ปี 2024 ยุคที่ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการด้านความงามได้โดยไม่จำกัดเพศ หนึ่งในบริการที่ได้รับความนิยมมากๆ นั่นก็คือโบท็อก แต่สำหรับมือใหม่อาจจะไม่รู้ว่าต้องรู้อะไรบ้าง กังนัมคลินิกรวม 20 คำถามสุดฮอตที่ถูกถามมากที่สุดเกี่ยวกับโบท็อกแห่งปี 2024 ไว้ในบทความนี้
โบท็อก คืออะไร?
โบท็อก หรือ Botulinum Toxin A คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่ได้จากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Clostridium Botulinum และนำมาใช้ในวงการเสริมความงาม เพื่อการฉีดลดริ้วรอย โดยจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ในบริเวณที่ฉีดเข้าไป เพื่อให้กล้ามเนื้อหรือมัดกล้ามเนื้อเกิดทำงานน้อยลง ส่งผลให้เกิดริ้วรอยได้ยากขึ้น ริ้วรอยลดลง ปรับรูปหน้าให้เรียว ยกกระชับ และป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ด้วย
โบท็อกอยู่ได้กี่เดือน?
การฉีดโบท็อก 1 ครั้งนั้นจะอยู่ได้นานประมาณ 5 – 6 เดือน และควรเว้นจากการฉีดครั้งแรกประมาณ 3 เดือนก่อนการฉีดครั้งต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดอาการตึงมากเกินไป แต่ไม่ควรเว้นห่างเกิน 6 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานปกติ และจะต้องใช้โบท็อกในยูนิตที่จำนวนเยอะขึ้นในครั้งต่อไป
โบท็อกกราม อยู่ได้นานแค่ไหน?
หลังจากตัวยาโบท็อกออกฤทธิ์แล้ว จะอยู่ได้นานประมาณ 5 – 6 เดือน (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อก) สามารถฉีดซ้ำได้ในเดือนที่ 4 ขึ้นไปหลังการฉีดเพื่อคงสภาพผลลัพธ์
โบท็อกลดกราม หน้าเรียว เห็นผลเมื่อไหร่?
โบท็อกลดกราม เริ่มเห็นผลตอน 14 วัน กล้ามเนื้อกรามจะนิ่มลงกัดแล้วไม่เด้ง แต่ยังไม่เห็นว่ายุบ เริ่มเห็นว่ากรามยุบหลังจากฉีด 1 เดือน และยุบเต็มที่ตอน 2 – 3 เดือน
โบท็อกลดริ้วรอย เห็นผลเมื่อไหร่?
โบท็อกริ้วรอย ปกติจะเริ่มออกฤทธิ์และเห็นผลใน 3 – 7 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 14 วัน
โบท็อกควรฉีดทุกกี่เดือน?
การฉีดโบท็อกไม่ควรฉีดถี่เกินไป เพราะอาจทำให้ดื้อยาได้ โดยปกติควรฉีดโบท็อกเว้นจากครั้งล่าสุดอย่างน้อย 3 เดือน ไม่ควรเว้นห่างเกิน 6 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานปกติ และจะต้องใช้โบท็อกในยูนิตที่จำนวนเยอะขึ้นในครั้งต่อไป
ทำไมฉีดโบท็อกไม่เห็นผล
การที่ฉีดโบท็อกมาแล้วไม่เห็นผล สาเหตุมาจากการฉีดด้วยโบท็อกปลอม หรือโบท็อกหิ้วที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งจะให้ผลดีในการฉีดครั้งแรก แต่พอครั้งต่อๆ ไปจะเริ่มได้ผลลัพธ์ที่น้อยลง เพราะร่างกายเราสร้างภูมิต้านทานมากขึ้น ทำให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้น้อยลง
ข้อปฏิบัติตัวหลังจากฉีดโบท็อก
- งดนอนราบทันทีหลังฉีด เพราะอาจทำให้ตัวยาเคลื่อนไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ จนเกิดผลข้างเคียงได้
- หลังฉีดควรเคี้ยวหมากฝรั่งประมาณ 30 นาที เพื่อให้ตัวยาโบท็อกกระจายตัวได้ดี
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องสัมผัสกับความร้อนทุกชนิด เช่น การเข้าซาวน่า หรือการกินปิ้งย่าง อย่างน้อย 3 วัน
- งดเคี้ยวอาหารที่แข็งหรือเหนียว ประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ เป็นเวลา 2 สัปดาห์
โบท็อกแท้ ดูยังไง?
