่แพงเท่าฟิลเลอร์จากยุโรปและอเมริกา
ข้อเสียของ Volifil
- จะต้องฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้เอง
- ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร ควรกลับมาฉีดซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์ให้ยาวนาน
- ไม่สามารถใช้ฟิลเลอร์ Volifil เพียงรุ่นเดียวในการรักษาทุกจุดที่ต้องการ
การดูแลตัวเองก่อนและหลังจากฉีดฟิลเลอร์ Volifil
การดูแลตัวเองก่อนฉีดฟิลเลอร์ Volifil
- งดรับประทานยาประเภท NSAIDs ได้แก่ ไอบูโพรเฟน, นาพรอกเซน, แอสไพริน, วิตามินอี, น้ำมันปลา และ Ginko เป็นต้น เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 1 วัน
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ Volifil
- หลังฉีดฟิลเลอร์เรียบร้อย งดจับ ลูบ คลำ หรือนวดบริเวณที่ฉีด เพราะจะทำให้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการ
- กระจายตัวของยา
- งดการนวดหน้าแรง ๆ หลังฉีดเป็นเวลา 1 สัปดาห์
- งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อน เช่น เดินตากแดดจัด เข้าอบซาวน่า เนื่องจากทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวได้เร็วขึ้น
- หลังฉีดอาจมีอาการบวมแดงเกิดขึ้นได้บ้าง ซึ่งสามารถหายเองได้ภายใน 2 วัน หากรู้สึกเจ็บให้ประคบอุ่นเพื่อบรรเทาให้อาการบวมลดลง
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1 วันหลังฉีด เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้เลือดขยายตัว รอยเข็มจะหายช้าลง
ผลข้างเคียงของ Volifil
ฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อสามารถเกิดผลข้างเคียงได้ โดยเกิดจากการที่ฉีดโดยผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญทางด้านฟิลเลอร์ หรือการเลือกตัวยาฟิลเลอร์ไม่สอดคล้องกับปัญหาที่ต้องการแก้ไข ผลข้างเคียงอาจเกิดขึ้นได้ ดังนี้
- ผลข้างเคียงเล็กน้อย ไม่รุนแรงมาก เช่น อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ รู้สึกระบมบริเวณที่ฉีด เกิดรอยช้ำขึ้น เป็นอาการทั่วไปที่สามารถพบได้บ่อยหลังฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งจะหายได้เองภายใน 7 วัน
- ผลข้างเคียงรุนแรง เช่น เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ หรือพลาดไปฉีดเข้าเส้นเลือด ซึ่งพบได้น้อยมากหากฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่รู้เรื่องกายวิภาคอย่างดี หลังฉีดหากพบอาการผิดปกติ ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที
Volifil อยู่ได้นานแค่ไหน
ฟิลเลอร์สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ Volifil ได้รับการผลิตด้วยเทคโนโลยีพิเศษของบริษัท BNC Korea อย่าง HCCL และ PP Process จึงทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลีใต้ตัวอื่น ๆ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 8-12 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้ในการฉีด ดังนี้
- Volifil รุ่น Classic ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 8-12 เดือน
- Volifil รุ่น Deep ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 8-12 เดือน
- Volifil รุ่น SubQ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 9-12 เดือน
ทั้งนี้ระยะเวลาคงผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ยังขึ้นอยู่กับวิธีการดูแลตัวเองและพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคนอีกด้วย หากดูแลตัวเองได้อย่างดี ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็จะทำให้ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์อยู่ได้นานยิ่งขึ้น กลับกันหากคนไข้ละเลยคำแนะนำของแพทย์ ใช้ชีวิตประจำวันแบบไม่ระมัดระวัง ก็ยิ่งทำให้ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์มีระยะเวลาสั้นกว่าที่ควรจะเป็นได้
วิธีการดูฟิลเลอร์ Volifil ของแท้
การดู Volifil ว่าแท้หรือไม่ สามารถดูได้ที่ตัวบรรจุภัณฑ์เลย สามารถสังเกตเองได้ดังนี้
- โลโก้และชื่อแบรนด์ Volifil จะต้องพิมพ์ไว้อย่างชัดเจน ไม่พิมพ์ผิดหรือเลือนราง
- มีฉลากภาษาเกาหลีและภาษาไทยที่ระบุถึงรายละเอียดของตัวยา
- มีเลขล็อตการผลิตกำกับอยู่ 3 ตำแหน่งด้วยกัน คือ บริเวณกล่อง บริเวณสติกเกอร์และตัวหลอดฟิลเลอร์ โดยทั้ง 3 ตำแหน่งตัวเลขล็อตการผลิตต้องตรงกัน
- มี QR Code เพื่อสแกนไปยังเว็บไซต์ทางการของบริษัทผู้ผลิตฟิลเลอร์
สรุป ฟิลเลอร์ Volifil คืออะไร ? ช่วยเรื่องอะไร ? มีรุ่นอะไรบ้าง ?
Volifil คือฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี ที่ผลิตโดยเทคโนโลยีจำเพาะของบริษัท BNC Korea อย่าง HCCL™ กับเทคโนโลยีสิทธิบัตรขั้นสูง PP Process จึงได้ตัวยาฟิลเลอร์ที่มีความละเอียด ไม่จับตัวเป็นก้อน ปลอดภัยสูง สามารถกระจายตัวได้ดี ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 รุ่น Volifil รุ่น Classic, Volifil รุ่น Deep และVolifil รุ่น SubQ โดยแต่ละรุ่นจะช่วยเติมเต็มชั้นผิวที่ต่างกัน ผลลัพธ์อยู่ได้นานพอ ๆ กัน ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข จะต้องฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีของตัวคนไข้เอง