สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นพันพ้นอันหาที่สุดไม่ไม่ได้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาด พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ข้าพระพุทธเจ้าคณะผู้บริหารและพนักงาน บริษัท โชลคลินิก จำกัด
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow

ทำความรู้จักกับนวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจน ไหมน้ำ คืออะไร? ดีจริงหรือเปล่า? ควรทำไหม? ตอบทุกข้อสงสัย!

ทำความรู้จักกับนวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจน “ไหมน้ำ” คืออะไร? ดีจริงหรือเปล่า? ควรทำไหม? ตอบทุกข้อสงสัย

Table of Contents

ใครเคยได้ยินคำว่า ไหมน้ำ แล้วสงสัยไหมว่า ไหมน้ำที่ว่านี้ เป็นไหมจริง ๆ เหมือนการร้อยไหมหรือเปล่า? ทำไปทำไมกันนะ? วันนี้จะมาแบ่งปันความน่าสนใจของ ไหมน้ำ และไขข้อสงสัยทั้งหมดว่าเจ้าไหมน้ำนี่คืออะไรกันแน่ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง เหมาะกับใคร ข้อดี-ข้อเสียต่าง ๆ เพื่อที่จะได้รู้ว่าใครควรที่จะลองใช้บริการไหมน้ำบ้าง

ไหมน้ำ คืออะไร? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง? ช่วยลดใต้ตาคล้ำได้ไหม? เหมาะกับผิวแบบไหน?

เมื่อเห็นคำว่า ไหมน้ำ หลายคนอาจจะมีความสงสัยว่าสรุปแล้วเป็นหัตถการที่เหมือนการร้อยไหมหรือเปล่า แต่จริง ๆ แล้ว ไหมน้ำเป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว (Collagen Biostimulator) ซึ่งจะมีผลลัพธ์ที่ช่วยยกกระชับผิว นอกจากนี้ไหมน้ำก็มีการทำงานที่คล้ายกับการร้อยไหม (Thread) เช่นกันเสมือนเป็นการร้อยไหมที่ใต้ชั้นผิว จึงเป็นที่มาของชื่อนี้นี่เอง โดยไหมน้ำจะเป็นทางออกสำหรับใครที่มีปัญหาผิวดังนี้แต่ต้องการแก้ปัญหาแบบเร่งด่วน

  • ริ้วรอยตามบริเวณต่าง ๆ ตามใบหน้า
  • ผิวขาดความชุ่มชื้น ไม่เต่งตึงเท่าเดิม มีความหย่อนคล้อย
  • รูขุมขนกว้าง
  • ผิวโทรม ไม่อิ่มฟู
  • ใต้ตาคล้ำ

โดยกลไกหลักของไหมน้ำคือการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของผิวหน้าและผิวกาย โดยยิ่งมีคอลลาเจนมาก ผิวจะยิ่งมีความกระชับ เต่งตึง อ่อนวัย เพราะร่างกายเราจะผลิตคอลลาเจนน้อยลงเรื่อย ๆ เมื่อมีอายุเพิ่มขึ้น ดังนั้นไหมน้ำจะเข้ามาช่วยเติมเต็มคอลลาเจนที่ขาดหายไปที่ร่างกายผลิตน้อยลง (ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาผิวที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้) ดังนั้นใครที่ฉีดไหมน้ำ รับรองได้เลยว่าผลลัพธ์ที่ได้รับจะดีสมใจแน่นอน

  • ช่วยทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้น
  • ช่วยยกกระชับใบหน้าให้ดูเต่งตึงขึ้น
  • ช่วยลดขนาดของรูขุมขนให้มีผิวที่เรียบเนียนยิ่งขึ้น
  • ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู ชุ่มชื้น และแข็งแรงมากขึ้น

ไหมน้ำสามารถฉีดบริเวณไหนได้บ้าง? ฉีดใต้ตาได้ไหม?

