”แพทย์กังนัมคลินิก“ เทรนนิ่งเทคนิกการฉีด เพื่อสิ่งที่ดีที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า
กังนัมคลินิก เป็นคลินิกที่ให้บริการแบบมาตรฐานเกาหลี
ปกเว็ป-02
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow

โบท็อกซ์ลดกราม ปรับรูปหน้าให้ดูเด็กลงจริงไหม ต้องฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล

โบท็อกซ์ลดกราม ปรับรูปหน้าให้ดูเด็กลงจริงไหม ต้องฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล

Table of Contents

โบท็อกซ์ลดกราม ปรับรูปหน้าให้ดูเด็กลงจริงไหม ต้องฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล

ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ช่วย ลดขนาดกรามที่ใหญ่ หนาในเวลาอันรวดเร็ว ไม่เจ็บตัวเพราะไม่ต้องผ่าตัด แถมยังช่วยลดริ้วรอยในบริเวณใกล้เคียง เช่น แก้ม ใต้คาง ลำคอ เป็นต้น แต่สิ่งที่หลายคนสงสัยก็คือ ถ้าอยากหน้าเรียว V-Shape ดูอ่อนกว่าวัย เลือกฉีดโบท็อกซ์ลดกรามอย่างเดียวเอาอยู่ไหม ต้องฉีดกี่ครั้งถึงจะได้ผลที่สมบูรณ์ที่สุด บทความนี้จะมาตอบข้อสงสัยทั้งหมด พร้อมข้อเท็จจริงแบบไม่กั๊กว่า ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ไม่ต้องเสียเวลาเข้าคลินิกแล้วโดนป้ายยาผิดๆ เพื่อป้องกันการถูกหลอกให้เสียเงินฟรี 

โบท็อกซ์ลดกราม คืออะไร

คือหัตถการความงามลดขนาดกราม ปรับโครงหน้า โดยเข็มฉีดยา ที่จะฉีดนำเอาตัวยา Botulinum Toxin type A หรือมีชื่อทางการค้าว่า Botox ออกฤทธิ์กับกล้ามเนื้อกราม ที่มัดแน่นเกร็ง จนมีขนาดใหญ่และหนา คลายตัวและเล็กลงได้ในเวลาอันรวดเร็ว ส่งผลให้ใบหน้าเรียวเล็กลงแบบ V-Shape 

ใบหน้าที่เหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์กราม

ใบหน้าเหลี่ยม

จากปัญหากล้ามเนื้อกรามใหญ่ ซึ่งเกิดจากการชอบเคี้ยวอาหารแข็ง เหนียวเกินไปบ่อยๆ หรือติดพฤติกรรมชอบนอนกัดฟันตัวเอง

ใบหน้าไม่เท่ากัน หน้าเบี้ยว

จากขนาดกล้ามเนื้อกรามซ้าย-ขวา มีลักษณะเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน 

ใบหน้าบาน

จากปัญหากล้ามเนื้อกรามหนาเกินไป เกิดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้ออยู่ตลอดเวลา

ใบหน้าที่ไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม

ใบหน้าใหญ่จากกระดูกกราม

เพราะการฉีดโบท็อกซ์จะได้ผลกับผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อเท่านั้น ดังนั้นหากปัญหาเกิดจากกระดูก คนไข้จำเป็นต้องใช้เทคนิคศัลยกรรมผ่าตัดกระดูกกราม

ใบหน้าใหญ่จากไขมันแก้มเยอะ หากฉีดโบท็อกซ์กรามแล้ว อาจจะเห็นผลไม่ชัดเจน

 ควรฉีดสลายไขมันส่วนเกินบริเวณแก้ม หรือเหนียงใต้คาง ร่วมด้วยจะเห็นผลชัดเจนที่สุด

ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโหนกแก้มสูง

เพราะเมื่อกรามมีขนาดลดลง จะยิ่งทำให้ใบหน้าดูตอบ ทำให้เห็นโหนกแก้มชัดขึ้น ผลลัพธ์ที่คาดหวังว่าจะได้หน้าเรียวดูกเด็กลง อาจจะทำให้ได้หน้าดุ ดูแก่เข้าไปอีก ซึ่งมีวิธีแก้คือเติมฟิลเลอร์ปรับพื้นที่โหนกแก้ม

ฉีดโบท็อกซ์ลดกรามอย่างเดียว ทำให้หน้าดูเด็กลงจริงไหม

เมื่อเทียบกับคนที่มีใบหน้าใหญ่ พบว่าคนที่มีรูปหน้าเรียวเล็ก จะดูเด็กกว่าจริงๆ แต่การมีใบหน้าอ่อนกว่าวัย ไม่ได้ดูแค่ส่วนกรามเท่านั้น ยังต้องประเมินทั้ง 4 ส่วนประกอบกัน ได้แก่ หน้าผาก โหนกแก้ม กราม และคาง ดังนั้นวิธีฉีดโบท็อกซ์กรามเพียงอย่างเดียว สามารถทำให้คนคนหนึ่ง มีใบหน้าเด็กลงได้ก็ต่อเมื่อ มีปัญหากล้ามเนื้อกรามใหญ่อย่างเดียวโดยที่ส่วนอื่นดีอยู่แล้ว เช่น มีรูปหน้าผากโด่งโค้งมน ไม่แบน ไม่กว้างเกินไป ผิวหน้าผากไม่มีริ้วรอยย่น มีโหนกแก้ม เนื้อเต็มสมบูรณ์ ไม่สูง ไม่ยื่น ไม่มีร่องแก้ม มีรูปคางที่เรียวเล็กอยู่แล้ว เป็นต้น

โบท็อกซ์ลดกราม ฉีดกี่ยูนิต 

การฉีดโบท็อกซ์ลดกราม โดยปกติจะใช้ปริมาณยูนิตไม่เท่ากันทุกคน ขึ้นอยู่กับลักษณะกล้ามเนื้อกรามว่าหนาใหญ่แค่ไหน แต่จะใช้ตั้งแต่ 50 – 100 ยูนิต ก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีแบบไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณให้มากเกินไปกว่านี้

โบท็อกซ์ลดกราม ฉีดกี่ครั้งถึงได้ผลดีสุด

โบท็อกซ์ลดกราม จะมีอายุประมาณ 6-8  เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ หากต้องการคงผลลัพธ์ที่ดีที่สุดไว้ตลอด แนะนำให้ฉีดทุกๆ 6 เดือน หรือปีละ 1 ครั้ง ขึ้นอยู่กับงบค่าใช้จ่ายของแต่ละคน

บทความแนะนำ : 20 คำถามสุดฮอต ที่คนฉีดโบท็อกมือใหม่ ถามมากที่สุดแห่งปี 2024

ผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม

การฉีดโบท็อกซ์กราม ควรฉีดกับหมอที่มีประสบการณ์ด้านนี้โดยเฉพาะ หรือศัลยแพทย์โครงหน้าที่รู้จักกล้ามเนื้อทุกจุดบนใบหน้าเป็นอย่างดี เพราะจะเลือกใช้โบท็อกซ์แท้ คำนวณปริมาณโบท็อกซ์ได้เหมาะกับระดับปัญหา และฉีดตรงตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัย ไม่เสี่ยงเจอปัญหาตามมา หรือต้องกลับไปฉีดซ้ำเพราะไม่ได้ผลในครั้งแรก หรือหากใครยังมองภาพไม่ออกว่า ผลลัพธ์ที่ดี-ไม่ดี เป็นอย่างไร ดูได้จากตารางด้านล่าง ดังนี้

ผลลัพธ์ที่ดี

  • เห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังฉีดทันที และจะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นใน 2 – 3 เดือน
  • กรามเล็กลงเท่ากันทั้ง 2 ข้าง
  • กล้ามเนื้อนิ่มลง กัดฟันแล้วกล้ามเนื้อกรามไม่เด้ง
  • สลายออกได้เองหมด 100% ไม่มีสารตกค้าง

ผลลัพธ์ที่ผิดพลาด

  • มุมปากเบี้ยว ยิ้มไม่สุด
  • ใบหน้าไม่เท่ากัน กล้ามเนื้อยุบลงไม่หมด
  • กรามยังใหญ่เท่าเดิม
  • เกิดก้อนปูดขณะเคี้ยวอาหาร

ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ไม่เห็นผล เกิดจากอะไร

  • แพทย์ไม่มีประสบการณ์มากพอ
    เช่น เลือกปริมาณยูนิตน้อยเกินไป ฉีดตื้นเกินจนทำให้ยากระจายตัว ก็ทำให้กล้ามเนื้อยุบลงไม่หมด กรามลดไม่เท่ากัน
  • ฉีดโบท็อกซ์ปลอม
    หรือโบท็อกซ์หิ้ว ที่มักไม่มีมาตรฐานในการคุมประสิทธิภาพของตัวยา จึงทำให้ฉีดแล้วเหมือนไม่ได้ฉีด หรือได้ผลแค่ข้างใดข้างหนึ่ง
  • ผสมน้ำเกลือในตัวยามากเกินไป
    เพราะโบท็อกซ์แท้ จะเป็นผลึกแห้ง ก่อนฉีดต้องใส่น้ำเกลือลงไปเพื่อละลายตัวยา แต่หากใส่มากเกินไปตัวยาจะจาง ฉีดแล้วไม่ได้ผล
  • มีภาวะดื้อโบท็อกซ์
    ที่เกิดจากการฉีดโบท็อกซ์ถี่เกินไป ฉีดในปริมาณมากเกินไป และฉีดโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์น้อย มีโปรตีนที่ไม่จำเป็นเยอะก็จะทำให้ร่างกายดื้อยาได้ ฉีดยังไงก็ไม่เห็นผล
  • คนไข้มีปัญหาอื่นร่วมด้วย
    เช่น มีไขมันที่แก้มและเหนียงเยอะ หรือมีกระดูกกรามใหญ่ อาจต้องใช้หัตถการอื่นร่วมด้วย เช่น เมโสแฟตลดไขมันแก้ม หรือต้องศัลยกรรมผ่าตัดกระดูกกราม

