มารู้จักกับ Sculptra ตัวช่วยกระตุ้นคอลลาเจนกระชับผิวสวย Sculptra คืออะไร? ดีอย่างไร?
ไม่ว่าจะมีใครชอบหรือไม่แต่กาลเวลาที่ผ่านไปล้วนสร้างปัญหาต่อสุขภาพของเราอยู่ในทุกๆวันรวมไปถึงการแก่ตัวลงของผิวที่จะตามมาหาพวกเราในที่สุด อายุที่มากขึ้น ผิวของ เราก็เริ่มที่จะสูญเสียคอลลาเจนที่ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และเปล่งปลั่ง แถมริ้วรอยร่องลึกยังเริ่มมีความชัดมากขึ้น ในปัจจุบันกระบวนการ Skin Renewal of Tulsa ที่เกิดขึ้นในเมืองทัลซา รัฐโอคลาโฮมา มีการนำเสนอฟิลเลอร์ผิวหนังอันเป็นเอกลักษณ์ที่เรียกว่า Sculptra ซึ่งสามารถลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกต่างๆ รวมไปถึงขั้นการฟื้นฟูรูปทรงบนใบหน้าของเรา
Sculptra ทำมากกว่าเป็นแค่การเติมเต็มใบหน้าของเราแต่ยังช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนซึ่งช่วยให้ผิวสามารถต่ออายุของตัวเองได้ตามธรรมชาติ ซึ่งผลลัพธ์จะค่อยๆดูเป็นธรรมชาติและคงอยู่ได้นานกว่าการฉีดในรูปแบบอื่นๆ หากคุณพร้อมที่จะย้อนเวลาผิวหนังใบหน้าให้กลับไปเหมือนวัยเด็กอีกครั้ง การรักษาด้วยการฉีด Sculptra จึงเป็นทางเลือกที่ควรค่าแก่การลอง
Sculptra คืออะไร?
Sculptra เป็นฟิลเลอร์ผิวหนังประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นขั้นตอนการเสริมความงามเพื่อทำให้ริ้วรอยลึกดูเรียบเนียนขึ้น ซึ่ง Sculptra เป็นสารคล้ายเจลที่ทำจากกรดโพลี-แอล-แลคติกหรือ PLLA (Poly-L-Lactic Acid) โดยผู้ให้บริการด้านการแพทย์จะฉีดฟิลเลอร์นี้ใต้ผิวหนังในบริเวณที่ต้องการเพื่อให้ใบหน้าดูอิ่มฟูและเรียบเนียนขึ้น โดยกรดโพลี-แอล-แลกติกเป็นตัวกระตุ้นคอลลาเจนให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายภายใน 2-3 วันหลังการฉีดเพื่อกระตุ้นให้เซลล์ในร่างกายผลิตคอลลาเจนออกมามากขึ้น ทั้งนี้คอลลาเจนก็คือโปรตีนในผิวหนังที่ช่วยเสริมสร้างความกระชับและความแข็งแรงให้กับผิวนั่นเอง
สารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator) ใน Sculptra คืออะไร?
สารกระตุ้นคอลลาเจน หรือ Biostimulator เป็นตัวช่วยในการรักษาประเภทหนึ่งที่ใช้ในการแพทย์ทำหัตถกรรมเสริมความงามประเภทชะลอวัย การใช้สารกระตุ้นคอลลาเจนการเป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการซ่อมแซมและฟื้นฟูด้วยตนเองได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพทำให้ผิวพรรณดูดีขึ้น ริ้วรอยบนผิวหนังลดเลือนลง
ใครบ้างที่เหมาะกับ Sculptra?
สารกระตุ้นคอลลาเจน หรือ Biostimulator เป็นตัวช่วยในการรักษาประเภทหนึ่งที่ใช้ในการแพทย์ทำหัตถกรรมเสริมความงามประเภทชะลอวัย การใช้สารกระตุ้นคอลลาเจนการเป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการซ่อมแซมและฟื้นฟูด้วยตนเองได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพทำให้ผิวพรรณดูดีขึ้น ริ้วรอยบนผิวหนังลดเลือนลง
Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการ ลดเลือนริ้วรอยร่องลึก ยกระดับผิวที่หย่อนยานให้กระชับมากขึ้น ปรับรูปทรงหรือทำให้โครงหน้าดูนุ่มนวลขึ้น และเป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าโทรม ไม่สดใส มีรูขุมขนกว้าง หรือต้องการตัวช่วยในเรื่องการยกกระชับผิวที่ได้ผลในระยะยาวและมีประสิทธิภาพ และเหมาะกับผู้ที่มีอาการแพ้จากสารเติมเต็ม (Filler) ประเภทอื่นมาก่อน
Sculptra อยู่ได้นานแค่ไหน?
