รอยตีนกาคืออะไร 

รอยตีนกา คือรอยที่เกิดขึ้นบริเวณหางตา มีลักษณะเป็นขีดคล้ายรอยเท้าของนก มักเกิดเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น จะเห็นชัดขึ้นเมื่อหัวเราะหรือยิ้ม สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้ 

ตีนกาแบบตื้น (Dynamic Line)

เกิดจากหนังกำพร้าบริเวณหางตามีความบางและโดนแดดบ่อย จึงเกิดรอยตีนกาขึ้น มีลักษณะเป็นริ้วรอยที่ไม่ชัดและไม่ลึกมากนัก

ตีนกาแบบลึก (Static Line)

เกิดจากรอยตีนกาแบบตื้นที่ไม่ได้รับการดูแลที่ถูกวิธี ทำให้รอยเดิมเริ่มลึกขึ้นเรื่อย ๆ อีกสาเหตุคือเกิดความหย่อนคล้อยของโครงสร้างผิวที่ชั้นหนังแท้ 

รอยตีนกา ไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด แต่จะเป็นการลดทอนความมั่นใจลง เพราะทำให้หน้าดูโทรมมีอายุ ดังนั้นควรหมั่นทาครีมเพื่อดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดรอยตีนกาแบบลึก และหากเกิดรอยตีนกาแบบลึกแล้ว สามารถรักษาได้ด้วยการทำหัตถการเท่านั้น 

สาเหตุที่ทำให้เกิดรอยตีนกา
รอยตีนกาเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน มีดังนี้

• การแสดงอารมณ์บนใบหน้าบ่อย ๆ เช่น หัวเราะ ยิ้ม ร้องไห้ รวมไปถึงการกะพริบตา เป็นต้น จะสามารถเห็นได้ชัดเมื่ออายุเพิ่มขึ้น
• และเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ทำให้อัตราการผลิตคอลลาเจนลดลง จึงทำให้เกิดรอยตีนกาได้ง่ายขึ้น 
• โดนแสงแดดบ่อย ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยตีนกา เพราะ UV จะทำร้ายจนถึงชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดฝ้าและกระ รวมไปถึงรอยตีนกา
• การสูบบุหรี่ เพราะนิโคตินจากบุหรี่จะทำให้คอลลาเจนและอิลาสตินลดลง ผิวจึงมีความหมองคล้ำ ใบหน้าโทรม มีริ้วรอยก่อนวัย
• พันธุกรรมส่งผลให้มีโอกาสเกิดรอยตีนกาได้ไวขึ้น 
• พักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้น้อยลง ทำให้ใบหน้าดูโทรม มีรอยตีนกา 
• ความเครียดจะทำให้หลั่งฮอร์โมน คอร์ติซอล ออกมาซึ่งจะคอยทำลายเซลล์ผิว เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยตีนกา

อายุเท่าไหร่จึงเกิดรอยตีนกา 

รอยตีนกามักเกิดขึ้นเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป เนื่องจากเป็นวัยที่สามารถผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงและเริ่มขาดความชุ่มชื้น บางคนอาจเกิดรอยตีนกาก่อนอายุ 35 ปีก็ได้ โดยเกิดจากพันธุกรรมหรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละคน เช่น ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ สูบบุหรี่เป็นประจำ เครียดบ่อย นอนดึก พฤติกรรมดังกล่าวเป็นเหตุที่ทำให้เกิดรอยตีนกาก่อนวัยได้ การรักษารอยตีนกามีอยู่หลากหลายวิธีด้วยกัน โดยวิธีที่ยอดนิยมและให้ผลลัพธ์ที่ดีก็คือ การโบท็อกซ์ตีนกา 

โบท็อกซ์ตีนกาคืออะไร

การโบท็อกซ์ตีนกา เป็นการฉีดแบคทีเรียชื่อว่า Clostridium Botulinum เข้าไปยังบริเวณกล้ามเนื้อที่หางตา เพื่อให้ยาเข้าไปออกฤทธิ์กับระบบประสาท ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณหางตาทำงานลดลงชั่วคราว โดยผิวหนังบริเวณนั้นจะตึงขึ้น ไม่เกิดรอยยับ รอยย่น จึงสามารถลดรอยตีนกาได้ในที่สุด   

โบท็อกซ์ตีนกาอันตรายไหม

การฉีดโบท็อกซ์ตีนกาไม่อันตราย เนื่องจากการฉีดโบท็อกซ์ถูกใช้ในวงการแพทย์ในการรักษาอาการตาเหล่มาอย่างยาวนาน จึงมีความปลอดภัยอย่างแน่นอน เพื่อตอกย้ำความปลอดภัยควรทำการฉีดโบท็อกซ์กับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ใช้ยาโบท็อกซ์ของแท้และได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่สำคัญควรฉีดโบท็อกซ์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด 

โบท็อกซ์ตีนกาเหมาะกับใครบ้าง

• เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาเรื่องตีนกา
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยต่าง ๆ บริเวณรอบดวงตา
• เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการใช้การผ่าตัดในการรักษา
• เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน ๆ 
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว 

