”แพทย์กังนัมคลินิก“ เทรนนิ่งเทคนิกการฉีด เพื่อสิ่งที่ดีที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า
”แพทย์กังนัมคลินิก“ เทรนนิ่งเทคนิกการฉีด เพื่อสิ่งที่ดีที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า
กังนัมคลินิก เป็นคลินิกที่ให้บริการแบบมาตรฐานเกาหลี
ปกเว็ป-02
ปกเว็ป-02
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow

ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี 2025 (Restylane, Juvederm, Neuramis)

ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี2025

Table of Contents

หากพูดถึงหัตถการที่ช่วยเติมเต็มและแก้ปัญหาต่าง ๆ บนใบหน้าได้อย่างรวดเร็ว และไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัวและไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนาน การฉีดฟิลเลอร์ ถือเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมาก ซึ่งในปัจจุบันก็มีฟิลเลอร์หลายยี่ห้อ ที่มีคุณสมบัติและความโดดเด่นที่แตกต่างกัน ทำให้หลายคนมีคำถามว่าควรเลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี และแต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร

ในบทความนี้เราจึงจะพามาทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ยี่ห้อยอดนิยม ว่าแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติและความโดดเด่นต่างกันอย่างไรบ้าง และเหมาะกับการฉีดบริเวณไหน นอกจากนี้ยังมีวิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ เพื่อให้ฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยอีกด้วย

การฉีดฟิลเลอร์คืออะไร?

การฉีดฟิลเลอร์ เป็นการฉีดสารเติมเต็มที่ปลอดภัยอย่าง ไฮยาลูรอนิก แอซิด Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารที่เติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว เข้าไปในบริเวณผิวหน้า เพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ บนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นปัญหาร่องแก้ม ริ้วรอย ยกกระชับกรอบหน้า หรือฉีดเพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปากดูชุ่มชื้นและอวบอิ่มมากขึ้น โดยการฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ปลอดภัย และสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ แต่ต้องเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ และใช้ฟิลเลอร์แท้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยมากที่สุด

ฟิลเลอร์สามารถฉีดบริเวณไหนได้บ้าง?

ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มที่นิยมฉีดบริเวณใบหน้า สามารถฉีดได้หลากหลายบริเวณ เพื่อแก้ปัญหาผิวและจุดบกพร่องต่าง ๆ ซึ่งบริเวณที่สามารถฉีดได้และนิยมฉีดกันมีดังนี้

  • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาลึก โบ๋ รอยคล้ำใต้ตา ช่วยให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์มากขึ้น
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยแก้ปัญหาร่องแก้มลึก ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยแก้ปัญหาปากบาง มุมปากตก และแก้ปัญหาปากแห้งกร้าน ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มมากยิ่งขึ้น
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ช่วยเติมเต็มหน้าผากให้ดูเต็มอิ่ม ทำให้หน้าผากดูโหนกนูนและได้รูปสวยมากขึ้น

เนื้อของฟิลเลอร์มีแบบไหนบ้าง?

เนื้อของฟิลเลอร์ที่นิยมใช้กันจะมีอยู่ 3 แบบหลัก คือ เนื้อละเอียด, ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม และฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ซึ่งเนื้อฟิลเลอร์แต่ละแบบจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนี้

ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด

เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อบางเบาที่สุด มีเนื้อละเอียดคล้ายน้ำ ทำให้กระจายตัวเข้าสู่ชั้นผิวได้ดี เหมาะสำหรับการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว และเติมเต็มริ้วรอยตื้น ๆ จึงเหมาะสำหรับบริเวณการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา, ร่องน้ำตา และบริเวณริมฝีปาก

ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม

เป็นฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นคล้ายเยลลี่ ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความนุ่มฟู ไม่จับตัวเป็นก้อน เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกที่ไม่ลึกมาก เช่น ร่องแก้ม, ปาก, แก้มตอบ, หน้าผาก หรือฉีดเพื่อเพิ่มความอวบอิ่มแบบเป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง

 เป็นฟิลเลอร์ที่มีความหนาแน่น คงตัวสูง สามารถปั้นและขึ้นรูปได้ดี เหมาะสำหรับการปรับรูปหน้า เพิ่มมิติโครงสร้างใบหน้า เช่น คาง, จมูก, โหนกแก้ม หรือกรอบหน้า นอกจากนี้ยังเป็นฟิลเลอร์ที่อยู่ตัวได้นานที่สุดอีกด้วย