Sculptra เป็นหัตถกรรมที่มีผลลัพธ์ที่คงทนยาวนาน สามารถอยู่ได้นานมากกว่าสองปีขึ้นไป เป็นข้อดีที่ทำให้ผู้คนหลายคนหันมาทำการฉีด Sculptra
Sculptra ปลอดภัยหรือไม่?
Sculptra เป็นฟิลเลอร์ผิวหนังที่ปลอดภัย เพราะได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) โดยสาร PLLA หรือ Poly-L-Lactic acid ใน Sculptra ได้รับความนิยมทางการแพทย์เสริมความงามทั่วโลกในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิวหนังตั้งแต่ปี 1999 ซึ่งPLLA เป็นสารสังเคราะห์ที่ได้รับจากพืช สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย มีส่วนช่วยฟื้นฟูถึงใต้ชั้นลึกของผิว ทำให้ผิวพรรณบนใบหน้ายืดหยุ่น แลดูกระชับอ่อนเยาว์
Sculptra เห็นผลจริงหรือไม่?
ผลการวิจัยพบว่า Sculptra กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type I) ได้ดีเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นหนึ่งในคอลลาเจนมากกว่า 16 ชนิดที่ร่างกายผลิตได้ มีส่วนช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่น ช่วยสมานแผลบนผิวหนัง การฉีด Sculptra สามารถกระตุ้นให้เกิดการผลิตคอลลาเจนชนิดที่ 1 ได้มากถึงร้อยละ 66.5 หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน ซึ่งถ้าเทียบกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่สามารถผลิต Collagen type I ได้มากเทียบเท่ากับ Sculptra ในปัจจุบัน
ก่อนฉีด เตรียมตัวอย่างไร ?
- งดเว้นการทำหัตถการเสริมความงามอื่นๆ ก่อน-หลัง ฉีด 4 สัปดาห์ (1เดือน)
- ไม่อยู่ในภาวะการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด1-3 วันก่อนการฉีด
- ทำความสะอาดผิวหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- หยุดยาหรือวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยากบางประเภท เช่น กลุ่มยาแอสไพริน น้ำมันปลา ฯลฯ 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องกันบวมและฟกช้ำที่อาจเกิดได้มากขึ้น
Sculptra เจ็บไหม ?
การฉีด Sculptra ที่ใบหน้าอาจมีความรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปจะไม่เจ็บมาก อาจรู้สึกเหมือนมีการกดหรือเจ็บนิดหน่อยในขณะที่เข็มฉีดเข้าสู่ผิวหนัง โดยปกติแล้วแพทย์จะใช้ยาชาหรือยาชาเฉพาะที่เพื่อลดความรู้สึกเจ็บในระหว่างการฉีดทำให้กระบวนการนี้เป็นไปอย่างสบายและไม่มีความเจ็บปวดมากนัก บางครั้งอาจจะมีอาการบวม แดง หรือช้ำเล็กน้อยหลังการฉีด ซึ่งจะหายไปภายในไม่กี่วัน
หลังฉีด Sculptra กี่วันเห็นผล ?
หลังฉีด Sculptra ประมาณ 5 วัน กระบวนการผลิตคอลลาเจนของร่างกายจะเพิ่มขึ้น และเห็นความเปลี่ยนแปลงและจะเห็นผลได้อย่างชัดเจนภายใน 2-3 สัปดาห์ ริ้วรอยจะค่อยๆลดเลือน เมื่อครบ3เดือนจะเป็นช่วงที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากที่สุด
ข้อดีของ Sculptra
- Sculptra ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนตามธรรมชาติของผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าดูแน่นและอิ่มฟูมากขึ้น
- ผลลัพธ์จากการฉีด Sculptra สามารถคงอยู่ได้นานถึงสองปี ทำให้ไม่ต้องฉีดบ่อยเหมือนหัตถกรรมชนิดอื่น
- Sculptra ช่วยฟื้นฟูปริมาตรของใบหน้าที่สูญเสียไปจากวัยชรา ช่วยเติมเต็มส่วนที่ยุบลง เช่น แก้ม ขมับ และขากรรไกร
- Sculptra ช่วยปรับปรุงเนื้อผิวให้ดูเรียบเนียนและสดใสขึ้น
- เนื่องจากผลลัพธ์ของSculptra จะค่อยๆปรากฏขึ้นหลังจากทำจึงทำให้การเปลี่ยนแปลงดูเป็นธรรมชาติ ไม่เด่นชัดเกินไป
- การฉีด Sculptra เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ทันทีหลังการฉีด
ผลข้างเคียงของ Sculptra
- อาการบวม
- อาการช้ำ
- อาการปวดหรือไม่สบายตัว
- อาการคัน
- หากอาการยังไม่ดีขึ้นหรือพบอาการอื่นๆที่ผิดปกติควรเข้ามารับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วที่สุด
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีด Sculptra
- ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังมากเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังการฉีด
- หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีอาการร้อนจัดประมาณ 3-5 วันหลังฉีด
- งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ 1 สัปดาห์
- ไม่ทำหัตถการอื่น ๆ อย่างน้อย 1-3 เดือน หากจำเป็นต้องทำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน
เปรียบเทียบ Sculptra vs Filler vs Gouri vs Rejuran ต่างกันอย่างไร
Sculptra vs Filler ต่างกันอย่างไร ?