โบท็อกซ์มียี่ห้ออะไรบ้าง

โบท็อกซ์ในประเทศไทย มีหลากหลายยี่ห้อด้วยกัน ซึ่งมียี่ห้อที่ได้รับความนิยมและผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก อย. ประเทศไทยแล้ว มีดังนี้ 

ยี่ห้อ Allergan (อเมริกา)

เป็นโบท็อกซ์ที่ผลิตโดยบริษัท Allergan จากประเทศสหรัฐอเมริกา ยี่ห้อนี้เป็นโบท็อกซ์ได้รับความนิยมทั่วโลก มีงานวิจัยรับรองถึง 3,500 งานว่ามีความปลอดภัยสูง มีความบริสุทธิ์ถึง 99.5% ทำให้โอกาสการดื้อยาน้อย ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น ๆ จุดเด่นของ Allergan คือ มีความแม่นยำสูง กระจายตัวยาได้แคบ ทำให้แพทย์สามารถฉีดรักษาได้อย่างแม่นยำและตรงจุด เหมาะกับฉีดลดริ้วรอยเฉพาะจุด เช่น รอยหว่างคิ้ว ขมวดคิ้ว รอยตีนกา เป็นต้น โดยผลลัพธ์อยู่ได้นาน 3-6 เดือน  

ยี่ห้อ Dysport (อังกฤษ)

เป็นโบท็อกซ์ที่ผลิตโดยบริษัท Ipsen จากประเทศอังกฤษ มีจุดเด่นคือกระจายตัวได้กว้าง เหมาะกับการฉีดกล้ามเนื้อที่มีมัดใหญ่ เช่น บริเวณหน้าผาก กล้ามเนื้อแขนหรือขา เป็นต้น นิยมนำมาฉีดลดกลิ่นเหงื่อบริเวณรักแร้ มือ เท้า สามารถฉีดลดริ้วรอยบนใบหน้าด้วยเทคนิค dermolift ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ โดยผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4-6 เดือน

ยี่ห้อ Xeomin (เยอรมัน)

เป็นโบท็อกซ์ที่ผลิตโดยบริษัท MERZ PHARMA GMBH & CO. KGaA จากประเทศเยอรมัน เป็นการนำข้อดีของ Allergan และ Dysport มารวมกัน ตัวยามีความบริสุทธิ์สูง ไม่กระจุกตัวเกินไป ฉีดแล้วหน้าไม่ตึง ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงดูเป็นธรรมชาติ มีงานวิจัยพบว่า Xeomin ให้ผลได้ดีในกรณีที่ดื้อยา เหมาะกับผู้ที่ต้องการฉีดลดริ้วรอยและลิฟกรอบหน้าโดยเทคนิค dermolift โดยผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4-6 เดือน

ยี่ห้อ Nabota (เกาหลี)

เป็นโบท็อกซ์ที่ผลิตโดยบริษัท DAEWOONG จากประเทศเกาหลีใต้ มีการพัฒนาตัวยามากกว่า 30 ปีแล้ว โดยเน้นให้ออกฤทธิ์ได้ไวและเห็นผลเร็ว เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เป็นโบท็อกซ์เกาหลียี่ห้อเดียวที่ได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก US.FDA นิยมใช้โบท็อกซ์ตีนกา ริ้วรอยที่หน้าผาก หว่างคิ้ว ยังช่วยปรับหน้าให้เรียวอีกด้วย โดยจะเห็นผลได้ภายใน 3-4 วัน และจะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนขึ้นภายใน 2 สัปดาห์หลังฉีด ส่วนผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 4-5 เดือน

ยี่ห้อ Aestox (เกาหลี)

เป็นโบท็อกซ์ที่ผลิตโดยบริษัท Hugel Inc. จากประเทศเกาหลีใต้ มีการพัฒนาตัวยาให้มีโมเลกุลเทียบเท่า Allergan มีจุดเด่นคือกระจายตัวแคบ สามารถออกฤทธิ์ได้แม่นยำ มีความบริสุทธิ์สูง ทำให้ลดโอกาสในการเกิดอาการดื้อยา ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ นิยมใช้ฉีดลดรอยตีนกา รอยย่นที่หน้าผาก รอยหว่างคิ้ว ลดเหงื่อ เป็นต้น โดยผลลัพธ์อยู่ได้นาน 3-5 เดือน

การเลือกยี่ห้อโบท็อกซ์ในการฉีดลดรอยตีนกา เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดระยะเวลาของการออกฤทธิ์และระยะเวลาในการคงผลลัพธ์ ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการประเมินปัญหาที่พบและสภาพผิวของแต่ละคน เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อตัวท่านเอง 

โบท็อกซ์ตีนกาเห็นผลภายในกี่วัน

การฉีดโบท็อกซ์ตีนกาสามารถเห็นผลภายใน 5-7 วันหลังฉีด และจะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้ประมาณ 14 วันหลังฉีดโบท็อกซ์ 

โบท็อกซ์ตีนกาผลลัพธ์อยู่ได้นานไหม

เรื่องผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละคนและการเลือกยี่ห้อของ

โบท็อกซ์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดระยะเวลาของผลลัพธ์อีกด้วย ซึ่งสามารถฉีดซ้ำเรื่อย ๆ ได้ แต่จะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับผิวของเรา