ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก VS ฉีดไขมัน VS เสริมหน้าผากซิลิโคน แตกต่างกันอย่างไร? แบบไหนดีที่สุด?

การ มีหน้าผากที่ได้รูปอิ่มสวยนั้นนอกจากจะทำให้ใบหน้าดูมีมิติและดูอ่อนเยาว์แล้ว การเสริมหน้าผากให้ดูอวบอิ่มตามความเชื่อของคนจีน ยังเป็นการปรับโหงวเฮ้งของใบหน้าอีกด้วย ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากอย่างไรให้ถูกต้องตามหลักโหงวเฮ้ง และถูกต้องตามหลักของความงามไปพร้อมๆกัน

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คืออะไร?

ฟิลเลอร์หน้าผาก คือ การฉีดสารเติม Hyaluronic acid เข้าไปในบริเวณหน้าผาก เพื่อแก้ไขปัญหาหน้าผากบุบแบน ไม่สวยได้รูป ให้นูนสวยมีมิติได้สัดส่วนมากขึ้น นอกจากนี้ตามศาสตร์ของคนจีนยังเชื่อกันว่าหากผู้ใดมีหน้าผากเต็ม นูนสวยอิ่มเอิบ เป็นผู้ที่มีโหงวเฮ้งดี เพราะจะทำให้เป็นผู้มีวาสนาดีอีกด้วย

ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก?

1. คนมีปัญหาหน้าผากเป็นร่องลึก ที่เกิดจากการยุบตัวลงของกล้ามเนื้อ หรือกระดูก

2. คนที่ต้องการปรับโหงวเฮ้ง ที่มีความเชื่อว่าการมีหน้าผากที่นูนสวยเป็นหน้าผากรับทรัพย์ ส่งเสริมด้านการงาน ความรักและการเงิน

3. คนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเด็กลง

4. คนที่มีโหนกคิ้วสูงเด่นชัด ทำให้หน้าดุ การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจพช่วยให้หน้าดูละมุนขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก VS การฉีดไขมันหน้าผาก VS การเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน แตกต่างกันอย่างไร? ข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธี

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นการฉีดสาร Hyaluronic Acid หรือ สาร HA ซึ่งเป็นสารที่มาจากธรรมชาติและมีส่วนประกอบของคอลลาเจนฉีดเติมเข้าไผยังบริเวณหน้าผากสามารถปรับเพิ่มลดความโหนกนูนได้ตามต้องการ

ข้อดีคือ

1. เจ็บน้อยกว่าผ่าตัด ใช้เวลาพักฟื้นน้อยและใช้เวลาในการพักฟื้นน้อยกว่า

2. หากใช้ฟิลเลอร์แท้ก็จะอยู่ได้ 1-2 ปี

3. สามารถทยอยเติมใหม่ได้เรื่อยๆ

4. หากไม่ชอบก็สามารถฉีดสลายออกบางส่วนเพื่อปรับแต่งได้ตามความต้องการ

ข้อเสียคือ

1. ฟิลเลอร์ของแท้มีราคาค่อนข้างสูง

2. การฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่การเสริมหน้าผากที่ถาวร

การเติมไขมัน เป็นการใช้ไขมันในร่างกายของตัวเอง โดยการนำไขมันออกมาจากส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเพื่อฉีดเติมไปที่บริเวณหน้าผาก เพื่อปรับให้หน้าผากนูนสวยได้รูปมากยิ่งขึ้น

ข้อดีคือ

1. เนื่องจากไขมันเป็นเซลล์ธรรมชาติที่ได้จากร่างการของเราเองดังนั้นจึงมีความเป็นธรรมติสูง ไม่โปร่งแสง

2. ไม่เกิดการปฏิเสธของร่างกาย

3. ไขมันที่เหลือรดจากการเผาผลาญจากร่างกายในช่วง 1-3 เดือนเดือนแรกจะอยู่แบบถาวร

ข้อเสียคือ

– มีความบวมช้ำค่อนข้างมากทั้ง จุดที่ดูดไขมันและบริเวณหน้าผาก

– ต้องมีเวลาพักฟื้นอย่างน้อย 5-7 วัน

– ไขมันมีโอกาสสลายไปกับระบบการเผาผลาญของร่างกาย

การผ่าตัดเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน เป็นการผ่าตัดบริเวณไรผมเพื่อเสริมซิลิโคนหน้าผาก เพื่อให้หน้าผากดูนูนได้สัดส่วนสวยงาม ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ ต้องใช้ศัลยแพทย์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญสูง เนื่องจากผ้าผากเป็นจุดที่มีเส้นเลือดที่สำคัญเป็นจำนวนมาก

ข้อดีคือ

1. ผลลัพธ์อยู่ได้ถาวร

ข้อเสียคือ

1. บวมช้ำค่อนข้างมากต้องพักฟื้นนาน

2. อาจมีรอยแผลค่อนข้างยาวในไรผม

3. ดูแลรักษาแผลยาก

4. หลังการเสริมด้วยซิลิโคนะไม่สามารถปรับลดเพิ่มความโหนกนูนได้ต้องผ่าตัดแก้ไขเท่านั้น

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากมีผลข้างเคียงไหม?

1. หากใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้

2. หลังการฉีดอาจมีอาการบวมและคันในบริเวณที่ฉีดได้ แต่ไม่ได้เป็นอันตรายใดๆ โดยอาการเหล่านั้นจะหายเองภายใน 1-2 วัน

3. เนื่องจากหน้าผากเป็นแหล่งศูนย์รวมของเส้นเลือดขนาดใหญ่ และมีเส้นเลือดที่มีส่วนที่สัมพันธ์กับจอประสาทตา หากเกิดข้อผิดพลาดในการฉีดฟิลเลอร์ อาจมีทำให้ตาบอดได้ ดังนั้นจึงต้องฉีดหมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่กังนัมคลินิกดีอย่างไร

1. คุณหมอจะประเมินและออกแบบหน้าผากให้เหมาะสมและรับกับส่วนอื่นๆของใบหน้าแบบเคสต่อเคส

2. กังนัมคลินิกใช้ฟิลเลอร์ของแท้เท่านั้น และคุณหมอจะพิจารณาเลือกใช้ฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับบริเวณที่จะฉีด

3. คุณหมอมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และมีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน

4. กังนัมคลีนิคเรามีเทคนิคในการฉีดฟิลเลอร์ให้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าที่อื่น

5. กังนัมคลีนิคเปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีใบรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข

6. เราเปิดให้บริการมากกว่า 10 สาขาเพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายและไม่ต้องรอคิวนาน

7. กังนัมคลีนิค เป็นคลินิกที่ดาราคนดังเลือกใช้บริการ

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากยี่ห้อไหนดี

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มหน้าผาก คุณหมอแนะนำยี่ห้อจูวีเดิร์ม Juvederm Vobella (Allergan) เหมาะสำหรับฉีดหน้าผากและริมฝีปากเพราะ มีโมเลกุลยึดเกาะเหนียวแน่น มีความยืดหยุ่น และ ความคงตัวสูง ให้ความเป็นธรรมชาติ

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากกี่วันเห็นผล?อยู่ได้นานไหม

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากหลังจากการฉีดหน้าผากจะนูนสวยได้รูปตามที่ต้องการทันที เพราะมีอาการบวมน้อยมาก โดยผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับตัวฟิลเลอร์ที่ใช้ สำหรับกังนัมคลินิกเลิอกใช้ฟิลเลอร์ของยี่ห้อจูวีเดิร์ม Juvederm Vobella (Allergan) อยู่ได้นาน 12 เดือน

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากต้องใช้กี่ CC จึงดูเป็นธรรมชาติ ?

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะใช้ฟิลเลอร์ปริมาณ 3-5 CC ขึ้นกับปัญหา และความลึกของกล้ามเนื้อที่ยุบตัวลงไป

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากใช้เวลานานไหม ต้องพักฟื้นหรือไม่?

ใช้เวลาในการฉีดเพียง 10-15 นาที คนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ปกติโดยไม่ต้องพักฟื้น

ใครบ้างไม่สามารถฉีดฟิลเลอร์หน้าผากได้

1. หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ และกำลังให้นมบุตร

2. คนทีมีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก มีแผลฟกช้ำง่าย

3. คนที่แพ้สารไฮยาลูรอนิค

4. คนที่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยมาก และ มีผิวหน้าบาง

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ไหนดี?

1. เลือกสถานประกอบการที่มีความน่าเชื่อถือได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข

2. คลินิกต้องแจ้งชื่อแพทย์ ประจำคลินิกอย่างชัดเจน

3. มีข้อมูลการติดต่อที่ชัดเจน และ สามารถติดต่อได้จริง

4. คลินิกต้องใช้ยาของแท้ ที่ผ่านการรับรองจาก อ.ย. เท่านั้น

5. คลินิกต้องมีการบริหารจัดการที่ดีและไม่ปล่อยให้คนไข้รอนาน

ข้อปฏิบัติก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

1. พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชม.

2. งดยาและวิตามินทุกชนิด เช่น ยาแอสไพริน ยากแก้ปวดลดไข้ โกเฟน วิตามินอี วิตามินบี คอลลาเจน แปะก๊วย

3. งดการดื่มแอลกอฮอร์อย่างน้อย 7 วัน

หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

1. หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน การออกแดดจัด อย่างน้อย 2 สัปดาห์

2. ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร

3. งดออกกำลังการ หรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดอย่างน้อย 7-14 วัน

4. งดสูบบุหรี่และดืมแอลกอฮอร์อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์เพราะอาจทำให้ช้ำ บวม และมีเลือดออกในบริเวณที่ฉีดได้

5. งดการกด จับ บีบ สัมผัส ในบริเวณที่ฉีดอย่างเด็ดขาด

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากราคาเท่าไหร่?

ราคาฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คือ 1 cc ราคา 8,623 บาท อยู่ได้นาน 12 เดือน

รีวิวคนไข้ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่กังนัมคลินิก

สรุปฉีดฟิลเลอร์หน้าผากดีไหม?

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากนั้นถือเป็นการเติมเต็มหน้าผากที่ไม่ต้องใช้เวลานาน และ ไม่ต้องพักฟื้น ให้ความรู้สึกเจ็บน้อย และมีความปลอดภัย 100% แต่จะต้องใช้ยาของแท้ และฉีดโดยคุณหมอผู้ชาญชาญแท้เท่านั้น ซึ่งในการฉีดหน้าผากคุณหมออาจจะต้องมีการฉีดยาชาร่วมด้วยเพื่อลดควารู้สึกเจ็บในขณะทำ แต่รับรองว่าหลังการฉีดหน้าผากจะสวยอย่างเป็นธธรรมชาติแบบไม่ต้องอดทนต่อความบวมช้ำอย่างแน่นอน

Scroll to Top