ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก VS ฉีดไขมัน VS เสริมหน้าผากซิลิโคน แตกต่างกันอย่างไร? แบบไหนดีที่สุด?
การ มีหน้าผากที่ได้รูปอิ่มสวยนั้นนอกจากจะทำให้ใบหน้าดูมีมิติและดูอ่อนเยาว์แล้ว การเสริมหน้าผากให้ดูอวบอิ่มตามความเชื่อของคนจีน ยังเป็นการปรับโหงวเฮ้งของใบหน้าอีกด้วย ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากอย่างไรให้ถูกต้องตามหลักโหงวเฮ้ง และถูกต้องตามหลักของความงามไปพร้อมๆกัน
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คืออะไร?
ฟิลเลอร์หน้าผาก คือ การฉีดสารเติม Hyaluronic acid เข้าไปในบริเวณหน้าผาก เพื่อแก้ไขปัญหาหน้าผากบุบแบน ไม่สวยได้รูป ให้นูนสวยมีมิติได้สัดส่วนมากขึ้น นอกจากนี้ตามศาสตร์ของคนจีนยังเชื่อกันว่าหากผู้ใดมีหน้าผากเต็ม นูนสวยอิ่มเอิบ เป็นผู้ที่มีโหงวเฮ้งดี เพราะจะทำให้เป็นผู้มีวาสนาดีอีกด้วย
ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก?
- คนมีปัญหาหน้าผากเป็นร่องลึก ที่เกิดจากการยุบตัวลงของกล้ามเนื้อ หรือกระดูก
- คนที่ต้องการปรับโหงวเฮ้ง ที่มีความเชื่อว่าการมีหน้าผากที่นูนสวยเป็นหน้าผากรับทรัพย์ ส่งเสริมด้านการงาน ความรักและการเงิน
- คนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเด็กลง
- คนที่มีโหนกคิ้วสูงเด่นชัด ทำให้หน้าดุ การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจพช่วยให้หน้าดูละมุนขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก VS การฉีดไขมันหน้าผาก VS การเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน แตกต่างกันอย่างไร? ข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธี
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
เป็นการฉีดสาร Hyaluronic Acid หรือ สาร HA ซึ่งเป็นสารที่มาจากธรรมชาติและมีส่วนประกอบของคอลลาเจนฉีดเติมเข้าไผยังบริเวณหน้าผากสามารถปรับเพิ่มลดความโหนกนูนได้ตามต้องการ
ข้อดีคือ
- เจ็บน้อยกว่าผ่าตัด ใช้เวลาพักฟื้นน้อยและใช้เวลาในการพักฟื้นน้อยกว่า
- หากใช้ฟิลเลอร์แท้ก็จะอยู่ได้ 1-2 ปี
- สามารถทยอยเติมใหม่ได้เรื่อยๆ
- หากไม่ชอบก็สามารถฉีดสลายออกบางส่วนเพื่อปรับแต่งได้ตามความต้องการ
ข้อเสียคือ
- ฟิลเลอร์ของแท้มีราคาค่อนข้างสูง
- การฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่การเสริมหน้าผากที่ถาวร
การเติมไขมัน
เป็นการใช้ไขมันในร่างกายของตัวเอง โดยการนำไขมันออกมาจากส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเพื่อฉีดเติมไปที่บริเวณหน้าผาก เพื่อปรับให้หน้าผากนูนสวยได้รูปมากยิ่งขึ้น
ข้อดีคือ
- เนื่องจากไขมันเป็นเซลล์ธรรมชาติที่ได้จากร่างการของเราเองดังนั้นจึงมีความเป็นธรรมติสูง ไม่โปร่งแสง
- ไม่เกิดการปฏิเสธของร่างกาย
- ไขมันที่เหลือรดจากการเผาผลาญจากร่างกายในช่วง 1-3 เดือนเดือนแรกจะอยู่แบบถาวร
ข้อเสียคือ
- มีความบวมช้ำค่อนข้างมากทั้ง จุดที่ดูดไขมันและบริเวณหน้าผาก
- ต้องมีเวลาพักฟื้นอย่างน้อย 5-7 วัน
- ไขมันมีโอกาสสลายไปกับระบบการเผาผลาญของร่างกาย
การผ่าตัดเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน
เป็นการผ่าตัดบริเวณไรผมเพื่อเสริมซิลิโคนหน้าผาก เพื่อให้หน้าผากดูนูนได้สัดส่วนสวยงาม ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ ต้องใช้ศัลยแพทย์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญสูง เนื่องจากผ้าผากเป็นจุดที่มีเส้นเลือดที่สำคัญเป็นจำนวนมาก
ข้อดีคือ
1. ผลลัพธ์อยู่ได้ถาวร
ข้อเสียคือ
- บวมช้ำค่อนข้างมากต้องพักฟื้นนาน
- อาจมีรอยแผลค่อนข้างยาวในไรผม
- ดูแลรักษาแผลยาก
- หลังการเสริมด้วยซิลิโคนะไม่สามารถปรับลดเพิ่มความโหนกนูนได้ต้องผ่าตัดแก้ไขเท่านั้น
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากมีผลข้างเคียงไหม?
- หากใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
- หลังการฉีดอาจมีอาการบวมและคันในบริเวณที่ฉีดได้ แต่ไม่ได้เป็นอันตรายใดๆ โดยอาการเหล่านั้นจะหายเองภายใน 1-2 วัน
- เนื่องจากหน้าผากเป็นแหล่งศูนย์รวมของเส้นเลือดขนาดใหญ่ และมีเส้นเลือดที่มีส่วนที่สัมพันธ์กับจอประสาทตา หากเกิดข้อผิดพลาดในการฉีดฟิลเลอร์ อาจมีทำให้ตาบอดได้ ดังนั้นจึงต้องฉีดหมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่กังนัมคลินิกดีอย่างไร
- คุณหมอจะประเมินและออกแบบหน้าผากให้เหมาะสมและรับกับส่วนอื่นๆของใบหน้าแบบเคสต่อเคส
- กังนัมคลินิกใช้ฟิลเลอร์ของแท้เท่านั้น และคุณหมอจะพิจารณาเลือกใช้ฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับบริเวณที่จะฉีด
- คุณหมอมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และมีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน
- กังนัมคลีนิคเรามีเทคนิคในการฉีดฟิลเลอร์ให้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าที่อื่น
- กังนัมคลีนิคเปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีใบรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
- เราเปิดให้บริการมากกว่า 10 สาขาเพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายและไม่ต้องรอคิวนาน
- กังนัมคลีนิค เป็นคลินิกที่ดาราคนดังเลือกใช้บริการ
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากยี่ห้อไหนดี
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มหน้าผาก คุณหมอแนะนำยี่ห้อจูวีเดิร์ม Juvederm Vobella (Allergan) เหมาะสำหรับฉีดหน้าผากและริมฝีปากเพราะ มีโมเลกุลยึดเกาะเหนียวแน่น มีความยืดหยุ่น และ ความคงตัวสูง ให้ความเป็นธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากกี่วันเห็นผล?อยู่ได้นานไหม
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากหลังจากการฉีดหน้าผากจะนูนสวยได้รูปตามที่ต้องการทันที เพราะมีอาการบวมน้อยมาก โดยผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับตัวฟิลเลอร์ที่ใช้ สำหรับกังนัมคลินิกเลิอกใช้ฟิลเลอร์ของยี่ห้อจูวีเดิร์ม Juvederm Vobella (Allergan) อยู่ได้นาน 12 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากต้องใช้กี่ CC จึงดูเป็นธรรมชาติ ?
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะใช้ฟิลเลอร์ปริมาณ 3-5 CC ขึ้นกับปัญหา และความลึกของกล้ามเนื้อที่ยุบตัวลงไป
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากใช้เวลานานไหม ต้องพักฟื้นหรือไม่?
ใช้เวลาในการฉีดเพียง 10-15 นาที คนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ปกติโดยไม่ต้องพักฟื้น
ใครบ้างไม่สามารถฉีดฟิลเลอร์หน้าผากได้
- หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ และกำลังให้นมบุตร
- คนทีมีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก มีแผลฟกช้ำง่าย
- คนที่แพ้สารไฮยาลูรอนิค
- คนที่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยมาก และ มีผิวหน้าบาง
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ไหนดี?
- เลือกสถานประกอบการที่มีความน่าเชื่อถือได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข
- คลินิกต้องแจ้งชื่อแพทย์ ประจำคลินิกอย่างชัดเจน
- มีข้อมูลการติดต่อที่ชัดเจน และ สามารถติดต่อได้จริง
- คลินิกต้องใช้ยาของแท้ ที่ผ่านการรับรองจาก อ.ย. เท่านั้น
- คลินิกต้องมีการบริหารจัดการที่ดีและไม่ปล่อยให้คนไข้รอนาน
ข้อปฏิบัติก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
- พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชม.
- งดยาและวิตามินทุกชนิด เช่น ยาแอสไพริน ยากแก้ปวดลดไข้ โกเฟน วิตามินอี วิตามินบี คอลลาเจน แปะก๊วย
- งดการดื่มแอลกอฮอร์อย่างน้อย 7 วัน
หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
- หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน การออกแดดจัด อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
- งดออกกำลังการ หรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดอย่างน้อย 7-14 วัน
- งดสูบบุหรี่และดืมแอลกอฮอร์อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์เพราะอาจทำให้ช้ำ บวม และมีเลือดออกในบริเวณที่ฉีดได้
- งดการกด จับ บีบ สัมผัส ในบริเวณที่ฉีดอย่างเด็ดขาด
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากราคาเท่าไหร่?
ราคาฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คือ 1 cc ราคา 8,623 บาท อยู่ได้นาน 12 เดือน
สรุปฉีดฟิลเลอร์หน้าผากดีไหม?
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากนั้นถือเป็นการเติมเต็มหน้าผากที่ไม่ต้องใช้เวลานาน และ ไม่ต้องพักฟื้น ให้ความรู้สึกเจ็บน้อย และมีความปลอดภัย 100% แต่จะต้องใช้ยาของแท้ และฉีดโดยคุณหมอผู้ชาญชาญแท้เท่านั้น ซึ่งในการฉีดหน้าผากคุณหมออาจจะต้องมีการฉีดยาชาร่วมด้วยเพื่อลดควารู้สึกเจ็บในขณะทำ แต่รับรองว่าหลังการฉีดหน้าผากจะสวยอย่างเป็นธธรรมชาติแบบไม่ต้องอดทนต่อความบวมช้ำอย่างแน่นอน