- โบท็อกของแท้ ก่อนฉีดแพทย์จะแกะกล่อง เปิดขวดใหม่ให้ดูต่อหน้า พร้อมบอกจุดสังเกตของแท้ให้คนไข้ทราบก่อนทำการฉีด ให้คนไข้ได้มั่นใจว่าเป็นโบท็อกแท้ และภายในขวดเป็นโบท็อกเต็มจำนวนจริงๆ
- หลังจากเปิดขวด แพทย์จะต้องผสมยาต่อหน้า โดยโบท็อกแท้ทุกยี่ห้อ จะมาในรูปแบบผงแห้งๆ สีขาวที่ก้นขวด ไม่มีน้ำ แพทย์จะต้องเป็นผู้ใส่น้ำเกลือลงไปเพื่อละลายตัวยาออกมาฉีด 1 ขวด
- หลังฉีด ควรขอกล่องและขวดโบท็อกกลับบ้าน หรือถ่ายรูปกล่องและขวดเก็บไว้ตรวจสอบขั้นตอนการตรวจสอบยาแท้
ทั้งนี้ โบท็อกแต่ละยี่ห้ออาจมีจุดสังเกตที่แตกต่างกัน ผู้รับการรักษาควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงที่คลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานจะฉวยโอกาสและแอบเอาโบท็อกปลอมมาใช้กับผู้รับบริการ
มีโอกาสแพ้โบท็อกได้หรือไม่?
มีโอกาสที่จะแพ้ได้ โดยจะมีแค่ผดเล็กๆ ขึ้น แนะนำให้กินยาแก้แพ้ 2 – 3 วันก็หายเป็นปกติ
ดื้อโบท็อก แก้ไขอย่างไร?
อาการดื้อโบท็อกยังไม่สามารถแก้ไขหรือรักษาได้ ถึงแม้จะเปลี่ยนยี่ห้อโบท็อกก็จะเกิดอาการดื้อโบท็อกเช่นเดิม จะต้องรอจนกว่าภูมิต้านทานจะหมดฤทธิ์ไปเอง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 3 – 5 ปีแล้วค่อยกลับมาฉีดใหม่ ในบางรายอาจจะดื้อเป็น 10 – 20 ปี
ฉีดโบท็อกแล้วทำ Hifu ได้ไหม?
สามารถทำได้ แต่ควรเว้นระยะห่างหลังจากฉีดโบท็อกประมาณ 2 สัปดาห์ แล้วค่อยทำ Hifu เพื่อป้องกันผลกระทบต่อตัวยา
อ่านบทความเพิ่มเติม : ไขข้อสงสัย! HIFU คืออะไร? พร้อมเปรียบเทียบ HiFu กับหัตถการอื่นแบบชัดๆ!
หลังฉีดโบห้ามกินเหล้ากี่วัน
หลังฉีดโบท็อกไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ทุกชนิด ในระยะเวลา 14 วัน หรืออย่างน้อย 2 วัน เพราะแอลกอฮอล์จะเข้าไปกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและทำให้ฤทธิ์ของโบท็อกลดน้อยลง
ฉีดโบท็อก ห้ามนอนราบกี่ชั่วโมง?
หลังฉีดโบท็อกควรงดนอนราบ 3 ชั่วโมง รวมทั้งงดการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ เพราะเลือดจะไหลเวียนมาที่หน้าเยอะขึ้น ทำโบท็อกจะกระจายไปส่วนอื่นที่ไม่ต้องการได้
ฉีดโบท็อกลดเหงื่อเมื่อไหร่ถึงเห็นผล?
หลังจากฉีดโบท็อกรักแร้จะใช้เวลาประมาณ 3 – 7 วัน เหงื่อจะค่อยๆ ลดลง อยู่ได้ประมาณ 3 – 5 เดือน ถ้าต้องการรักษาผลลัพธ์ไว้ต่อเนื่องสามารถมาฉีดซ้ำได้
อยากฉีดโบท็อกรักแร้ ช่วยลดเหงื่อต้องใช้กี่ยูนิต?
การฉีดโบท็อกรักแร้ เพื่อลดเหงื่อ จะใช้โบท็อก ข้างละ 50 – 100 ยูนิต บริเวณรักแร้ 20 – 30 จุด เพื่อยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อและกลิ่นไม่พึงประสงค์บริเวณใต้วงแขนให้ทำงานได้น้อยลง ส่งผลให้ลดเหงื่อบริเวณใต้รักแร้ได้กว่า 80%
ฉีดโบท็อกแล้ว หน้าแข็ง ยิ้มไม่เหมือนเดิม ฉีดสลายได้ไหม?
ฉีดโบท็อกแล้วหน้าแข็ง ยิ้มไม่ได้ เกิดขึ้นได้จากแพทย์ขาดประสบการณ์ ประเมินการใช้ปริมาณโบท็อกไม่เหมาะสม หรือฉีดผิดตำแหน่ง ผลลัพธ์ที่ได้จึงดูไม่เป็นธรรมชาติ
โบท็อกไม่สามารถฉีดสลายได้ ต้องรอให้โบท็อกอ่อนฤทธิ์ลงเอง
ฉีดโบท็อกอันตรายไหม?
การฉีดโบท็อก ถือเป็นหัตถการที่ปลอดภัยสูง หากได้รับการฉีดด้วยโบท็อกแท้ จะไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียง เนื่องจากโบท็อกมีฤทธิ์ชั่วคราว ต้องฉีดซ้ำอยู่เรื่อยๆ แต่หากคนไข้ได้รับการฉีดโบท็อกที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็จะส่งผลให้มีอาการดื้อยา ฉีดแล้วไม่ได้ผลและต้องใช้โดสที่มากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง
โบท็อก VS ร้อยไหม อะไรดีกว่ากัน
โบท็อกลดกราม และร้อยไหมหน้าเรียว เป็น 2 วิธีที่นิยมใช้เพื่อการปรับรูปหน้าเรียว แต่การเลือกทำจะขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ว่าอยากมีรูปหน้าเป็นแบบไหน
การร้อยไหมมีจุดเด่นในการยกกระชับ แก้ไขความหย่อนคล้อย สามารถร้อยไหมกระชับขึ้นได้ซึ่งการฉีดโบท็อก และร้อยไหม สามารถทำควบคู่กันได้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
โบท็อกอเมริกา ต่างจากโบท็อกเกาหลีอย่างไร?
โบท็อกอเมริกากับโบท็อกเกาหลี ที่เป็นโบท็อกแท้และมีกระบวนการเก็บรักษาอย่างถูกต้อง สามารถแก้ไขปัญหาไม่ว่าจะลดริ้วรอยหรือลดกรามได้อย่างเห็นผลใกล้เคียงกัน จะแตกต่างกันที่คุณสมบัติ การออกฤทธิ์และระยะเวลาที่ไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น
โบท็อกอเมริกายี่ห้อ Allergan
เป็นโบท็อกที่มีคุณสมบัติโดดเด่น คือมีความบริสุทธิ์ถึง 99.5% ทำให้ลดโอกาสที่จะเกิดการดื้อยาเมื่อฉีดหลายๆ ครั้งได้ดี ออกฤทธิ์ได้นาน มีการกระจายของตัวยาแคบ ทำให้ออกฤทธิ์ได้แม่นยำ และตรงจุด
โบท็อกเกาหลี
มีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ 4 – 6 เดือน หรืออาจนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิว การดูแลและการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลด้วย