อยากมีหน้าเรียวกระชับ แต่ติดตรงที่มีแก้มห้อยแถมยังมีเหนียงอีกต่างหาก ทำให้ความมั่นใจในตัวเองหายไปเยอะเลย ถ่ายรูปมุมไหนก็ดูอ้วนดูตันไปหมด ใครเคยพบปัญหาข้างต้นบ้าง สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีลดแก้ม ลดเหนียงอยู่ ทางเราได้รวบรวมวิธีการลดแก้มลดเหนียงมาให้แล้ว สามารถติดตามได้ที่บทความนี้เลย
ปัญหาเรื่องแก้มกับเหนียงเกิดจากอะไร ?
ปัญหาเรื่องมีแก้มและเหนียงเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
- เกิดจากพันธุกรรม การมีแก้มและเหนียงสามารถส่งต่อได้ทางพันธุกรรม
- การสะสมของไขมันของบริเวณแก้มและใต้คาง หากมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นหรือรับประทานอาหารจำพวกน้ำตาล แป้ง ของทอด ที่มีปริมาณมากเกินไป ไขมันก็จะไปสะสมบริเวณดังกล่าว ทำให้แก้มห้อยและมีเหนียงได้
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ความสามารถในการสร้างคอลลาเจนก็จะลดลง ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น แก้มและเหนียงจึงมีความหย่อนคล้อยกว่าตอนอายุน้อย
- การสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พฤติกรรมดังกล่าวทำให้มีการสร้างคอลลาเจนลดลง ผิวอาจหย่อนคล้อยได้เร็วขึ้น
มีวิธีไหนบ้างที่ช่วยในการลดแก้มลดเหนียง
ในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 วิธีด้วยกัน คือ การลดแก้มลดเหนียงด้วยวิธีธรรมชาติกับการลดแก้มลดเหนียงแบบเร่งด่วนหรือเรียกอีกอย่างว่า การทำหัตถการนั่นเอง
บทความแนะนำ : ฉีดแฟต หรือ Meso Fat คืออะไร? ฉีดสลายไขมันจุดไหนได้บ้าง? อยู่ได้นานไหม?
วิธีลดแก้ม ลดเหนียงด้วยวิธีธรรมชาติ
การทำท่าบริหารบริเวณใบหน้า
การทำท่าบริหารใบหน้าสามารถช่วยเพิ่มความกระชับให้แก่ใบหน้าได้ สามารถทำได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ซึ่งมีหลากหลายท่าให้ทำด้วยกัน ดังนี้
- ท่าปลาตอด (Fish Face Exercise) เป็นการดูดแก้มเข้าหากันจนกระทั่งปากจู๋ค้างไว้ 5-10 วินาที แล้วค่อยปล่อย ทำซ้ำอีกประมาณ 10-15 ครั้ง ท่านี้จะช่วยยกกระชับริมฝีปากและกล้ามเนื้อแก้ม
- ท่าแก้มป่อง (Cheek Puff Exercise) เป็นการสูบลมหายใจเข้าทางปาก จากนั้นทำแก้มป่องไว้ข้างหนึ่งสลับไปมาระหว่างแก้มทั้งสองข้าง ทำประมาณ 10-15 ครั้ง แบ่งเป็น 3 เซต ท่านี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อใบหน้าและทำให้แก้มกระชับเล็กลงด้วย
- ท่าเป่าลูกโป่ง (Balloon Post Exercise) เป็นการทำปากคล้ายกับการเป่าลูกโป่ง โดยจะสูบอากาศให้เต็มปากและทำแก้มป่องค้างไว้ 10-15 ครั้ง แบ่งเป็น 2-3 เซต ท่านี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าทำงานมากขึ้น
- ท่ายืดลิ้น (Tongue Strech Exercise) เป็นการยืดลิ้นออกมาให้ได้มากที่สุด จากนั้นค้างไว้ประมาณ 5-10 วินาที ทำซ้ำอีก 10-15 ครั้ง ท่านี้จะช่วยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณปากและคาง
- ท่ายิ้มกว้าง (Smile Smoothing Exercise) เป็นการยิ้มให้กว้างที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ ค้างไว้ประมาณ 5-10 วินาที ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ อีก 10-15 ครั้ง ท่านี้จะช่วยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณแก้ม
- ท่ายืดกราม (Jaw Release Exercise) เป็นการดันลิ้นขึ้นไปแตะเพดาน จากนั้นทำปากคล้าย ๆ กับการเคี้ยวข้าว ทำซ้ำประมาณ 10-15 ครั้ง ท่านี้จะช่วยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณแก้มและลำคอ
การเลือกรับประทานอาหาร
การเลือกรับประทานอาหาร ควรจะต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เลี่ยงอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล รวมไปถึงของจำพวกทอด ของมัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไขมันสะสมบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย และยังควรหลีกเลี่ยงอาหารพวกรสเค็ม อาหารแปรรูป อาหารแช่แข็ง ซึ่งอาหารจำพวกดังกล่าวมีปริมาณโซเดียมที่สูง หากรับประทานในปริมาณที่มากไป อายทำให้เกิดการบวมน้ำ ร่างกาย ใบหน้าบวมขึ้น
ส่วนอาหารที่ควรรับประทานให้มากขึ้นก็คือ อาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อแดง ถั่ว ไข่ จะช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเร่งระบบเผาผลาญของร่างกาย อีกอาหารชนิดหนึ่งที่ควรรับประทานให้มากขึ้นก็คือ ผักและผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยในเรื่องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ร่างกาย ช่วยลดการบวมน้ำ และยังช่วยเรื่องกระบวนการขับถ่ายของร่างกายอีกด้วย
ปรับเปลี่ยนลักษณะการนอน
การนอนเป็นสิ่งที่สำคัญมากในชีวิต ไม่ใช่แค่ช่วยในเรื่องการพักผ่อนเพียงเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพผิวโดยรวมอีกด้วย การนอนหลับให้เพียงพอ จะช่วยทำให้ใบหน้าดูสดใส ผิวมีความกระชับเต่งตึง ลดการเกิดริ้วรอยและช่วยลดการสะสมของไขมันบริเวณใบหน้า อีกหนึ่งสิ่งที่คนชอบมองข้ามก็คือ การเลือกหมอน หากเลือกหมอนที่ต่ำเกินไป อาจทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี ส่งผลให้ใบหน้าบวมหลังตื่นนอน และหากเลือกหมอนที่สูงเกินไป ก็จะทำให้คอและกระดูกสันหลังไม่เป็นแนวเดียวกัน ตอนตื่นอาจมีอาการปวดคอ คอเคล็ด เป็นต้น
ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
ควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว หากดื่มน้ำน้อยเกินไป ร่างกายจะทำการสะสมน้ำสำรองเอาไว้ที่บริเวณแก้มและบริเวณรอบดวงตา ทำให้แก้มดูบวมใหญ่ขึ้น การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายจึงช่วยลดโอกาสในการเกิดอาการแก้มบวม
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
เบียร์ เหล้า ต่างเป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งจะทำให้ความเข้มข้นของเลือดสูงขึ้น ร่างกายจึงต้องดึงเอาน้ำมาจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อมาเจือจางแอลกอฮอล์ในเลือด ร่างกายจึงมีกระบวนการป้องกันภาวะการขาดน้ำโดยเก็บน้ำสำรองไว้ที่บริเวณแก้มและรอบดวงตา ทำให้แก้มบวม มีความป่องมากขึ้น
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
วิธีที่ดีที่สุดสำหรับการลดไขมันในร่างกายก็คือ การคาร์ดิโอ สำหรับผู้ที่ยังมีน้ำหนักเกินหรือไขมันส่วนเกินเยอะ หากทำต่อเนื่องอาทิตย์ละ 3 วัน โดยออกกำลังประมาณ 30-45 นาที ก็จะช่วยเผาผลาญไขมันได้อย่างดี สามารถช่วยลดไขมันบริเวณร่างกายได้ ทำให้สัดส่วนของร่างกายรวมไปถึงใบหน้าและเหนียงลดลงได้อีกด้วย
ใช้อุปกรณ์ลดแก้ม
ใช้อุปกรณ์จำพวก ลูกกลิ้งหน้า หรือ หินกัวซา (Gua Sha) ซึ่งจะช่วยในการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ทำให้ใบหน้ามีความกระชับ ดูเรียวขึ้น
วิธีลดแก้ม ลดเหนียงด้วยวิธีเร่งด่วน
การฉีดเมโสแฟต
การฉีดเมโสแฟต เป็นการฉีดเพื่อลดไขมันเฉพาะจุดและจุดที่ลดไขมันได้ยาก โดยจะทำการฉีดสารสลายไขมันที่ประกอบไปด้วย Artichoke extract, Mesostabyl และL-carnitine มีคุณสมบัติในการช่วยให้ไขมันแตกตัวหรือสลายตัว จากนั้นไขมันก็จะถูกขับออกจากร่างกายผ่านระบบการขับถ่าย สามารถเห็นผลได้ชัดเจนกับการลดแก้มและเหนียง หลังการฉีดจะมีการบวมจากปริมาณยาบ้างเล็กน้อย และจะยุบไปเองภายใน 3-4 ชั่วโมง เห็นผลได้ภายใน 3 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันของแต่ละบุคคล
การฉีดโบท็อกซ์
การฉีดโบท็อกซ์ไม่ได้เป็นวิธีที่ใช้ในการลดแก้มหรือเหนียงโดยตรง แต่จะช่วยในเรื่องการยกกระชับมากกว่า โดยเฉพาะบริเวณคางและกรอบหน้า สามารถใช้ควบคู่กับเมโสแฟตได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นไปอีก
การทำ Thermage FLX ลดแก้ม ลดเหนียง
การใช้ Thermage FLX ในการลดแก้มและเหนียง เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยใช้คลื่นวิทยุในการสร้างความร้อนลงไปที่บริเวณผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและกระชับผิวให้แน่นขึ้น มีความปลอดภัยสูง ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น ไม่เกิดรอยแผลหรือรอยแดงใด ๆ เลย
สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังทำ ควรทำต่อเนื่องอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวของแต่ละบุคคล หากต้องการผิวที่กระชับมากขึ้น สามารถทำทุก ๆ 3 เดือนได้
การทำ Ulthera ลดแก้ม ลดเหนียง
การทำ Ulthera เป็นเครื่องยกกระชับผิวที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย โดยจะใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ส่งพลังไปยังผิวหนังชั้นลึก เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวบริเวณนั้น ๆ มีความกระชับขึ้น ปรับหน้าให้เรียว มีกรอบหน้าที่ชัดเจน การทำ 1 ครั้ง ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 1 ปี
การทำ Hifu Ultraformer III ยกแก้ม ลดเหนียง
Hifu , Ultraformer III เป็นเครื่องยกกระชับ สามารถใช้ได้หลายจุด สำหรับคนที่มีไขมันบริเวณแก้มเยอะ สามารถใช้ Hifu เพื่อยกกระชับแก้มได้ โดยตัวเครื่องจะมีหัวยิงได้หลากหลายตามระดับความลึกของชั้นผิว เลือกได้ตามปัญหาของคนไข้ที่พบ ในกรณีที่ต้องการยกกระชับแก้ม จะใช้เป็นหัวยิงขนาด 3.0 นาโนเมตร เป็นการยิงพลังงานลงในผิวชั้นกลาง สามารถเห็นผลได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้น ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวและพฤติกรรมของแต่ละบุคคล
การร้อยไหม
การร้อยไหมสามารถช่วยยกกระชับผิวหน้าได้ แต่ไม่ได้ช่วยในการลดแก้มโดยตรง จะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องแก้มมีความหย่อนคล้อยมากกว่า
สรุปรวมวิธีลดแก้ม ลดเหนียง มีวิธีไหนบ้าง?
การลดแก้มและลดเหนียง สามารถทำได้หลายวิธี มีทั้งวิธีที่สามารถทำได้เอง เช่น การบริหารกล้ามเนื้อใบหน้า การออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร ซึ่งให้ผลได้ดีมาก ๆ แต่จะต้องมีความสม่ำเสมอในการทำและใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน ถึงจะเห็นผลได้ชัด ส่วนอีกวิธีที่ให้ผลได้เร็วและมีประสิทธิภาพไม่แพ้กัน ก็คือการทำหัตถการ สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การทำ Thermage FLX , Ulthera , Hifu เป็นต้น โดยใช้เครื่องมือที่ทันสมัย มีความปลอดภัยสูง คนไข้สามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณที่ตั้งไว้ได้เลย