Botox แขนคืออะไร?

Botox แขน คือ การฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ หรือที่เราเรียกกันว่า Botox เข้าสู่ผิวหนังชั้นบริเวณต้นแขน เพื่อไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณ Biceps ที่อยู่ระหว่างหัวไหล่และข้อศอก ส่งผลให้กล้ามเนื้อแขนมีขนาดเล็กลง

สาเหตุของการเกิดแขนใหญ่มาจากอะไร? และลดได้ด้วยวิธีใดบ้าง?

สาเหตุของการเกิดแขนใหญ่นั้นมาจาก 2 สาเหตุหลัก ๆ ดังนี้

แขนใหญ่จากกล้ามเนื้อแขนใหญ่

ปัญหาแขนใหญ่ที่เกิดจากกล้ามเนื้อใหญ่นั้นสาเหตุเกิดมาจากกล้ามเนื้อนั้นมีความแข็งแรง หรือมีกล้ามเนื้อโตผิดปกติในบางส่วน

สามารถลดได้ด้วยการฉีด Botox แขน ลดกล้ามเนื้อแขน ทำให้กล้ามเนื้อแขนหายไป หรือหดเล็กลง

แขนใหญ่จากความอ้วน หรือไขมันสะสม

ปัญหาแขนใหญ่จากความอ้วน หรือไขมันสะสมเกิดจากการสะสมของไขมันบริเวณแขน ซึ่งเป็นจุดที่ไขมันนั้นถูกสะสมได้ง่าย

สามารถลดได้ด้วยการฉีดเมโสแฟต หรือการทำ CoolSculpting เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสลายของไขมัน อีกทั้งต้องทำควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของไขมันอีก

ฉีด Botox แขน เหมาะกับใครบ้าง?

• เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาแขนใหญ่ ที่เกิดจากกล้ามเนื้อแขนใหญ่
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการอยากมีแขนที่เรียวเล็ก
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาแขนใหญ่ แบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการเสริมสร้างความมั่นใจจากการแต่งตัวโชว์ต้นแขน หรือใส่เสื้อผ้าที่มีแขนกุด

 ฉีด Botox แขนต้องใช้กี่ยูนิต?

โดยปกติแล้วนั้นการฉีด Botox บริเวณแขนนั้นจะใช้อยู่ประมาณ 100-200 ยูนิต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดกล้ามเนื้อบริเวณแขนนั้น หากยิ่งมีมัดกล้ามเนื้อแขนใหญ่ก็จะต้องใช้ Botox ปริมาณที่มากตามไปด้วย

ฉีด Botox แขนใช้ยี่ห้อไหนดี และแต่ละยี่ห้อราคาเท่าไหร่บ้าง?

ฉีด Botox แขนใช้ยี่ห้อไหนดี คำถามที่หลายคนสงสัยกันมาก ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่มีการกำหนดตายตัวว่าต้องใช้ยี่ห้อไหน ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ว่าบริเวณที่ทำการฉีดนั้นเหมาะสมกับคนไข้อย่างไร รวมถึงสามารถเลือกได้ตามงบประมาณที่มีได้

โดยที่ กังนัมคลินิก นั้นมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ที่ถูกนำเข้ามาอย่างต้องตามกฎหมาย และมีการรับรองมาตรฐานจาก อย. ของไทย ดังนี้

Botox เกาหลี

Nabota

• เป็นยี่ห้อที่นิยมกันในวงการ Botox เนื่องจากมีราคาถูก แต่ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน รวมถึงมีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7%
• ผลลัพธ์ สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ประมาณ 4-5 เดือน
• ราคา 3,966 บาท/50 ยูนิต และ 5,966 บาท/100 ยูนิต

Aestox

เป็นอีกหนึ่งตัวที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีความบริสุทธิ์สูง 99.5% มีความปลอดภัย เห็นผลไว ลดการดื้อโบได้ดี