ไหมน้ำสามารถฉีดได้หลากหลายบริเวณเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะจุด โดยนอกเหนือจากบนใบหน้าแล้ว สามารถฉีดที่บริเวณอื่นได้ด้วยเช่นกัน

  • ฉีดบริเวณร่องแก้ม เพื่อเติมเต็มร่องแก้มลึกให้กระชับและดูตื้นขึ้น
  • ฉีดบริเวณริมฝีปาก เพื่อให้ปากอิ่มฟูขึ้น
  • ฉีดหน้าผากและระหว่างคิ้ว เพื่อให้ริ้วรอยดูลดเลือนลง และดูเยาว์วัยมากยิ่งขึ้น
  • ฉีดบริเวณคาง เพื่อยกกระชับผิวและทำให้กรอบหน้าดูเรียวขึ้น
  • ฉีดบริเวณใต้ตา เพื่อเติมเต็มร่องลึกใต้ตาให้ดูกระชับและดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
  • ฉีดบริเวณลำคอและหลังมือ เพื่อลดริ้วรอย ให้ผิวดูหย่อนคล้อยน้อยลง

ไหมน้ำมีกี่ยี่ห้อ? แต่ละชนิดต่างกันยังไง Ultracol, Sculptra, Juvelook

ไหมน้ำมีหลากหลายยี่ห้อ โดยก็มีหลายตัวที่กำลังมาแรงในวงการหัตถการเสริมความงาม โดยยี่ห้อของไหมน้ำที่กำลังเป็นที่นิยมได้แก่ Ultracol, Gouri, Sculptra และ Juvelook และยี่ห้ออื่น ๆ ได้แก่ AestheFill และ Lenisna อย่างไรก็ตาม แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันในแง่ชนิดของสารในไหมน้ำนั่นเอง การเลือกไหมน้ำที่เหมาะสมที่สุดควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวปัจจุบันของแต่ละคน โดยไหมน้ำมีทั้งหมด 4 ชนิดหลัก ๆ ดังนี้

ไหมน้ำ PCL (Polycarpolactone) : Gouri

เป็นสารที่มีความสามารถในการกระตุ้นคอลลาเจนด้วยเทคโนโลยี CESABP ที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์และดูกระจ่างใสยิ่งขึ้น (ถูกใช้ในไหมน้ำยี่ห้อ Gouri)

ไหมน้ำ PDO (Polydioxanone) : Ultracol

ไหมน้ำชนิดนี้มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยถูกใช้ในการสมานแผลที่อวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายและเย็บแผลผ่าตัดด้วยเช่นกัน ได้รับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ซึ่งสามารถใช้ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบนใบหน้าได้ด้วยเช่นกัน (ถูกใช้ในไหมน้ำยี่ห้อ Ultracol)

ไหมน้ำ PDLLA (Poly D-L-Lactic Acid) : Lenisna, Juvelook, AestheFill

ไหมน้ำจากประเทศเกาหลีที่มีอนุภาคขนาดเล็กที่ช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจน คล้ายกับไหมน้ำ PLLA ปลอดภัยและไม่ค่อยเสี่ยงต่อการเกิดอาการอักเสบ (ถูกใช้ในไหมน้ำยี่ห้อ Lenisna, Juvelook, AestheFill)

บทความเพิ่มเติม : Juvelook คืออะไร? เหมาะกับใคร ต้องฉีดกี่ครั้ง? ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง? ราคาเท่าไหร่?

ไหมน้ำ PLLA (Poly L-Lactic Acid) : Sculptra

ไหมน้ำชนิดนี้เป็นโมเลกุลเล็กที่มีความปลอดภัยและย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ สามารถอุ้มน้ำได้ดี มีความปลอดภัยสูง (ถูกใช้ในไหมน้ำยี่ห้อ Sculptra)

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ : Sculptra ตัวช่วยกระตุ้นคอลลาเจนกระชับผิวสวย Sculptra คืออะไร? ดีอย่างไร?

ไหมน้ำอยู่ได้นานแค่ไหน

ผลลัพธ์ของไหมน้ำจะแตกต่างกันออกไปตามชนิด โดยสามารถเรียงตามลำดับจากน้อยสุดไปมากสุดได้ดังนี้

  • ไหมน้ำ PDO จะอยู่ได้นานถึง 6-8 เดือน
  • ไหมน้ำ PCL จะอยู่ได้นานถึง 6-12 เดือน
  • ไหมน้ำ PLLA อยู่ได้นานถึง 2 ปี
  • ไหมน้ำ PDLLA อยู่ได้นานถึง 2 ปี

ยี่ห้อไหนดี? ราคาเท่าไหร่บ้าง?