3 ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี อัปเดตปี 2025

ฟิลเลอร์มีให้เลือกหลายยี่ห้อ ซึ่งกังนัมคลินิกจะมีฟิลเลอร์จากแบรนด์ระดับโลก ที่ผ่านมาตรฐาน อย.โดยจะมีฟิลเลอร์ 3 ยี่ห้อยอดนิยมที่มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนี้

Restylane

ฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดน ที่มีความปลอดภัยสูง ผ่านมาตรฐานอย. ไทยและการรับรองจาก FDA จากประเทศสหรัฐอเมริกา และได้รับการยอมรับจากแพทย์ผิวหนังและความงามทั่วโลก โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตเฉพาะตัว NASHA™ ที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์แน่น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการยกกระชับผิวบริเวณต่าง ๆ บนใบหน้า และ XpresHAn™ (OBT) ซึ่งทำให้เนื้อยืดหยุ่น มีความนุ่มและเป็นธรรมชาติ มีหลายรุ่นให้เลือก แต่ละรุ่นออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกัน ได้แก่

  • Restylane Volyme เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ที่มีความยืดหยุ่นสูง โดดเด่นด้านการเติมเต็มชั้นผิวให้ผิวดูอิ่มน้ำ เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณ แก้ม ขมับ และใต้ตา เพื่อเพิ่มวอลลุ่มให้ใบหน้าดูเอิบอิ่มมากขึ้น
  • Restylane Defyne เป็นฟิลเลอร์เนื้อเจลบางเบา มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึก โดยเฉพาะบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวใบหน้าบ่อย เช่น ร่องแก้ม และ ร่องน้ำหมาก ที่ลึกปานกลางถึงมาก เพื่อให้ผิวดูกระชับและเรียบเนียนยิ่งขึ้น
  • Restylane Kysse เป็นฟิลเลอร์เนื้อนุ่ม บางบาง เหมาะสำหรับการเติมความชุ่มชื้นและเพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปาก ช่วยให้ปากดูอวบอิ่มและเป็นธรรมชาติ
  • Restylane Vital Light เป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลขนาดเล็กและเนื้อนิ่มมาก เหมาะสำหรับฉีดเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวและลดริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณใบหน้า เช่น ใต้ตา และ ริมฝีปาก ที่แห้งกร้าน
  • Restylane Lyft เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง เหมาะสำหรับการสร้างโครงหน้าให้ดูมีมิติ เช่น ขมับ คาง และ โหนกแก้ม

Juvederm

ฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกา ที่มีความปลอดภัยสูง ผ่านมาตรฐานอย. ไทยและการรับรองจาก FDA จากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยใช้เทคโนโลยี Hylacross และ Vycross ที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นและกระจายตัวได้ดี จึงทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และมีหลายรุ่นให้เลือก ดังนี้

  • Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียดที่มีความบางเบา ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เหมาะสำหรับเติมริ้วรอยเล็กๆ ทั่วใบหน้า ใต้ตา
  • Juvederm Volbella เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียดที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก มีเนื้อสัมผัสนุ่มคล้ายเจลลี่ เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณที่ต้องการเติมความชุ่มชื้นและความเรียบเนียนสูงเช่น  ริมฝีปาก และใต้ตา
  • Juvederm Volift เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อนิ่มปานกลาง มีความยืดหยุ่นและคงตัวได้ดี ไม่ทำให้ฟิลเลอร์ไหลหรือเป็นก้อน เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกและช่วยลดริ้วรอย ช่วยแก้ปัญหาร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ขมับ และยกริมฝีปาก
  • Juvederm Voluma เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ฟูปานกลาง มีความยึดตัวสูงและอุ้มน้ำน้อย จึงเหมาะสำหรับการยกกระชับและเติมเต็มบริเวณแก้มตอบ แก้มส้ม ขมับ และคาง
  • Juvederm Volux เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็งและกระจายตัวได้ดีที่สุด จึงเหมาะสำหรับการใช้ปั้นรูปหน้าบริเวณคางและกรอบหน้า

Neuramis

ฟิลเลอร์สัญชาติเกาหลีใต้ ที่มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย.ไทย, FDA ประเทศสหรัฐอเมริกา , KFDA ประเทศเกาหลี และ EDQM ผู้อำนวยการยุโรปด้านคุณภาพยาและการดูแลสุขภาพ โดยใช้เทคโนโลยี SHAPE ที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นและคงตัวสูง ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีความแตกต่างกันไป ดังนี้

  • Neuramis Deep เป็นฟิลเลอร์เนื้อหนืดปานกลาง ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มฟูจึงเหมาะสำหรับการให้มีความอวบอิ่มแบบเป็นธรรมชาติ
  • Neuramis Volume เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อหนืด มีความคงตัวสูง จึงเหมาะสำหรับการยกกระชับใบหน้า เช่น ขมับและร่องแก้มลึก

ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี แต่ละรุ่น เหมาะกับฉีดบริเวณไหนบ้าง?