• ผลลัพธ์ สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ประมาณ 3-6 เดือน
• ราคา 3,966 บาท/50 ยูนิต

Neuronox

โบท็อกซ์เกาหลีที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.7% ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วไม่ต่างจากโบท็อกซ์ฝั่งอเมริกา ลดการดื้อโบได้ดีอีกด้วย

• ผลลัพธ์ สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ประมาณ 3-5 เดือน
• ราคา 5,966 บาท/100 ยูนิต

 Botox อเมริกา

Allergan

เป็นโบท็อกซ์จากอเมริกา ที่ถูกคิดค้นเป็นยี่ห้อแรก ตัวยากระจายได้ดี มีโอกาสในการดื้อโบที่น้อย เนื่องจากมีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5%

• ผลลัพธ์ สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ประมาณ 6-8 เดือน
• ราคา 9,900 บาท/50 ยูนิต และ 18,000 บาท/100 ยูนิต

Botox เยอรมัน

Xeomin

เป็นโบท็อกซ์จากเยอรมัน ที่มีจุดเด่นในเรื่องของความบริสุทธิ์มากที่สุด โดยสูงถึง 100% ลดโอกาสการดื้อโบได้อย่างดี

• ผลลัพธ์ สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ประมาณ 4-6 เดือน
• ราคา 12,323 บาท/100 ยูนิต

 Botox อังกฤษ

Dysport

เป็นโบท็อกซ์จากอังกฤษ ที่มีจุดเด่นในเรื่องของความสามารถในการกระจายตัวของตัวยา เนื่องจากมีขนาดโมเลกุลที่เล็ก เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว

• ผลลัพธ์ สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ประมาณ 4-6 เดือน
• ราคา 15,696 บาท/120 ยูนิต

ข้อดีและข้อควรระวังของการฉีด Botox แขนมีอะไรบ้าง?

สิ่งที่ควรศึกษา และทำความเข้าใจก่อนทำการฉีด Botox แขนนั้นคือ ข้อดีและข้อควรระวัง เพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามมา โดยมีข้อดี และข้อควรระวังดังต่อไปนี้

ข้อดีของการฉีด Botox แขน

• เห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว
• เมื่อทำเสร็จไม่ต้องมีการพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
• สามารถลดกล้ามเนื้อแขนได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเจ็บตัว หรือเกิดเป็นแผลใหญ่

ข้อควรระวังของการฉีด Botox แขน

• เนื่องจากเป็นผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร ต้องมีการฉีดซ้ำเพื่อให้คงผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น
• การฉีด Botox แขนเป็นบริเวณที่ต้องใช้ตัวยามากกว่าบริเวณอื่น ๆ อาจจะทำให้มีราคาสูงได้
• หากเลือกทำกับสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐานอาจเสี่ยงอันตรายต่อร่างกายได้ ดังนั้นควรทำการตรวจสอบ และหาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำ
• ระวังตัวยาปลอม ที่ไม่ได้มาตรฐาน ตัวยาควรตรวจสอบได้ และสถานพยาบาลหรือคลินิกมีการผสมยาต่อหน้าคนไข้

วิธีปฏิบัติดูแลตัวเองก่อนฉีดโบท็อกซ์แขน

ก่อนเข้ารับการทำหัตถการควรปฏิบัติดูแลตัวเอง ดังนี้

• ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และเชื่อถือได้ เลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน และมีแพทย์ที่มีประสบการณ์
• หากมีโรคประจำตัว หรือแพ้ยาควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อน
• งดการทานยา และวิตามินบางชนิด ที่มีผลต่อการหยุดเลือด ก่อน 1 สัปดาห์ เช่น ยาแอสไพริน ยากลุ่ม NSAIDs วิตามินซี วิตามินอี น้ำมันตับปลา เป็นต้น
• ควรงดทานยาที่มีกรดวิตามินเอ และกรด AHA รวมถึงการขัดผิวบริเวณที่จะทำการฉีดอย่างน้อย 2-3 วัน
• ผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ คุณแม่ให้นมบุตร ไม่ควรทำการฉีดโบท็อกซ์
• งดการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 วันก่อนทำการฉีด

วิธีปฏิบัติดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์แขน

การดูแลตัวเองหลังจากฉีดโบท็อกซ์แจนนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้ผลลัพธ์นั้นคงประสิทธิภาพได้ยาวนาน และลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง โดยมีวิธีปฏิบัติดังต่อไปนี้

• 14 วันหลังจากฉีด ควรงดการออกกำลังกายที่ต้องใช้แขน เพราะเป็นการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อนั้นกลับมาทำงาน ส่งผลต่ออายุของโบท็อกซ์ให้อยู่ได้สั้นลง
• หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อน และหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด อย่างน้อย 2-3 วัน
• ควรทานอาหารที่มี Zine หรือ แร่ธาตุสังกะสีเป็นส่วนประกอบ เพราะจะช่วยเพิ่มฤทธิ์ของโบท็อกซ์
• งดการสูบบุหรี่ และงดการดื่มแอลกอฮอล์

โบท็อกซ์แขน ต้องทำกี่ครั้ง และกี่วันเห็นผล?

การฉีดโบท็อกซ์แขนนั้นสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด โดยกล้ามเนื้อแขนจะเล็กลงประมาณ 10-20% และจะยิ่งเห็นผลชัดเจนเต็มที่ในช่วง 2-3 เดือน

ฉีดโบท็อกซ์แขนอยู่ได้นานไหม?

โดยปกติหากผู้ที่ทำหัตถการฉีดโบท็อกซ์แขนมีการดูแลตัวเองที่ดี ก็จะรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานถึง 1 ปี แต่ส่วนใหญ่ก็จะกลับมาฉีดซ้ำในทุก ๆ 3 เดือน เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ตามที่ต้องการ

ฉีด Botox แขน มีผลข้างเคียงไหม?

โดยปกติแล้วตัวยา Botox นั้นไม่มีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น จะมีเพียงความรู้สึกเมื่อยแขน หรือออกแรงแขนได้ไม่ดีบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากตัวยาจะยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ โดยถ้าหากเราฝืนออกกำลังกายหนักจะยิ่งทำให้กล้ามเนื้อกลับมาแข็งแรง และแขนจะกลับมาใหญ่ได้เร็วขึ้นนั่นเอง

เลือกฉีด Botox แขนที่ไหนดี?

การเลือกสถานที่ฉีดโบท็อกซ์เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญอย่างมากในการฉีด โดยวิธีการเลือกฉีด Botox แขนควรพิจารณาตามแต่ละข้อต่อไปนี้

• ควรเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน เปิดให้บริการแบบถูกต้องตามกฎหมาย
• มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีใบประกอบวิชาชีพ และมีประสบการณ์
• การฉีดโบท็อกซ์แขน ต้องฉีดกับแพทย์เท่านั้น ควรหลีกเลี่ยงคลินิกที่ฉีดกับพยาบาลหรือผู้ช่วยพยาบาล และสามารถร้องเรียนต่อ สคบ. ได้
• คลินิก หรือสถานพยาบาลมีตัวยาโบท็อกซ์ของแท้ ที่สามารถตรวจสอบได้ มีการแกะกล่องต่อหน้าผู้ที่เข้ารับบริการ
• คลินิก หรือสถานพยาบาลมีสถานที่ตั้งชัดเจน มีช่องทางที่สามารถติดต่อได้อย่างสะดวก
• คลินิก หรือสถานพยาบาลมีรีวิวจากผู้ที่ใช้งานจริง และสามารถเชื่อถือได้
• คลินิก หรือสถานพยาบาลนั้นมีราคาหรือโปรโมชันที่สมเหตุสมผล มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือก