ฉีดวิตามินผิว ช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างไร? เสริมภูมิคุ้มกันจริงหรือไม่? มีความเสี่ยงไหม

การฉีดวิตามินผิวในปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะสามารถเปลี่ยนความคล้ำเสียของผิวให้กลับมา ขาวกระจ่างใส เห็นผลเร็ว  จึงทำให้การฉีดวิตามินผิวเป็นที่ยอมรับในการช่วยปรนนิบัติผิวให้ดูมีสุขภาพดีที่เห็นผลลัพธ์ดีที่สุด นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานของร่างกายทำให้มีสุขภาพดีขึ้นอีกด้วย

การฉีดวิตามินผิว คืออะไร?

การฉีดวิตามินผิว คือ การฉีดตัวยาที่มีส่วนผสมของกรดแอสคอร์บิก Ascorbic acid

และวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเช่นวิตามิน ซี,อี,เอ,คอลลาเจน และอีกหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เข้าไปในผิว โดยผ่านทางเส้นเลือด เพื่อทำให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที ซึ่งเป็นวิตามินที่ใช้จะเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย เพราะช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน ต่อต้านอนุมูลอิสระ และที่สำคัญ ยังนำไปใช้สร้างคอลลาเจนที่มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมส่วนต่างๆของร่างกายอีกด้วย

สาเหตุผิวหมองคล้ำ ผิวขาดน้ำ เกิดจากอะไร?

การที่ผิวแห้งกร้านหมองคล้ำ เกิดได้จากหลาย สาเหตุ เช่น สภาพอากาศ มลภาวะภายนอก ฝุ่นละออง PM2.5 การพักผ่อนไม่เพียงพอ รวมไปถึงการรับประทานอาหาร สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ จะส่งผลให้ผิวเกิดภาวะขาดน้ำ สูญเสียคอลลาเจน ดูผิวหมองคล้ำไม่สดใส เห็นริ้วรอยได้ชัดเจนขึ้น

การฉีดวิตามินผิวใสเหมาะกับใคร

1. ผู้ที่มีผิวแห้งกร้าง ผิวขาดน้ำ

2. ผู้ที่มีผิวคล้ำเสีย ดูไม่สดใส

3. ผู้ที่ทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ

4. ผู้ที่ต้องการปรับสภาพให้ผิวมีสุขภาพดีอย่างเร่งด่วน

5. ผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ไม่สามารถทาครีมบำรุงได้เป็นประจำ

6. ผู้ที่เป็นป่วยง่าย มีอาการภูมิแพ้บ่อยๆ

การฉีดวิตามินผิว VS ทานวิตามินแบบเม็ด แตกต่างกันอย่างไร?

การฉีดวิตามินผิว เป็นการฉีดสารอาหารและวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเข้าทางเส้นเลือดเพื่อให้ร่างการสามารถดูดซึมและใช้งานได้ทันทีโดยวิตามินจะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ลดการเกิดเม็ดสีเมลานิน ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มความยืดหยุ่น ความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวขาวใส ดูเปล่งปลั่ง ช่วยให้ร่างกายสดชื่น บรรเทาอาการหวัด ลดอาการอ่อนเพลีย เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว และที่สำคัญสามารถเห็นผลได้ภายใน 3 วันหลังฉีด โดยแรกเริ่มรู้สึกได้และเห็นผลเร็วอย่างเต็มที่ 14วัน

การทานวิตามินแบบเม็ด ช่วยให้ผิวใส ช่วยป้องกันโรคหวัด โรคเลือดออกตามไรฟัน เพิ่มการดูดซึมของธาตุเหล็ก แต่ต้องมีการรับประทานเป็นประจำ และค่อนข้างใช้เวลากว่าจะเห็นผล เนื่องจากการทานวิตามินและอาหารเสริม จะต้องผ่านการทำงานของกระเพาะ และ ระบบย่อยอาหาร ซึ่งร่างกายจะสามารถดูดซึมวิตามินเพื่อนำไปใช้งานได้เพียงประมาณ 50% ในขณะที่การฉีดวิตามินผ่านทางหลอดเลือดดำ ร่างกายจะสามารถดูดซึมวิตามินได้มากถึง 90%

ข้อดีของการฉีดวิตามินผิว

1. ช่วยเพิ่มการปกป้องให้เซลล์ผิวมีความแข็งแรงมากขึ้น

2. ช่วยให้ร่างกายมีความชุ่มชื้น

3. ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล

4. ช่วยบรรเทาอาการโรคภูมิแพ้

5. ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูขาวใส

6. ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน และ เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว

7. ทำให้ร่างกายสดชื่น และ ลดอาการอ่อนเพลีย

ฉีดวิตามินผิวมีผลข้างเคียงไหม?

การฉีดวิตามินผิว ถ้าฉีดกับคลินิกที่ใช้ตัวยาที่ได้รับมาตรฐานที่ผ่าน อย. และฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็ถือว่าเป็นวิธีปรนนิบัติผิวที่ปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายใดๆต่อร่างกาย

สูตรวิตามินผิว กังนัมคลินิก

กังนัมคลินิก มี 7 สูตรวิตามินผิวลับเฉพาะจากประเทศเกาหลีที่จะช่วย แก้ไขปัญหาผิวได้อย่างล้ำลึก โดยคุณหมอจะแนะนำให้เหมาะสมกับสภาพปัญหา และความต้องการของคนไข้แต่ละคน ได้แก่

ผสมวิตามินต่างๆให้มีปริมาณที่เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการ

ต้องฉีดวิตามินผิวบ่อยแค่ไหนจึงจะเห็นผล

ถ้าหากต้องการมีผิวพรรณที่สดใสมีออร่าอยู่เสมอ ควรฉีดวิตามินผิวเป็นประจำทุกสัปดาห์ ติดต่อกันอย่างน้อย 3 – 5 สัปดาห์ แล้วค่อย ๆ ทิ้งระยะการฉีดให้ห่างออกไปเป็น 2 – 3 สัปดาห์ต่อครั้ง และสามารถเว้นระยะเวลา การฉีดเป็น 1 ครั้งต่อเดือน

ข้อดีและข้อเสียของการฉีดวิตามินผิว

ข้อดีของการฉีดวิตามินผิว

1. ช่วยในการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว ทำให้ผิวขาวใสขึ้นอย่างรวดเร็วสีผิวสม่ำเสมอ เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น
2. ช่วยสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวพรรณดูเต่งตึง สดใส
3. ลดอาการอ่อนล้า และ อ่อนเพลียของร่างกาย
4. ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดอาการภูมิแพ้ ได้ และ ช่วยบำรุงส่วนต่างๆของร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น

ข้อเสียของการฉีดวิตามินบำรุงผิว

1. ผลลัพธ์ไม่คงอยู่ถาวร ต้องมีการมาฉีดซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์ที่ได้เอาไว้
2. ไม่สามารถทำให้คนที่มีผิวคล้ำมากๆ ขาวขึ้นได้ในทันที อาจต้องใช้ระยะเวลา แต่สีผิวจะค่อยๆกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อฉีดซ้ำเป็นประจำ
3. อาจมีอาการแพ้ หรือเกิดผลข้างเคียงในกรณีที่ไม่ได้รับวิตามินที่ได้มาตรฐาน หรือ ไม่ได้ฉีดกับผู้เชี่ยวชาญ

ใครบ้างไม่ควรฉีดวิตามินผิวใส

• หญิงตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร
• คนที่ป่วยเป็นโรคตับ หรือ โรคไต
• คนที่มีภาวะของธาตุเหล็กเกิน (วิตามินซีจะทำให้ร่างกายเกิดการดูดซึมธาตุเหล็กมากขึ้น)
• คนที่มีเอนไซม์บกพร่อง คนที่ช้ำง่าย

ทำไมต้องฉีดวิตามินผิว ที่กังนัมคลินิก

1. กังนัมคลินิกเป็นคลินิกที่ได้รับความนิยมมากในการฉีดวิตามินผิวใส
2. เราเป็นคลินิกที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลคนไข้แบบเคสต่อเคส
3. เรามีการพัฒนาสูตรวิตามินที่เป็นสูตรเฉพาะของคลินิก เพื่อให้คนไข้ได้รับผลลัทธ์ที่ดีที่สุด
4. กังนัมคลินิกเรามีสูตรวิตามินผิวถึง 7 สูตร เพื่อตอบโจทย์ปัญหาของคนไข้ให้ได้มากที่สุดและตรงจุดที่สุด
5. กังนัมคลินิกเปิดให้บริกการ ถึง 10 สาขา เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงเราได้อย่างสะดวก และไม่ต้องเดินทางไกล

วิตามินผิวมีทั้งหมดกี่สูตร แตกต่างกันอย่างไร สูตรไหนดีที่สุด

ที่กังนัมคลินิกมีวิตามินฉีดผิวสูตรเฉพาะของคลินิกทั้งหมด 7 สูตร ที่ผ่านการคิดค้นและพัฒนาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เป็น 7 สูตรผิวใสที่สามารถแก้ไขปัญหาสภาพผิวได้อย่าล้ำลึก และเห็นผลชัดเจน โดยจะเลือกตามความเหมาะสม ความต้องการ และ ปัญหาของคนไข้แต่ละคน ได้แก่

1. Vitamin White Plus วิตามินสูตรเข้มข้น

ที่จะช่วยให้ผิวพรรณของสาวๆหนุ่มๆ ขาวกระจ่างใส และ ยังช่วยบำรุงเส้นผมให้เส้นผมแข็งแรงมีสุขภาพดี ไปพร้อมๆกับการเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ด้วยสูตรเฉพาะของกังนัมคลินิก

2. Vital Glow วิตามินซีสูตรเข้มข้น ที่เน้นช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสเรียนเนีนบขึ้นอย่าเป็นธรรมชาติ

3. Meso Blink ที่ผลลัพธ์ช่วยให้ผิวกระจ่างใสทั่วทั้งเรือนร่างอย่างเป็นธรรมชาติ โดยการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ

4. Extra White Plus สูตรวิตามินที่ช่วยจะเพิ่มความเด้งให้ผิว ทำให้ผิวดูสดชื่น อ่อนเยาว์ และช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสยิ่งกว่าที่เคย

5. Fairy Cocktail สูตรวิตามินรวมเข้มข้น เป็นสูตรเฉพาะของกังนัม ที่จะช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใส อมชมพู ดูสุขภาพดี น่าสัมผัส และ บำรุงร่างกายให้แข็งแร็งแรงขึ้น

6. Aura White Skin สูตรรับประกันความขาวแบบเร่งด่วน ด้วยหัวเชื้อกลูต้า Acetin ที่เข้มข้นกว่าใน Cinder มากถึง 200 เท่า

7. Perfect White Radiance สูตรวิตามินผิวที่ช่วย ลดการเกิดริ้วรอย พร้อมบำรุงผิวให้เต่งตึงสุขภาพดี ไปพร้อมๆกับผิวสว่างกระจ่างใส

ฉีดวิตามินผิวกี่วันเห็นผล?

ตามปกติหลังฉีดวิตามินผิว จะเห็นผลอย่างเต็มที่ ประมาณ 7-14 วัน โดยจะเริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่  3 วัน หลังฉีดประมาณ

ฉีดวิตามินขาวขึ้นจริงมั้ย?

การฉีดวิตามินผิวช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์ Glutathione ออกมาตามธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปตามปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล และหากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนแนะนำให้ฉีดวิตามินผิวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีผิวที่ขาวใส สุขภาพดีตลอดเวลา

หลังฉีดวิตามินผิวสามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้หรือไม่?

การดื่มอแอลกอฮอล์มีผลทำลายเซลล์ผิวโดยตรงจะทำให้ผิวเหี่ยวย่น เสื่อมเร็ว ดังนั้นหลังการฉีดวิตามินผิว ออนนี่ขอแนะนำให้งดดื่มแอลกอฮอร์

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ

ใครบ้างไม่สามารถฉีดวิตามินผิวใส

1. ผู้ที่มีประวัติแพ้วิตามินในรูปแบบการฉีด

2. ผู้ที่มีร่างกายเกิดการดูดซึมธาตุเหล็กมากกว่าปกติ

3. ผู้ที่มีมีอาการของโรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ

4. ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคมะเร็ง โรคเลือดผิดปกติ โรคหัวใจ

5. ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ต้องทานยาหลายชนิดเป็นประจำ

6. หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ หรือ อยู่ในช่วงให้นมบุตร

7. ผู้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ 

ฉีดวิตามินผิวใสที่ไหนดี?

1. เลือกฉีดกับคลินิกที่มีใบอนุญาตอย่างถูกต้องและ ดำเนินงานโดยแพทย์เท่านั้น

2. คลินิกต้องมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือ สามารถหาข้อมูลรีวิวได้

3. คลินิกต้องมีราคาที่สมเหตุสมผล

4.คลินิกต้องให้คำแนะนำอย่างละเอียดเกี่ยวกับตัวยาที่ใช้ 

5. ต้องฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

ข้อปฏิบัติก่อนและหลังฉีดวิตามินผิว

ข้อปฏิบัติก่อนฉีดวิตามินผิว

1. ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง หากมีโรคประจำตัว หรือ ประวัติแพ้ยา

2. ศึกษาข้อมูลด้วยตัวเอง รวมไปถึงวิธีการสังเกตยาแท้ เพื่อความปลอดภัย

3. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และ มีข้อมูการติดต่อที่ชัดเจน

4. ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการตรวจประเมินถึงปัญหาผิวก่อนทำทุกครั้ง

ข้อปฏิบัติหลังฉีดวิตามินผิว

1. หากเกิดรอยช้ำจากเข็ม สามารถประคบเย็นได้

2. ควรดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ จะช่วยให้ดีท็อกซ์สารพิษออกจากร่างกายและเห็นผลเร็วขึ้น

3. หากมีอาการบวมแดง เกิน 2 วัน ควรรีบปรึกษาแพทย์

4. หลีกเลี่ยงแสงแดด หากจำเป็นควรทาครีมกันแดด SPF 50 ขึ้นไป

5. ไม่ควร เช็ดถู เกา นวด บริเวณที่ฉีด

ฉีดวิตามินผิวใสราคาเท่าไหร่?

รีวิวคนไข้ฉีดวิตามินผิวที่กังนัมคลินิก

สรุปฉีดวิตามินผิวดีไหม?

การฉีดวิตามินผิวด้วยตัวยาในกลุ่มวิตามินC, E, A, Collagen ที่จะช่วยทำให้ผิวชุ่มชื่น และไปลดจุดด่างดำ เสริมสร้างภูมิต้านทาน ป้องกันหวัด ช่วยขับสารพิษที่ตกค้าง ป้องกันอันตรายจากแสงแดดได้ดีขึ้น ช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้น  เมื่อได้รับปริมาณวิตามินอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ผิวขาวใสขึ้น อย่างรวดเร็วทันใจ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วยเช่นกัน