เทรนด์หน้าขาวกระจ่างใส หน้าฉ่ำวาว ผิวกระจก ในปัจจุบันเป็นที่นิยมอย่างมาก หนึ่งในวิธีที่ทำให้หน้าใส ฉ่ำวาว แบบเห็นผลได้รวดเร็วคือการฉีดเมโสหน้าใส ซึ่ง Pink Venom (Korea) กับ Meso Blink เป็นสองยี่ห้อที่มักได้รับความนิยม และมักจะได้ยินเวลาที่ใครจะทำการฉีดแต่ก็มีหลายคนที่สงสัยว่า Pink Venom (Korea) กับ Meso Blink นั้นต่างกันอย่างไร ช่วยเรื่องอะไรบ้าง รวมถึงเหมาะกับใคร วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบในบทความนี้พร้อม ๆ กัน
Pink Venom (Korea) คืออะไร?
Pink Venom (Korea) คือ หนึ่งในผลิตภัณฑ์เมโสหน้าใสที่นำมาฉีดเพื่อให้ผิวหน้ากระจ่างใส ฉ่ำวาว โดยมีสารสกัดจากวิตามินรวม เช่น วิตามิน A, วิตามิน E, วิตามิน C เป็นต้น รวมถึงมีสารสกัดจาก Glutathione และ Amino acid
Pink Venom (Korea) ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
- ช่วยทำให้หน้าขาวกระจ่างใส
- ช่วยให้ผิวหน้าฉ่ำวาว ผิวกระจก หรือ Glass Skin
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวชุ่มชื้น
- ช่วยให้ผิวมีความแข็งแรง ดูสุภาพดี
- ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
Meso Blink คืออะไร?
Meso Blink เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เมโสหน้าใสอีกหนึ่งตัว ที่เป็นการทำโดยสะกิดเปิดผิวโดยใช้เข็มขนาดเล็กในการเจาะเข้าไปในผิวชั้นกลาง โดยนำสารสกัดต่าง ๆ อย่างเช่น วิตามิน A, วิตามิน C, วิตามิน E, คอลลาเจน สารแอนติออกซิแดนท์ และสารบำรุงผิวอื่น ๆ ให้เข้าไปสู่ผิวด้านใน เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวให้ดียิ่งขึ้น
Meso Blink ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่งผลให้ผิวมีความชุ่มชื้น
- ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอกัน
- ช่วยกระชับรูขุมขน ให้ใบหน้าเรียบเนียน
- ช่วยลดจุดด่างดำ ลดฝ้า กระ และรอยสิวบนใบหน้า
- ช่วยลดความตึงเครียดของผิว ทำให้ผิวแข็งแรง สุขภาพดี
Pink Venom (Korea) กับ Meso Blink เหมาะกับใครบ้าง?
Pink Venom (Korea) กับ Meso Blink นั้นเป็นเมโสหน้าใสที่ช่วยฟื้นฟูผิว โดยเหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิว ดังต่อไปนี้
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ผิวขาวกระจ่างใส ผิวฉ่ำวาว ดูสุขภาพดี
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์แบบรวดเร็ว ชัดเจนมากกว่าการทาครีมบำรุงแบบปกติทั่วไป
- เหมาะกับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย ต้องการให้ผิวมีความแข็งแรง
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้สีผิวสม่ำเสมอ ลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ บนใบหน้า
- เหมาะกับผู้ที่นอนดึก ทำงานหนัก ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง
- เหมาะกับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่าย
Pink Venom (Korea) กับ Meso Blink ควรฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
การฉีด Pink Venom (Korea) กับ Meso Blink ทั้งสองตัวนั้น ควรฉีดทุก ๆ 2-3 สัปดาห์ ต่อเนื่องกัน 4-6 ครั้ง โดยสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด โดยทั้งสองตัวนั้น ควรฉีดทุก ๆ 2-3 สัปดาห์ ต่อเนื่องกัน 4-6 ครั้ง โดยสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด โดยเห็นผลประมาณ 10-15% ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
แต่หากต้องการเห็นผลแบบชัดเจนสูงสุด ควรฉีดอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 1 เดือน ในช่วงแรก ๆ แต่หลังจากนั้นเว้นระยะ โดยเป็น 1 เดือน 1 ครั้งได้ เพื่อที่จะทำให้ผลลัพธ์นั้นคงความยาวนานได้ดีมากยิ่งขึ้น
Pink Venom (Korea) กับ Meso Blink ราคาเท่าไหร่ ?
ราคาของการฉีดเมโส Pink Venom (Korea) กับ Meso Blink นั้นจะคิดเป็นจำนวนครั้ง ดังนี้
- Pink Venom (Korea): 1 ครั้ง 1,200 บาท / 5 ครั้ง 5,000 บาท / 10 ครั้ง 8,000 บาท
- Meso Blink: 1 ครั้ง 1,500 บาท / 5 ครั้ง 6,500 บาท / 10 ครั้ง 10,000 บาท
Pink Venom (Korea) กับ Meso Blink เทียบกับเมโสยี่ห้ออื่น
เมโสหน้าใส นั้นมีหลากหลายแบบ หลากหลายยี่ห้อให้เลือกฉีด ตามความเหมาะสมกับปัญหาผิวที่เจอ โดยแนะนำว่าควรจะผ่านการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยมีหลากหลายยี่ห้อ ดังนี้
มาเด้ คอลลาเจน
มาเด้คอลลาเจน ช่วยทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส อิ่มฟู ดูสุขภาพดี อีกทั้งช่วยในเรื่องลดการอักเสบบนผิวหน้า ช่วยขับสารพิษ ลดการเกิดอาการแพ้ง่ายบนผิวหน้า จึงแนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย และผู้ที่ปัญหาสิวอุดตัน
Rejuran (รีจูรัน)
รีจูรัน มีส่วนผสมจากสารสกัด DNA จากปลาแซลมอน และสารสกัดจาก Polynucleotide ที่เข้ากับร่างกายของมนุษย์ได้ดี ช่วยสร้างเซลล์ใหม่ และช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่เสียหาย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มความชุ่มชื้น และความยืดหยุ่นให้แก่ผิว อีกทั้งยังช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสได้อย่างรวดเร็ว
Cytocare (ไซโตแคร์)
เป็นยี่ห้อที่แนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ผิวไม่สม่ำเสมอ และผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวแข็งแรง เร่งการผลัดเซลล์ผิว จึงทำให้ผิวขาวกระจ่างใส ลดเม็ดสี ฝ้า กระ บนใบหน้าได้ดี
สรุป Pink Venom (Korea) กับ Meso Blink ต่างกันอย่างไร?
Pink Venom (Korea) กับ Meso Blink เป็นยี่ห้อหนึ่งของเมโสหน้าใส ที่ช่วยบำรุงฟื้นฟูผิวหน้า ทำให้ใบหน้าขาวกระจ่างใส ผิวฉ่ำวาว สีผิวสม่ำเสมอ ลดฝ้า กระ อีกทั้งยังทำให้ผิวแข็งแรง ดูสุขภาพดี โดยสามารถฉีดซ้ำบ่อย ๆ ได้ทุก ๆ 2-3 สัปดาห์ ติดต่อกัน 4-6 ครั้ง เพื่อให้เห็นผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามที่คาดหวังมากที่สุด แต่ทั้งนี้ก็ต้องประเมินผิวกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำหัตถการ เพื่อความเหมาะสมกับปัญหาผิว รวมถึงความปลอดภัยต่อตัวผู้เข้ารับบริการ