ในยุคที่ความงามและการดูแลผิวไม่ใช่แค่การบำรุงจากภายนอกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจการทำงานของการบำรุงผิวที่ลึกถึงระดับเซลล์ หนึ่งในนั้นคือ Profhilo นวัตกรรมการดูแลผิวที่ได้รับความนิยม ด้วยการฟื้นฟูผิวที่ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าการทาครีมบำรุงทั่วไป
แต่หลายคนยังมีคำถามที่ว่า Profhilo กับ ฟิลเลอร์ นั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร บทความนี้กังนัมคลินิกจะพาไปหาคำตอบ ไขข้อข้องใจ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับผู้ที่สนใจที่อยากจะฉีดกัน
Bio-remodelling คืออะไร?
Bio-remodelling คือ กระบวนการในการฟื้นฟูและปรับโครงสร้างผิวจากภายใน โดยเป็นการใช้สาร HA ที่มีความบริสุทธิ์ที่สูง ช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น แข็งแรง มีความชุ่มชื่น ดูอ่อนเยาว์ เป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมีกลไกในการทำงาน ดังนี้
- ใช้สาร HA ที่มีความบริสุทธิ์สูง แบบไม่ผ่านการเชื่อมขวาง ทำให้สามารถกระจายตัวได้ดี ซึ่งแตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไป
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว จากสาร HA ที่ฉีดเข้าไปกระตุ้นเซลล์ของผิวหนัง ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและมีความกระชับขึ้น
- ไม่เพียงแค่การเติมเต็ม แต่สามารถฟื้นฟูผิว และปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม ทำให้ผิวสุขภาพดีจากภายใน
Profhilo กับส่วนประกอบหลัก: Hyaluronic Acid บริสุทธิ์ 100%
Profhilo มีส่วนประกอบหลักคือ Hyaluronic Acid หรือ กรดไฮยาลูรอนิก ที่ไม่ความบริสุทธิ์ 100% มีความเข้มข้นสูง โดยถูกสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีที่เรียกว่า NAHYCO Hybrid Technology ทำให้ได้โครงสร้างแบบ Hybrid Cooperative Complex หรือ HCC ที่เป็นการรวมเอา Low Molecular Weight HA (LMW HA) หรือ HA โมเลกุลสั้น และ High Molecular Weight HA (HMW HA) หรือ HA โมเลกุลยาว เข้าไว้ด้วยกันอย่างเสถียร ช่วยปรับโครงสร้างผิวอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Bio-remodelling ของ Profhilo ช่วยกระตุ้นเซลล์ผิว 4 ชนิด
Profhilo ที่มีกระบวนการ Bio-remodelling สามารถช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวหลัก ๆ ได้ 4 ชนิด ดังนี้
- Keratinocytes เซลล์ผิวชั้นนอก หรือเซลล์ผิวหนังกำพร้า เป็นการกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ให้ผิวมีความกระจ่างใสขึ้น
- Fibroblasts เซลล์สร้างคอลลาเจนและอีลาสติน โดยเป็นตัวกระตุ้นหลักในการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวลึก ทำให้ผิวมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น และมีความเรียบเนียน
- Adipocytes เซลล์ไขมัน โดยชั้นไขมันใต้ผิวที่ลดลงตามวัย กระบวนการจะช่วยเพิ่มปริมาณเซลล์ไขมันในผิว ทำให้ผิวดูเต็มอิ่ม และช่วยทำให้ผิวมีสุขภาพที่ดีขึ้น
- Myocytes เซลล์กล้ามเนื้อ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อใต้ผิว ส่งผลให้ช่วยลดความหย่อนคล้อย ทำให้ผิวหนังกลับมากระชับ
- ส่วน Stem Cells กระบวนการไม่ได้ทำการกระตุ้นโดยตรง แต่เป็นการสนับสนุนสภาพแวดล้อมที่ดีต่อเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิวโดยตรงให้ทำได้อย่างเต็มที่
Profhilo ฉีดตรงไหนได้บ้าง
การฉีด Profhilo มีการใช้เทคนิคการฉีดที่เรียกว่า Bio Aesthetic Points หรือ BAP โดยเป็นการฉีดตัวยาลงไปในจุดต่าง ๆ ที่กำหนดบนใบหน้าข้างละ 5 จุด โดยหนึ่งจุดจะมีการฉีดปริมาณ 0.2 ml โดยจุดนิยมฉีด Profhilo มีดังนี้
- ใบหน้า ทั้งหน้าผาก ใต้ตา ร่องแก้ม หน้าแก้ม โหนกแก้ม ข้างจมูก รอบปาก มุมปาก รวมถึงแนวกราม
- ลำคอ
- บริเวณอื่นบนร่างกาย เช่น หน้าท้อง ท้องแขน หัวเข่า หลังมือ เนินอก
- บริเวณที่เป็นหลุมสิวและรอยแผลเป็น
ผลลัพธ์จากการทำ Bio-remodelling
การทำ Bio-remodelling นั้นช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างหลากหลาย โดยให้ผลลัพธ์ดังนี้
- หน้าเด็ก ผิวดูอ่อนเยาว์ จากการฟื้นฟูผิวโดยรวม ทำให้ผิวดูมีความเปล่งปลั่ง ดูผิวมีสุขภาพที่ดี
- ผิวสวยยั่งยืน ผิวเรียบเนียน กระชับ จากการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวมีความแข็งแรง ส่งผลให้ผิวกระชับ และสามารถลดริ้วรอยให้ผิวเรียบเนียนได้
- ผิวชุ่มชื้น อิ่มฟู จากการเติมเต็มสาร HA ที่มีความเข้มข้น ทำให้ผิวชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกในทุกชั้นผิว
- ลดริ้วรอย ช่วยลดเลือนริ้วรอยตื้นต่าง ๆ รวมถึงรอยความหมองคล้ำใต้ตาอีกด้วย
- แก้ปัญหาผิวจากหลุมสิว รวมถึงรอยแผลเป็นต่าง ๆ
- ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้ใบหน้าเปลี่ยนรูป อีกทั้งไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น
- ให้ผลลัพธ์ที่หลากหลายบริเวณของใบหน้า ลำคอ รวมถึงบริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย
Bio-remodelling กับความแตกต่างจากหัตถการอื่นๆ
เปรียบเทียบ Bio-remodelling กับความแตกต่างจากหัตถการอื่นๆ เพื่อให้เข้าใจกันมากขึ้น
Profhilo vs ฟิลเลอร์
Profhilo ต่างจากฟิลเลอร์อย่างไร คำถามที่หลายคนมักจะสงสัย เพราะทั้งสองตัว จะมีส่วนประกอบของ HA ที่เหมือนกัน แต่มีการทำงานและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยที่
ส่วนประกอบ
- Profhilo มีกรด HA บริสุทธิ์ 100% ที่ไม่มีสารเชื่อมขวาง (Cross-linking agents) ทำให้มีการบำรุงผิวอย่างมีประสิทธิภาพ และผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- ฟิลเลอร์ มีการใช้สารเชื่อมขวางเพื่อความคงตัวในบริเวณที่ฉีด จึงเหมาะกับการเติมเฉพาะจุดที่ต้องการให้เป็นรูปทรง เช่น โหนกแก้ม ร่องแก้ม เป็นต้น
กลไกการทำงาน
- Profhilo มีการกระจายตัวได้ดีไปในทุกชั้นผิว ทำให้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินทั่วบริเวณที่ทำการฉีด โดยไม่มีการจับตัวเป็นก้อน
- ฟิลเลอร์ ออกแบบมาเพื่อทำการเติมเต็มเฉพาะจุด เช่น ร่องแก้ม ร่องลึก หรือโครงหน้า โดยสารจะไม่กระจายตัวแต่จะอยู่แต่เฉพาะบริเวณที่ทำการฉีด
ผลลัพธ์หลังการฉีด
- Profhilo ให้ผลลัพธ์ที่ทำให้ผิวอ่อนเยาว์ขึ้น ผิวกระชับ เรียบเนียน ดูชุ่มชื้น โดนไม่เปลี่ยนแปลงรูปหน้า
- ฟิลเลอร์ ให้ผลลัพธ์ในจุดที่ฉีด โดนเป็นการปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติมากขึ้น เช่น ริมฝีปากอวบอิ่ม เติมเต็มร่องแก้ม เป็นต้น
Profhilo vs เมโส
Profhilo กับ เมโส ต่างกันทั้งในเรื่องของสารประกอบ กลไกการทำงาน และผลลัพธ์หลักที่เกิดขึ้น โดยที่ Profhilo จะเป็นสาร HA ที่มีความเข้มข้นสูง กลไกการทำงาน จะฟื้นฟูโครงสร้างผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินจากชั้นผิวภายใน และให้ผลลัพธ์ ผิวดูอ่อนเยาว์ แน่น กระชับ อิ่มฟู รวมถึงมีความชุ่มชื้น ส่วน เมโสทั่วไป สารประกอบเป็นวิตามิน สารบำรุง รวมถึงเอนไซม์ต่าง ๆ กลไกการทำงานคือฉีดวิตามินและสารบำรุงเข้าสู่ผิวโดยตรง ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ รอยแดง รอยดำ ฝ้า กระ
Profhilo vs Skin Booster
Profhilo นั้นถือว่าเป็น Skin Booster ระดับพรีเมี่ยมที่มีสาร HA บริสุทธิ์ และมีความเข้มข้นที่สูง โดยใช้เทคโนโลยี NAHYCO ที่ทำให้สาร HA กระจายตัวได้ดีกว่า และนานกว่า Skin Booster ทั่วไป เน้นการฟื้นฟูจากภายใน
ในขณะที่ Skin Booster ทั่วไปนั้นเป็นการเรียกกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย โดยมีทั้งแบบ HA บริสุทธิ์และแบบอื่น ๆ โดยเน้นการเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียน แต่มีความเข้มข้นของ HA ที่ต่ำกว่า Profhilo
คำถามที่พบบ่อย
Profhilo คืออะไร และแตกต่างจากฟิลเลอร์หรือเมโสทั่วไปอย่างไร?
Profhilo คือ นวัตกรรมฟื้นฟูผิวที่มีสาร HA ที่มีความเข้มข้นสูง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินจากภายใน ทำให้ผิวชุ่มชื้น กระชับ แตกต่างจากฟิลเลอร์ที่เน้นการเติมเต็มและปรับโครงสร้างใบหน้า ส่วนเมโส เน้นการบำรุงผิวด้วยวิตามิน และสารสกัดที่เป็นประโยชน์ต่อผิวต่าง ๆ
Profhilo ทำงานอย่างไร? กลไก Bio-remodelling ให้ผลลัพธ์แบบไหน?
Profhilo ทำงานผ่านกระบวนการ Bio-remodelling โดยทำให้สาร HA มีทั้งโมเลกุลเล็กและโมเลกุลใหญ่ โดยฉีดเข้าไปเพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิวทั้ง 4 ชนิด ทำให้ผิวมีความแข็งแรง กระชับ และมีความชุ่มชื้น
ส่วนประกอบหลักของ Profhilo คืออะไร? และปลอดภัยแค่ไหน?
ส่วนประกอบหลักของ Profhilo คือ Hyaluronic Acid ที่มีความบริสุทธิ์ 100% โดยใช้เทคโนโลยี NAHYCO มีสารเชื่อมโยงโมเลกุลทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่เข้าด้วยกัน โดยไม่มีสารเคมี จึงทำให้มีความปลอดภัยสูง ได้รับการรับรองจากอย. ทั้งในไทยและสหรัฐอเมริกา
Profhilo เหมาะกับใคร และมีข้อจำกัดสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแบบใดบ้าง?
Profhilo เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น โดยไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง ส่วนข้อกำจัดคือไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมากเกินไป หรือผู้ที่ต้องปรับรูปหน้าอย่างชัดเจน
Profhilo ช่วยแก้ปัญหาผิวอะไรได้บ้าง?
Profhilo ช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างหลากหลายทั้ง ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย และหลุมสิว โดย Profhilo จะช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวกลับมากระชับ อิ่มฟู มีความชุ่มชื้น
ต้องทำ Profhilo กี่ครั้ง? และแต่ละครั้งต้องเว้นระยะห่างเท่าไหร่?
การฉีด Profhilo โดยทั่วไปแนะนำให้ฉีด 2 ครั้ง โดยทำการเว้นระยะห่าง 1 เดือน แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมาก เช่น มีปัญหาหลุมสิวร่วมด้วย หมอแนะนำฉีดเพิ่มเป็น 3 ครั้งได้
Profhilo อยู่ได้นานแค่ไหน? และผลลัพธ์จะคงอยู่ได้กี่เดือน?
ผลลัพธ์ของ Profhilo สามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน และสามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจนภายใน 1-2 เดือนหลังจากฉีด แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวหลังจากฉีดของแต่ละบุคคล
การฉีด Profhilo เจ็บไหม? และต้องใช้เวลาในการทำนานเท่าไหร่?
การฉีด Profhilo นั้นมีอาการเจ็บเล็กน้อย โดยเป็นความเจ็บที่สามารถทนได้ เพราะใช้เข็มขนาดเล็ก และฉีดเพียง 10 จุดเท่านั้น โดยใช้เวลาในการทำประมาณ 10-30 นาที
Profhilo มีผลข้างเคียงหรือไม่? และมีอาการอะไรที่ควรเฝ้าระวัง?
Profhilo มีผลข้างเคียงที่ไม่เป็นอันตราย โดยส่วนใหญ่จะเป็นเพียงแค่ รอยบวม รอยแดง หรือรอยช้ำจากเข็มเท่านั้น และสามารถหายเองได้ภายในไม่กี่วัน ส่วนอาการที่ต้องเฝ้าระวัง คือ อาการบวม แดง หรืออาการปวดที่รุนแรง ไม่หายเองภายใน 1-2 วัน หากพบอาการเหล่านี้ ควรพบแพทย์ทันที
การดูแลตัวเองหลังฉีด Profhilo ต้องทำอย่างไร เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด?
การดูแลหลังฉีด Profhilo ที่ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คือการหลีกเลี่ยงการสัมผัส รวมถึงการกด ถู นวด บริเวณที่ฉีด งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อน เช่น การออกกำลังกายหนัก ซาวน่า อย่างน้อง 48 ชั่วโมงหลังฉีด และดื่มน้ำให้เพียงพอ พร้อมกับการทาครีมบำรุงที่มีสารที่อ่อนโยน
Profhilo ที่กังนัมคลินิกเป็นของแท้ 100% หรือไม่? จะตรวจสอบได้อย่างไร?
Profhilo ที่กังนัมคลินิกใช้เป็นของแท้ 100% โดยสามารถตรวจสอบได้ทุกเคสกับทางคลินิก โดยการดูเลข Lot การผลิต พร้อมตรวจสอบกับผู้ผลิต วันหมดอายุ และฉลากข้างกล่องที่มีภาษาไทยกำกับ รวมถึงเลขอย. ที่อยู่บนกล่อง
Profhilo สามารถทำควบคู่กับหัตถการอื่นๆ เช่น Botox, Filler หรือ Laser ได้ไหม?
Profhilo สามารถทำควบคู่กับ Botox, Filler รวมถึง Laser ได้ นอกจากจะไม่เป็นอันตราย และยังช่วยเสริมให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีเพิ่มขึ้น แต่ต้องปรึกษาคุณหมอเพื่อวางแผนลำดับในการรักษาที่เหมาะสม
Profhilo เห็นผลชัดเจนเมื่อไหร่? และต้องรอนานแค่ไหนจึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลง?
การฉีด Profhilo เริ่มเห็นผลในเรื่องของความชุ่มชื่นตั้งแต่ 7-14 วันแรกหลังจากฉีด และเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงใน 1-2 เดือน
Profhilo สามารถฉีดได้บริเวณไหนบ้าง นอกจากใบหน้า?
Profhilo นอกจากฉีดบนใบหน้า สามารถฉีดบริเวณอื่นได้ เช่น ลำคอ เนินอก หน้าท้อง ท้องแขน หลังมือ รวมถึงหัวเข่า เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่หย่อนคล้อย และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
เทคนิคการฉีด Profhilo แบบ BAP (Bio Aesthetic Points) คืออะไร? และทำไมถึงสำคัญ?
เทคนิคการฉีด Profhilo แบบ BAP (Bio Aesthetic Points) คือ การฉีดในจุดที่กำหนดไว้ 5 จุดต่อข้างของใบหน้า รวมเป็น 10 จุด เพื่อให้ตัวยา HA กระจายตัวได้ดีทั่วทั้งใบหน้า มีความสำคัญคือ ช่วยลดจำนวนจุดฉีดและความเจ็บปวดลงได้ รวมถึงลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดรอยช้ำ รอยบวม ทำให้ยาซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Profhilo มีข้อห้ามสำหรับใครบ้าง เช่น หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้มีโรคประจำตัว?
กลุ่มคนที่ไม่ควรฉีด Profhilo คือ หญิงตั้งครรภ์หรือผู้ที่กำลังให้นมบุตร ผู้ที่มีการแพ้สาร HA รวมถึงผู้มีโรคประจำตัวอย่างโรคผิวหนังเรื้อรัง หรือมีแผล มีการติดเชื้อ ในบริเวณที่ทำการฉีด
Profhilo ราคาเท่าไหร่? และมีโปรโมชั่นพิเศษที่กังนัมคลินิกหรือไม่?
Profhilo โดยทั่วไปราคาอยู่ที่ประมาณ 25,000 บาท ต่อ 1 หลอด หรือ 2 CC แต่ที่กังนัมคลินิกมีโปรโมชันสำหรับผู้ที่สนใจอยากฉีด Profhilo โดยราคาโปรโมชันเพียง 14,000 บาท ต่อ 1 CC และแถมอีก 1 CC
ผู้ชายสามารถทำ Profhilo ได้ไหม? และผลลัพธ์จะแตกต่างจากผู้หญิงหรือไม่?
ผู้ชายสามารถทำ Profhilo ได้ และให้ผลลัพธ์ที่ไม่แตกต่างจากผู้หญิง เนื่องจาก Profhilo เป็นนวัตกรรมที่ช่วยฟื้นฟูผิวโดยรวม ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น แข็งแรง ยืดหยุ่น และมีความกระชับ ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง
หลังจากฉีด Profhilo ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
หลังจากฉีด Profhilo ไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นแต่อย่างใด สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติทันที เพียงแต่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำหลังจากฉีดในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังฉีดเท่านั้น
กังนัมคลินิกมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน Profhilo โดยเฉพาะหรือไม่?
ที่กังนัมคลินิก เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในด้าน Profhilo โดยเฉพาะ ที่ผ่านการอบรมเทคนิคในการฉีด ให้คนไข้ทุกคนได้มั่นใจได้ว่าถ้าฉีดที่กังนัมคลินิกนอกจากจะได้ผลลัพธ์ที่ดี มีประสิทธิภาพแล้ว ยังได้ความปลอดภัยแน่นอน
สรุปProfhilo vs ฟิลเลอร์ เลือกอะไรดี? เจาะลึกความแตกต่าง เพื่อผิวสวยในแบบของคุณที่กังนัมคลินิก
Profhilo นวัตกรรมการดูแลผิว ด้วยกระบวนการ Bio-remodelling ช่วยในการฟื้นฟูและปรับโครงสร้างผิวจากภายใน ใช้สาร HA ที่มีความบริสุทธิ์ที่สูง และมีความเข้มข้นที่สูง ถึงแม้จะมีสาร HA เหมือนกันกับ ฟิลเลอร์ แต่สารประกอบ กลไกการทำงาน รวมถึงผลลัพธ์มีความแตกต่างกัน หากถามว่าเลือกอะไรดี ต้องตอบว่าทั้งสองสามารถใช้ร่วมกันได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยหากต้องการปรับรูปหน้า เติมเต็มเฉพาะจุด เลือกเป็นการฉีดฟิลเลอร์ แต่ถ้าหากต้องการฟื้นฟูผิว ให้ผิวแข็งแรง ชุ่มชื้น ปรับปรุงคุณาภาพผิวโดยรวม เลือกเป็นการฉีด Profhilo
หากสนใจทำโปรแกรม Profhilo เพื่อการฟื้นฟูคุณภาพผิวโดยรวม ให้ผิวมีสุขภาพที่ดี รวมถึงทำกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ สามารถติดต่อสอบถาม ขอคำปรึกษาและคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่กังนัมคลินิกทุกสาขาทั่วประเทศ หรือแอด Line ID : @gangnamclinic