  • Ultracol ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 15,000-20,000 บาท/ขวด
  • Gouri ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 16,000 บาท/CC
  • Sculptra ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 20,000-40,000 บาท/ขวด
  • Lenisna ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 15,000-25,000 บาท/ครั้ง
  • Juvelook ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 15,000-25,000 บาท/ขวด
  • AestheFill ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 20,000 บาท/ขวด

รีวิวก่อน-หลังการฉีดไหมน้ำ ที่กังนัมคลินิก

ไหมน้ำมีข้อเสียอะไรบ้างที่ควรรู้

ถึงแม้ไหมน้ำจะเป็นอีกตัวเลือกแทนการร้อยไหมแบบเดิมที่มีประสิทธิภาพดี อย่างไรก็ตามไหมน้ำก็มีข้อจำกัดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ควรพิจารณาดังนี้

  • เนื่องจากว่าผลลัพธ์ของการฉีดไหมน้ำจะขึ้นอยู่กับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย ดังนั้นจะใช้เวลาซักพักก่อนจะเห็นความต่างเนื่องจากร่างกายต้องใช้เวลาในการกระตุ้นคอลลาเจนใหม่
  • ผลลัพธ์ของไหมน้ำไม่ถาวร โดยระยะเวลาอายุของผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับไหมน้ำแต่ละชนิด
  • ไหมน้ำอาจไม่ใช่ทางเลือกรักษาปัญหาผิวร่องลึกสำหรับกรณีที่มีความลึกมาก โดยการฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มร่องลึกได้อย่างเห็นผลที่ชัดเจนมากกว่าไหมน้ำ
  • กรณีที่ผิวมีสีที่คล้ำมากเป็นพิเศษ จะเหมาะกับการรักษาวิธีอื่นมากกว่าไหมน้ำ เช่น การฉีดฟิลเลอร์

ไหมน้ำไม่เหมาะกับใครบ้าง ใครที่ไม่ควรฉีด

  • ผู้ที่กำลังมีครรภ์
  • ผู้ที่กำลังให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคภูมิแพ้ เป็นต้น
  • ผู้ที่แพ้ส่วนประกอบที่ใช้ในไหมน้ำ

ก่อนฉีดไหมน้ำ การปรึกษากับแพทย์เพื่อตรวจเช็กประวัติแพ้ยาหรือโรคประจำตัวต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วนถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ควรรับการรักษากับคลินิกและแพทย์มีความเชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเสี่ยงและให้คำแนะนำในการรักษาที่ปลอดภัยมากที่สุด

ข้อดี ความเด่นของไหมน้ำ

อย่างไรก็ตาม ไหมน้ำเองก็มีข้อดีมากมายที่ทำให้เป็นนวัตกรรมที่โดดเด่นและกำลังได้รับความสนใจ

  • การทิ้งรอยแผลเป็นอาจเป็นข้อกังวลหลัก ๆ ที่หลาย ๆ คนมีก่อนจะเลือกทำหัตถการใดก็ตาม โดยสำหรับใครที่มีความสนใจจะทำไหมน้ำ สามารถสบายใจในเรื่องนี้ได้เลย โดยจะมีเพียงอาการบวมเล็กน้อยหลังฉีดชั่วคราวใน 1-2 สัปดาห์แรกเท่านั้น ดังนั้น หลังการฉีดไหมน้ำไม่ต้องพักฟื้นเหมือนการร้อยไหม และมีขั้นตอนการดูแลที่ไม่ยุ่งยาก
  • ลดความเสี่ยงต่ออาการแพ้
  • ไหมน้ำสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างใต้ผิวหน้า
  • สามารถแก้ปัญหาได้เฉพาะจุดที่หลากหลาย

สรุปทำความรู้จักกับนวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจน ไหมน้ำ คืออะไร? ดีจริงหรือเปล่า? ควรทำไหม? ตอบทุกข้อสงสัย!

เมื่อเวลาผ่านไป คอลลาเจนในผิวเราก็จะลดลงไปตามธรรมชาติ แต่คอลลาเจนที่หายไปนั้นก็สามารถที่จะถูกสร้างขึ้นเพิ่มเติมเพื่อทดแทนส่วนที่หายไปเหมือนกัน โดยไหมน้ำเป็นหนึ่งในวิธีการกระตุ้นคอลลาเจนที่กำลังได้รับความนิยมและมีคุณสมบัติที่หลากหลาย เหมาะกับใครที่ไม่ต้องการทำหัตถการที่ต้องพักฟื้นนานอย่างการร้อยไหมนั่นเอง

ปรึกษาหมอฟรี กังนัมคลินิก 43 สาขาใกล้บ้าน

Scroll to Top
gangnamclinicthailand