เนื่องจากในปัจจุบันมีหลากหลายวิธีการที่จะช่วยทำให้ผิวพรรณของเราขาวกระจ่างใส ไม่ว่าจะเป็นการออกผลิตภัณฑ์ทาผิวใหม่ๆ อาหารเสริมและวิตามินต่างๆ แต่สำหรับวิธิการที่ช่วยให้ผิวขาวทันใจเร็วที่สุดก็คือการฉีดวิตามินผิว ฉะนั้นมือใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการฉีดวิตามินผิวต้องรู้! ถ้ายังไม่มั่นใจว่าต้องทำอะไรกันแน่ ระหว่าง “ดริปวิตามินผิว” กับ “ฉีดวิตามินผิว” บทความนี้มีคำตอบมาให้แล้ว
ดริปวิตามิน กับ ฉีดวิตามินผิว คืออะไร
ดริปวิตามิน หรือ IV Therapy ย่อมากจาก Intravenous Therapy หรือเรียกสั้นๆว่า การฉีดวิตามินผิว คือการให้วิตามินหรือสารน้ำผ่านทางหลอดเลือดดำเข้าสู่ร่างกาย ใช้เวลาในการดริปหรือฉีดวิตามินผิวไม่นาน ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินได้โดยตรงและเต็มที่ ไม่ต้องรอการย่อยสลายเหมือนการทานอาหารเสริมวิตามินหรือใช้เวลานานเหมือนการทาครีมบำรุงผิว
ดริปวิตามิน กับ ฉีดวิตามินผิว เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?
จริงๆแล้วการ “ดริปวิตามิน” กับ “ฉีดวิตามินผิว” เป็นหัตถการชนิดเดียวกันที่กำลังได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ในผู้ที่ต้องการฟื้นฟูและบูสต์ผิวให้กระจ่างใส สุขภาพดี จากภายในและให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจสู่ภายนอก
ดริปวิตามิน กับ ฉีดวิตามินผิว มีกี่รูปแบบ แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียอย่างไร?
ฉีดแบบเข็มไซริงค์
เป็นการฉีดวิตามินเข้าสู่หลอดเลือดดำโดยตรงผ่านเข็มฉีดยา โดยค่อยๆดันยาจากไซริงค์ด้วยมือ
ข้อดี : ใช้เวลาในการฉีดวิตามินที่รวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน
ข้อเสีย : การไหลของตัวยาวิตามินไม่คงที่ บางจังหวะอาจเกิดโอกาสดันยาแรงเกินไป ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ส่งผลให้เกิดอาการเวียนหัว คลื่นไส้ และอาเจียนได้
ฉีดแบบถุงน้ำเกลือ
เป็นการฉีดวิตามินเข้าสู่หลอดเลือดดำโดยการเจาะเข็มเชื่อมสายกับถุงบรรจุวิตามินเช่นเดียวกับการให้น้ำเกลือ จากนั้นรอจนกว่าวิตามินในถุงจะหมด เป็นรูปแบบการให้วิตามินที่นิยมในปัจจุบัน
ข้อดี : ความเร็วของการไหลของตัวยาวิตามินมีความคงที่กว่า และปลอดภัยกว่า
ข้อเสีย : อาจใช้เวลาในการฉีดวิตามินนานกว่าแบบไซริงค์เนื่องจากต้องรอจนกว่าวิตามินจะหมดถุง
ขั้นตอนในการดริปวิตามิน กับ ฉีดวิตามินผิว
- แพทย์ให้คำปรึกษาและประเมินสูตรและปริมาณของวิตามินให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
- เตรียมตัวยาวิตามินและอุปกรณ์ให้ครบครัน และที่สำคัญอุปกรณ์นั้นๆต้องสะอาดและเป็นเกรดทางการแพทย์
- ทำการเปิดเส้น ที่ต้องดูแลโดยแพทย์ชำนาญการหรือพยาบาลผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการเปิดเส้น
- เริ่มดริปวิตามิน หรือฉีดวิตามินเข้าสู่ผิว ระหว่างให้วิตามินคนไข้สามารถนั่งพักผ่อนได้ตามสบายจนกว่าวิตามินจะหมดถุง
- เมื่อวิตามินหมดถุงแล้ว ทำการถอดสายน้ำเกลือ ถือว่าการฉีดวิตามินเป็นที่สิ้นสุดเรียบร้อย
ดริปวิตามิน กับ ฉีดวิตามินผิว 1 ครั้งใช้เวลานานไหม?
โดยปกติการดริปวิตามินหรือฉีดวิตามินผิว จะอยู่ที่ประมาณ 30-90 นาที ทั้งนี้ระยะเวลาก็ขึ้นอยู่กับปริมาณของวิตามินที่แพทย์ประเมินให้กับคนไข้ตามจุดประสงค์ของแต่ละบุคคลด้วย
ประโยชน์หลักของการ ดริปวิตามิน กับ ฉีดวิตามินผิว
- นอกประโยชน์ในเรื่องของผิวพรรณที่ขาวกระจ่างใสขึ้นหลังจากการดริปวิตามินกับฉีดวิตามินผิวแล้ว ยังมีประโยชน์ข้ออื่นๆอีกเพียบ นั่นก็คือ
- ตัววิตามินช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นและเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
- ลดการเกิดเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวไม่หมองคล้ำ ปรับผิวสว่างกระจ่างใสขึ้น
- เสริมสร้างการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ และชะลอการเกิด Oxidation ที่ทำให้ผิวแก่เร็ว
- กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยบรรเทาอาการหวัด และช่วยในเรื่องของผู้ที่เป็นภูมิแพ้
- ลดอาการอ่อนเพลีย ช่วยเพิ่มความเฟรชให้ระบบการทำงานในร่างกายสดชื่นยิ่งขึ้น
- เสริมความแข็งแรงให้ผิว ไม่แพ้ง่าย
วิธีเตรียมความพร้อมก่อนเข้าดริปวิตามิน กับ ฉีดวิตามินผิว
เพื่อให้ได้มาซึ่งผิวพรรณที่เปล่งปลั่งสุขภาพดีในระยะยาวโดยปราศจากผลข้างเคียงหรือโอกาสการเกิดอันตราย สิ่งสำคัญในการเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ ดริปวิตามิน กับ ฉีดวิตามินผิว คือ
- ศึกษาหาข้อมูลที่จำเป็น ในการเลือกคลินิกที่ได้รับมาตรฐาน มีแพทย์ชำนาญการและพยาบาลวิชาชีพ รวมไปถึงหลักการสังเกตยาแท้ เพื่อความปลอดภัยและความคุ้มค่าในการเข้ารับวิตามิน
- แจ้งเกี่ยวกับโรคประจำตัว ประวัติสุขภาพ และยาที่รับประทานก่อนเข้ารับบริการ เพื่อป้องกันผลกระทบหลังฉีดในด้านสุขภาพ
- ต้องรู้ความต้องการของตนเอง ว่าอยากฉีดวิตามินผิวเพื่อฟื้นฟูในด้านใด จากนั้นปรึกษากับแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อปรับสูตรและปริมาณให้เหมาะกับความต้องการมากที่สุด
ใครบ้างที่เหมาะกับการดริปวิตามิน กับ ฉีดวิตามินผิว
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกาย และสภาพผิวหมองคล้ำให้ดูสดใสขึ้น แข็งแรงขึ้นอย่างเร่งด่วน
- ผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย หรือมีไลฟ์สไตล์แฮงค์เอาท์
- ผู้ที่ไม่ชอบรอผลลัพธ์นานจากการทาครีมผิว ต้องการอะไรที่เร็วกว่า
- ผู้ที่มีผิวคล้ำเสีย ไม่สดใส และผิวแห้งกร้าน
- ผู้ที่ระบบภูมิต้านทานต่ำ เป็นหวัดง่าย และเป็นโรคภูมิแพ้
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ ที่เกิดจากรังสี UVA UVB หรือผู้ที่มีฝ้า กระ จากความผิดปกติของฮอร์โมน
ต้องดริปวิตามิน กับ ฉีดวิตามินผิว กี่ครั้งถึงเห็นผล?
จำนวนครั้งที่ให้ความเปลี่ยนแปลงของผิวอย่างเห็นได้ชัดจะอยู่ที่ประมาณ 3-5 ครั้งขึ้นไป โดยควรห่างกันประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลและการดูแลตัวเองหลังฉีดวิตามินผิวด้วย
การดริปวิตามิน กับ ฉีดวิตามินผิว อันตรายไหม?
การดริปวิตามินผิว หรือ การฉีดวิตามินผิว ไม่ใช่สิ่งที่เป็นอันตราย เพราะตัวยาจะเป็นวิตามินซีที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างคอลลาเจนในผิว ช่วยให้ผิวพรรณกระจ่างใส ป้องกันหวัดและปกป้องผิวจากแสงแดดได้ ส่วนที่จะเป็นอันตรายมักเกิดจากการเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ไม่ได้รับมาตรฐาน รวมถึงตัวยาที่ไม่ผ่าย อย. และไม่ได้รับการดูแลโดยแพทย์ชำนาญการและพยาบาลวิชาชีพอย่างเหมาะสม มีโปรโมชั่นที่ไม่ถูกจนเกินไป ราคาที่สมเหตุสมผล
สรุปดริปวิตามิน กับ ฉีดวิตามินผิว เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
ดริปวิตามิน กับ ฉีดวิตามินผิว เป็นหัตถการชนิดเดียวกัน โดยมีกระบวนการให้วิตามินหรือสารน้ำผ่านทางหลอดเลือดดำเข้าสู่ร่างกาย ใช้เวลาในการดริปหรือฉีดวิตามินผิวไม่นาน ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินได้โดยตรงและเต็มที่เหมือนกัน หลักๆเลยการดริปวิตามินและฉีดวิตามินผิว ช่วยในเรื่องฟื้นฟูผิวพรรณให้กระจ่างใส เสริมสร้างคอลลาเจนในผิว และเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ป้องกันการเป็นหวัด และช่วยให้ร่างกายสดชื่นไม่อ่อนเพลียง่ายนั่นเอง
สำหรับคนที่สนใจโปรโมชั่นหรือข้อมูลหัตถการต่างๆสามารถแอดไลน์@gangnamclinicและช่องทางFacebook เพื่อสอบถามโปรโมชั่นเพิ่มเติมและสามารถเข้ามาปรึกษาหมอฟรีที่กังนัมคลินิกใกล้บ้านคุณโดยไม่มีค่าใช้จ่าย