โบท็อกซ์ลดกราม มีกี่ยี่ห้อ

ในปัจจุบันโบท็อกซ์แท้ที่ผ่าน อย.ไทย มีทั้งหมด 8 ยี่ห้อ ได้แก่ Allergan, XEOMIN ,Dysport, NABOTA, Aestox, HUGEL, CLODEW และBTXA ซึ่งทุกยี่ห้อสามารถลดกล้ามเนื้่อกรามได้ทั้งหมด แต่แพทย์ที่เชี่ยวชาญมักจะแนะนำยี่ห้อที่ตัวยามีความบริสุทธิ์สูง เพราะลดโอกาสดื้อโบท็อกซ์ คนไข้เติมได้บ่อยโดยที่ไม่ลดทอนผลลัพธ์ และการกระจายตัวยาแคบที่สุด เพื่อคาดคะเนการออกฤทธิ์ของตัวยาได้อย่างแม่นยำ ซึ่งมักจะอยู่ในโบท็อกซ์สัญชาติอเมริกา Allergan หรือโบท็อกซ์เกาหลี Hugel Toxin ทั้งสองยี่ห้อมีความบริสุทธิ์ใกล้เคียงกันคือ 99.5%

ราคาโบท็อกซ์ลดกราม ประมาณเท่าไหร่

ราคาโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อไม่เท่ากัน ถ้าเป็นของเกาหลี ราคาก็จะจับต้องได้ง่ายกว่าของฝั่งอเมริกา หรือเยอรมัน ดังนั้นค่าบริการโบท็อกซ์กราม จะถูกจะแพงก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและปริมาณยูนิตที่ใช้ควบคู่กัน แต่เฉลี่ยแล้วจะมีราคาดังนี้

ราคา 3,500 -12,000 บาท / 50 ยูนิต 
ราคา 8,500 – 28,000 บาท / 100 ยูนิต
ราคา 15,000- 35,000 บาท / 200 ยูนิต

สรุป โบท็อกซ์ลดกราม ให้หน้าเรียวดูเด็กลง เหมาะกับใครมากที่สุด

สำหรับผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อกรามใหญ่ กล้ามเนื้อกรามหนา ต้องการลดขนาดส่วนล่างของใบหน้า เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม เพราะจะทำให้ใบหน้าเรียวเล็กลงซึ่งทำให้ดูเด็กกว่าวัยได้ในระดับหนึ่ง แต่หากต้องการให้หน้าอ่อนกว่าวัยแบบสมบูรณ์แบบ จำเป็นต้องย้อนอายุผิว กำจัดริ้วรอยแห่งวัยร่วมด้วย ซึ่งสามารถทำโบท็อกซ์ริ้วรอยที่ทำได้หลายที่ เช่น หน้าผาก รอยตีนกา ริ้วรอยใต้ตา รอยย่นสันจมูกเป็นต้น และโบท็อกซ์ลดกราม หรือโบท็อกซ์ริ้วรอย สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุน้อยๆ หรือประมาณ 20 ปีเป็นต้นไป โดยไม่ต้องรอให้อายุเยอะแล้วถึงจะฉีด เพื่อช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้อีกด้วย

สำหรับคนที่สนใจโปรโมชั่น หรือข้อมูลหัตถการต่างๆ สามารถแอดไลน์ @gangnamclinic และช่องทาง Facebook  เพื่อสอบถามโปรโมชั่นเพิ่มเติม และสามารถเข้ามาปรึกษาหมอฟรี ที่ กังนัมคลินิกใกล้บ้านคุณ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย 

กังนัมคลินิก เป็นคลินิกที่ให้บริการแบบมาตรฐานเกาหลี

ปรึกษาหมอฟรี กังนัมคลินิก 40 สาขาใกล้บ้าน

Scroll to Top
gangnamclinicthailand