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อและแต่ละรุ่น มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน แต่ละคลินิกจึงมีให้เลือกหลากหลาย เพื่อสามารถฉีดฟิลเลอร์ให้เหมาะกับบริเวณที่ต้องการและปัญหาผิวของคนไข้แต่ละคน ซึ่งฟิลเลอร์แต่ละรุ่น เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณที่แตกต่างกัน ดังนี้

Restylane

เป็นฟิลเลอร์ที่โดดเด่นเรื่องเนื้อแน่นและมีความยืดหยุ่นสูง สามารถแก้ปัญหาผิวได้หลากหลาย

  • Restylane Volyme เหมาะสำหรับบริเวณที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มให้ใบหน้าดูอิ่มฟู เช่น แก้ม, ขมับ, ใต้ตา
  • Restylane Defyne เหมาะกับบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อยและต้องการลดริ้วรอยร่องลึก เช่น ร่องแก้ม, ร่องน้ำหมาก
  • Restylane Kysse เหมาะสำหรับ ริมฝีปาก ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นและอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ
  • Restylane Vital Light เหมาะสำหรับการลดริ้วรอยตื้นๆ และเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น ใต้ตา และ ริมฝีปาก ที่แห้งกร้าน
  • Restylane Lyft เหมาะสำหรับสร้างมิติให้โครงหน้า เช่น ขมับ, คาง, โหนกแก้ม

Juvederm

เป็นฟิลเลอร์ที่โดดเด่นเรื่องความยืดหยุ่นและกระจายตัวได้ดี ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ

  • Juvederm Volite เหมาะสำหรับเติมความชุ่มชื้นและริ้วรอยเล็กๆ ทั่วใบหน้า รวมถึง ใต้ตา
  • Juvederm Volbella เหมาะสำหรับบริเวณที่ต้องการความเรียบเนียนและความชุ่มชื้นสูง เช่น ริมฝีปาก และ ใต้ตา
  • Juvederm Volift เหมาะสำหรับเติมร่องลึกและลดริ้วรอย เช่น ร่องแก้ม, ร่องน้ำหมาก, ขมับ
  • Juvederm Voluma เหมาะสำหรับยกกระชับและเติมเต็ม เช่น แก้มตอบ, แก้มส้ม, ขมับ และ คาง
  • Juvederm Volux เหมาะสำหรับปั้นรูปหน้าและสร้างกรอบหน้าให้คมชัด เช่น คาง และ กรอบหน้า

Neuramis

เป็นฟิลเลอร์เนื้อบางเบา เหมาะสำหรับการปรับรูปหน้าและแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึกได้อย่างเป็นธรรมชาติ

  • Neuramis Deep เหมาะสำหรับการเติมเต็มขมับ แก้มส้ม เพื่อแก้ปัญหาแก้มตอบ คาง ร่องน้ำหมาก และริมฝีปาก ให้มีความอวบอิ่มแบบเป็นธรรมชาติ
  • Neuramis Volume เหมาะสำหรับการยกกระชับใบหน้า เช่น ขมับและร่องแก้มลึก

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ อยู่ได้นานแค่ไหน?

ฟิลเลอร์ไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ที่นิยมใช้กันในคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน โดยทั่วไปจะอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน – 2 ปี ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีอายุการใช้งานที่ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีการผลิตและปริมาณของสารเติมเต็ม ซึ่งฟิลเลอร์แต่ละรุ่น จะอยู่ได้นานแตกต่างกันออกไปดังนี้

Restylane

ป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแน่นและมีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ได้นาน 12-18 เดือน และบางรุ่นที่อยู่ได้นาน 6-9 เดือน

  • Restylane Volyme อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
  • Restylane Defyne อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
  • Restylane Kysse อยู่ได้นานประมาณ 6-9 เดือน
  • Restylane Vital Light อยู่ได้นานประมาณ 6-9 เดือน
  • Restylane Lyft อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน

Juvederm

เป็นฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นและกระจายตัวได้ดี ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ได้นาน 12-18 เดือน แต่บางรุ่นสามารถอยู่ได้นานถึง 18-24 เดือน

  • Juvederm Volite อยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน
  • Juvederm Volbella อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
  • Juvederm Volift อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
  • Juvederm Voluma อยู่ได้นานประมาณ 18-24 เดือน
  • Juvederm Volux อยู่ได้นานประมาณ 18-24 เดือน

Neuramis

เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อบางเบา โดยทั่วไปจะอยู่ได้ประมาณ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ฉีดดังนี้

  • Neuramis Deep อยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน
  • Neuramis Volume อยู่ได้นานประมาณ 12-24 เดือน

ฟิลเลอร์แท้และของปลอมดูอย่างไร?