Sculptra ใช้สารสกัด PLLA (Poly-L-Lactic acid) เป็นส่วนประกอบหลัก ส่วน Filler คือสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic acid จะเป็นแก้ไขและเติมเต็มเฉพาะบางจุดที่ต้องการบนใบหน้าตามความต้องการของคนไข้ และ Filler จะเห็นผลลัพธ์หลังทำทันที แต่หากต้องการผลลัพธ์ที่คงทนและยาวนานรวมถึงให้ความเป็นธรรมชาติ การทำ Sculptra จะเหมาะสมมากกว่า เนื่องจากเป็นสารสกัดที่มาจากธรรมชาติโดยตรง สามารถเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ถึงชั้นลึกของผิว และสามารถย่อยสลายได้เอง
Sculptra vs Gouri ต่างกันอย่างไร ?
Sculptra ใช้สารสกัด PLLA (Poly-L-Lactic acid) ที่มาในรูปแบบของผง ส่วน Gouri เป็นสารสกัด PCL (Polycaprolactone) ในรูปแบบของเหลวตัวยามีหน้าที่เข้าไปเติมเต็มช่องว่างระหว่างผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่เองตามธรรมชาติเช่นเดียวกัน Sculptra หลังฉีดจะยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ทันทีชัดเจนเท่ากับ Gouri แต่ผิวจะค่อยๆเริ่มดีขึ้นและเห็นผลได้อย่างชัดเจนภายใน 2-3 อาทิตย์ ส่วนผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีด Sculptraจะคงทนอยู่ถึง 2ปี ยาวนานกว่า
Sculptra vs Rejuran ต่างกันอย่างไร?
Sculptra ใช้สารสกัด PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ส่วน Rejuran มีส่วนประกอบหลักมาจาก Polynucleotide PN บริสุทธิ์เข้มข้น ที่สกัดมาจากชิ้นส่วนของ DNA ปลาแซลมอน ซึ่ง Sculptra เหมาะกับการแก้ไขปัญหา ช่วยในการปรับปรุงโครงสร้างรูปหน้าแก้ไขปัญหาเรื่องของริ้วรอยร่องลึกได้เป็นอย่างดี เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว เนื่องจากการฉีด Sculptra เห็นผลได้ยาวนานมากถึง 2 ปี ส่วน Rejuran เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวโดยรวม ผู้ที่ปัญหา ผิวแห้งไม่ชุ่มชื้น รูขุมขนกว้าง หน้าไม่เนียนใสและมีริ้วรอย Rejuran จะช่วยให้ผิวดูโกลว์สวยและฉ่ำวาวมากยิ่งขึ้น Rejuran เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็วทันทีหลังฉีด เพียงแต่ผลลัพธ์ที่ได้จะคงทนน้อยกว่า Sculptra และต้องมีการฉีดเป็นประจำหลายครั้งเพื่อผลลัพธ์ในการรักษาคุณภาพผิวที่ดีที่สุด
ฉีด Sculptra ที่ไหนดี?
เนื่องจาก Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องฉีดเข้าสู่ผิวชั้นลึกของผิวหนังคนไข้ โดยความลึกอยู่ที่ประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร ดังนั้นควรเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญในการฉีด Sculptra โดยเฉพาะ และเลือกคลินิกที่มีการให้บริการที่เชื่อถือได้ อย่าง Gangnam Clinic ซึ่งเป็นคลินิกที่มีใบรับรองและการให้บริการที่มีมาตรฐาน รวมถึง Gangnam Clinic เป็นคลินิกเสริมความงามที่มีสาขาทั่วประเทศมากกว่า 38 สาขา มีผู้ใช้บริการจริงเป็นจำนวนมาก ทางคลินิกใช้เครื่องมือทางการแพทย์ระดับสากล และมีแพทย์ผู้ชำนาญการที่เก่งมากประสบการณ์คอยให้คำแนะนำอย่างดีตลอดการรักษาซึ่งเป็นที่การันตีได้ว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