เพื่อให้ฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย จึงควรตรวจสอบว่าฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อนั้นเป็นฟิลเลอร์แท้หรือไม่ ซึ่งวิธีดูฟิลเลอร์แท้และของปลอม สามารถตรวจสอบได้ทั้งจาก กล่องบรรจุภัณฑ์ ฉลาก เลขอย. เลข Lot และวันหมดอายุ รวมถึงบางรุ่นจะมี QR Code ที่สามารถสแกนเพื่อตรวจสอบกับบริษัทของผู้ผลิตได้ ซึ่งฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ จะมีวิธีการตรวจสอบดังนี้

ฟิลเลอร์ Restylane ของแท้สามารถตรวจสอบได้ดังนี้

  • กล่องบรรจุภัณฑ์อยู่ในสภาพดี ไม่บุบชำรุด ไม่มีรอยเปิด หรือรอยฉีกขาด
  • มีเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับเป็นภาษาไทย
  • มีสติกเกอร์โมโนแกรมปิดที่กล่อง และเมื่อลอกออกจะเห็นคำว่า VOID
  • มีเลข Lot. ที่สติกเกอร์ กล่อง ซอง และหลอด ซึ่งเลข Lot. ทั้ง 4 จุดต้องตรงกันทั้งหมด
  • สามารถตรวจสอบเลข Lot. ของแท้กับบริษัท Allergan Thailand (DSKH) โดยตรงได้ที่ 02-640-4999-1

ฟิลเลอร์ Juvederm ของแท้สามารถตรวจสอบได้ดังนี้

  • กล่องบรรจุภัณฑ์อยู่ในสภาพดี ไม่บุบชำรุด ไม่มีรอยเปิด หรือรอยฉีกขาด
  • มีเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับเป็นภาษาไทย
  • สามารถสแกน QR Code ที่หน้ากล่องเพื่อตรวจสอบได้ ผ่านแอปพลิเคชัน eZTracker
  • มีเลข Lot. ที่สติกเกอร์ ข้างกล่อง และหลอด ซึ่งเลข Lot. ทั้ง 3 จุดต้องตรงกันทั้งหมด
  • สามารถตรวจสอบเลข Lot. ของแท้กับบริษัท Galderma โดยตรงได้ที่ 02-023-1800-402

ฟิลเลอร์ Neuramis ของแท้สามารถตรวจสอบได้ดังนี้

  • กล่องบรรจุภัณฑ์อยู่ในสภาพดี ไม่บุบชำรุด ไม่มีรอยเปิด หรือรอยฉีกขาด
  • มีเลขทะเบียนอย. และฉลากข้างกล่องเป็นภาษาไทย
  • สามารถสแกน QR Code ที่ข้างกล่องเพื่อตรวจสอบได้
  • ข้างกล่องมีระบุข้อมูลบริษัทที่จัดจำหน่าย วันผลิต และวันหมดอายุ

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งฟิลเลอร์ 1 cc จะมีราคาที่แตกต่างกันดังนี้

  • ฟิลเลอร์ Juvederm 1 cc ราคาเริ่มต้น 10,693-15,000 บาท
  • ฟิลเเลอร์ Restylane 1 cc ราคาเริ่มต้น 8,623-12,000 บาท
  • ฟิลเลอร์ Neuramis 1 cc ราคาเริ่มต้น 5,966 บาท

สรุปฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี 2025 (Restylane, Juvederm, Neuramis)

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อและแต่ละรุ่นจะมีเนื้อสัมผัส คุณสมบัติ และความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป จึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกใช้ฟิลเลอร์ให้ตรงกับความต้องการและปัญหาผิว เพื่อสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ยังควรเลือกคลินิกความงามในการฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่สามารถตรวจสอบได้ เพื่อได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุด

ปรึกษาหมอฟรี กังนัมคลินิก 40 สาขาใกล้บ้าน

Scroll to Top
gangnamclinicthailand