ฉีดแฟตลดแก้มราคาเท่าไหร่ อันตรายไหม ? กี่วันเห็นผล ข้อดี-ข้อเสียที่ควรรู้ก่อนฉีด 

ฉีดแฟตลดแก้มอันตรายไหม

แก้มห้อย แก้มเยอะ หน้ากลม เกิดจาก

ปัญหาแก้มห้อย แก้มเยอะหน้ากลม หน้าบาน อาจสร้างความหนักใจให้ใครหลาย ๆ คนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งสาเหตุที่เกิดแก้ม มาจากได้หลายสาเหตุได้แก่ กรรมพันธุ์ , อายุที่เพิ่มมากขึ้น ที่ส่งผลต่อความชุ่มชื้น และความยืดหยุ่นกระชับของผิวหน้าลดลง เพราะสูญเสียคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนัง รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตร่วมด้วย ที่ทำให้คุณเกิดไขมันเข้าไปสะสมตรงแก้มเยอะขึ้น ได้แก่ การทานอาหารทอด ของมันของหวาน อาหารที่มีโซเดียมและแคลอรี่สูง รวมถึงสายปาร์ตี้ที่ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ขาดการออกกำลังกาย พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลต่อการทำงานต่อระบบการเผาผลาญของร่างกาย และทำให้ผิวบริเวณแก้มห้อย หย่อนคล้อย

ฉีดแฟตแก้ม คืออะไร ?

การฉีดแฟตแก้ม (Meso Fat) คือกระบวนการสลายไขมันส่วนเกินบริเวณแก้ม ผ่านการฉีดยาลึกเข้าไปในชั้นไขมัน ตั้งแต่ 0.1 มม-12 มม. ให้ถูกขับออกจากร่างกายผ่านระบบขับถ่าย ช่วยลดไขมันเร่งด่วนโดยไม่ต้องออกกำลังกาย ช่วยในเรื่องของการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวเล็กลง เห็นกรอบหน้าชัดขึ้น กรอบหน้าดูมีมิติมากกว่าเดิม เหมาะสำหรับคนที่รูปหน้าไม่เท่ากัน หรือมีแก้มเยอะ มีเหนียง ซึ่งทำให้ใบหน้าดูอ้วน

ฉีดแฟตแก้ม อันตรายไหม ?

หากฉีดเมโสแฟตแก้ม กับผู้เชี่ยวชาญและคลินิกที่สามารถไว้วางใจได้ ก็จะไม่เกิดอันตรายอย่างแน่นอน เพราะลดความเสี่ยงที่จะเจอน้ำยาแฟตปลอม ที่สำคัญเมโสแฟตของแท้จะผลิตมาจากสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่มีอันตรายหรือผลข้างเคียงร้ายแรง โดยมีส่วนผสมหลัก ๆ เพื่อช่วยสลายไขมันสะสมบริเวณที่ฉีด ตัวอย่างเช่น

  • Artichoke extract (Cynara scolymus) ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ ลดเนื้อเยื่อไขมัน ลดการสังเคราะห์กรดไขมันช่วยกำจัดเซลลูไลท์
  • Phosphatidylcholine (สกัดจากถั่วเหลืองหรือไข่แดง) ช่วยเร่งการทำงานของระบบเผาผลาญ และยังช่วยดึงไขมันไปใช้เป็นพลังงานมากขึ้น มีส่วนช่วยขับไขมันคอเลสเตอรอลผ่านทางระบบขับถ่าย
  • L- Cartinitine ช่วยให้าร่างกายนำไขมันเป็นพลังงานได้มากขึ้น เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน (Fat burn)
  • Decxycholic สารที่ช่วยสลายไขมันให้แตกตัวและถูกขับออกจากร่างกาย นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นการทำงานใต้ผิวหนัง กระตุ้นการสร้างCollagen ทำให้บริเวณที่ใช้กระชับยกตึงขึ้น
  • Vitamin B complex

ส่วนการฉีดเมโสแฟตสูตรที่เป็นอันตราย ไม่ควรฉีดเด็ดขาดมี 2 ประเภท

  • กลุ่มสเตียรอยด์ (Steroids)
    แพทย์ผิวหนังจะใช้ฉีดสำหรับฉีดสิว ฉีดคีลอยด์ (Keloid) แต่ใช้ปริมาณน้อย และผิดวิธี แต่ก็มีการนำมาใช้แบบผิดวิธี โดยจะผสมสเตียรอยด์ปริมาณมากในเมโสแฟตที่ไม่ผ่านมาตฐาน อย. เพราะมีต้นทุนต่ำ และเห็นผลลัพธ์ไว แต่มีอันตรายคือเมื่อฉีดหลายๆ ครั้งจะทำให้หน้าบวมกว่าเดิม และเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อง่ายขึ้น เนื่องจากกดภูมิคุ้มกันของร่ายกาย
  • กลุ่มยาสลายฟิลเลอร์ (Hyaluronidase)
    Hyaluronidase ปกติจะใช้ในการฉีดสลายฟิลเลอร์ได้อย่างปลอดภัย แต่บางคลินิกนำมาใช้ผิดวิธี โดยการฉีดปริมาณมาก ๆ ทำให้คอลลาเจนในผิวถูกย่อยสลายออกไป ทำให้เนื้อยุบลงอย่างรวดเร็ว จึงเป็นที่นิยมเนื่องจาก ต้นทุนต่ำ และเห็นผลไว เมื่อฉีดหลาย ๆ ครั้ง จะทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย และผิวหย่อนลงเนื่องจากคอลลาเจนเสื่อมลง

เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับการฉีดน้ำยาเมโสแฟตของแท้ และได้มาตราฐานทางกังนัมคลินิกแนะนำให้คุณสแกนกล่องเพื่อเช็คของแท้ และ ให้คุณหมอผสมน้ำยาให้ดูต่อหน้า เพียงเท่านี้คุณก็สามารถมั่นใจในการฉีดได้เลยค่ะ

ใครที่เหมาะสำหรับฉีดแฟตแก้ม

การลดไขมันบริเวณช่วงแก้มด้วยเมโสแฟต เป็นหนึ่งในการรักษาที่ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กขึ้น และกระชับขึ้นเห็นกรอบหน้าชัดเจน ซึ่งเป็นวิธีสลายไขมันเฉพาะจุด ไม่ใช่วิธีสำหรับการลดน้ำหนัก จึงเหมาะกับ

  • ผู้ที่ต้องการสลายไขมัน และเซลลูไลท์สะสมบริเวณแก้ม
  • ผู้ที่ต้องการลดไขมันแก้มโดยไม่ต้องผ่าตัด ดูดไขมัน และไม่สะดวกพักฟื้น
  • ผู้ที่ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องแต่ไขมันในร่างกายไม่ลดลง
  • ผู้ที่ต้องการลดแก้มเพื่อหน้าเรียว เร่งด่วนเห็นผลเร็ว 1-2 สัปดาห์หลังฉีด

ฉีดเมโสแฟตแก้มไม่เห็นผล สาเหตุเกิดจาก

เคยได้ยินไหมคะ? ว่าทำไมบางคนฉีดเมโสแฟตแก้มแล้วไม่เห็นผลลัพธ์ โดยสาเหตุอาจมาจากบริเวณแก้มที่ฉีดมีไขมันส่วนเกินสะสมเยอะ ซึ่งตัวยาแฟตจะเข้าไปสลายไขมันได้ประมาณ 10-15% ทำให้บางคนที่มีไขมันเยอะจะเห็นผลหลังการฉีดไปแล้วอย่างน้อย 5-6 ครั้งขึ้นไป

อีกกรณีที่เมื่อฉีดแฟตแก้มไปแล้วไม่เห็นผลคือ การได้รับตัวยาเมโสแฟตที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่มีคุณภาพ เนื่องจากเมโสแฟตเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก ส่งผลให้ให้เกิดการแข่งขันด้านราคาสูง จึงมีบางที่รับซื้อน้ำยาเมโสเถื่อนที่วางขายตามอินเตอร์เน็ต มาหลอกขายให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้ความเสียหายไม่ใช่แค่ไม่เป้นผลลัพธ์แฟต แต่ยังเสี่ยงอันตรายจากผลข้างเคียงดังกล่าว

ข้อดี และ ข้อเสีย ที่ควรรู้ก่อนฉีดแฟตแก้ม

ก่อนการฉีดแฟตแก้ม คุณควรพิจารณาทั้งข้อดีและข้อเสียได้แก่

ข้อดีของการฉีดแฟต (MESO FAT)

  • เห็นผลรวดเร็ว เริ่มเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำประมาณ 10 – 15 %
  • ราคาไม่สูงหากเทียบกับการดูดไขมัน
  • ช่วยลดปัญหาแก้มเยอะ หน้าบานและช่วยปรับรูปหน้าให้เรียว V shape
  • ไม่ใช่การผ่าตัด จึงไม่ต้องพักฟื้น และไม่มีรอยแผลเป็น หลังฉีดเสร็จใช้ชีวิตต่อได้ตามปกติ
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 – 3 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูเเลตัวเอง

ข้อเสียฉีดแฟต (MESO FAT)

  • ไม่สามารถลดไขมันได้ปริมาณมากเมื่อเทียบกับการดูดไขมัน
  • การฉีดเมโสเเฟตไม่เหมาะกับคนที่มีปริมาณไขมันบริเวณเเก้มมาก ๆ หรืออาจจะต้องฉีด 4 – 5 ครั้ง
  • หากถ้าเจอตัวยาแฟตที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่าน อย. สารที่ฉีดเข้าไปอาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายเราได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยควรเลือกคลินิก ฉีดเมโสแฟตสลายไขมันหน้าที่ได้มาตรฐาน ใช้ตัวยาของแท้สามารถตรวจสอบได้

ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดแฟตแก้ม

เนื่องจากการฉีดแฟตแก้ม หรือ ฉีดแฟตในส่วนอื่น ๆ ต่างก็มีผลข้างเคียง และมีข้อจำกัดสำหรับคนไข้บางกลุ่ม ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย คนไข้ควรเปิดเผยข้อมูลสุขภาพ และปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจฉีดแฟตแก้ม

  • อายุต่ำว่า 18 ปี
  • สตรีมีครรภ์ หรืออยู่ในระหว่างให้นมบุตร
  • ผู้ที่ใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด
  • มีโรคประจำตัว เช่น โรคระบบหลอดเลือดผิดปกติในสมอง เส้นเลือดสมองตีบ หรืออุดตัน
  • คนไข้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • อยู่ในระหว่างการรักษาโรคมะเร็ง โรคหัวใจ มีการเต้นของหัวใจผิดจังหวะ
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว อย่างโรคเบาหวาน และต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ หรือมีการรักษาด้วยยาหลายชนิด

ฉีดแฟตแก้ม ควรฉีดกี่ CC จึงจะเห็นผล และปลอดภัย

เพื่อการกระชับใบหน้าให้ดูมีมิติ แก้ปัญหาแก้มห้อม มีแก้มเยอะจนหน้ากลม ทางเราแนะนำว่าควรเริ่มต้นข้างละ 3-6 CC ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน และการประเมินการรักษาของแพทย์เจ้าของเคสด้วย อย่างไรก็ตามเมโสแฟตสลายไขมันนั้นปลอดภัยไม่มีสารตกค้างในร่างกาย ดังนั้นจึงสามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ หรือจะฉีดเป็นคอร์สเพื่อผลลัพธ์การรักษาที่มีประสิทธิภาพ

ฉีดแฟตแก้ม บวมกี่วัน

แม้ว่าการฉีดเมโสแฟตเพื่อลดไขมันสะสมบริเวณแก้ม จะปลอดภัยและไม่มีอันตรายร้ายแรง (กรณีใช้น้ำยาของแท้) แต่ก็มีผลข้างเคียงเล็กน้อย อย่างเช่นอาการบวม 1- 3 วัน แล้วจึงค่อย ๆ ยุบหายไปเอง หรือหากใครที่เป็นผิวบอบบางอาจมีรอยช้ำบ้างตามบริเวณที่ฉีด หลังจากนั้นก็จะจางหายไปเอง แต่หากยังเกิดอาการบวมหลังจากฉีดเกิน 3 วัน ควรรีบติดต่อกับแพทย์ผู้ฉีดอีกครั้ง เพราะอาจเกิดจากอาการแพ้สารบางตัวในเมโสแฟต

หลังฉีดแฟตแก้ม ดูแลตนเองอย่างไร ?

ควรดูแลตัวเองอย่างไร เรามีคำตอบกับ 5 ข้อที่ควรพิจารณาหลังฉีดแฟต เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังการฉีดแฟตที่มีประสิทธิภาพ ไขมันแก้มยุบลง และช่วยลดอาการบวมได้

  • หากมีอาการบวม ประคบเย็นได้ทันทีเพื่อลดบวม หรือทานยาลดบวมเพื่อช่วยให้อาหารบวมหายเร็วขึ้น
  • ไม่ควรกดหรือนวดในบริเวณแก้ม ประมาณ 4 ชั่วโมงแรก ปล่อยให้ตัวยาค่อย ๆ ซึมยุบไปเอง
  • ควรดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 1.5 – 2 ลิตรต่อวัน เนื่องจากการดื่มน้ำจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับไขมันเหลวที่ถูกสลายจากตัวยาเมโสแฟตถูกขับออกจากร่างกายได้ดีมากขึ้น และยังช่วยให้อาการบวมลดไวขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการอบซาวน่า นวดหน้า หรือทำเลเซอร์อย่างน้อย ประมาณ 3 วัน
  • ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ หลังทำประมาณ 1 สัปดาห์
  • ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เพื่อไม่ให้ไขมันกลับมาอีก

ฉีดแฟตแก้ม กี่วันเห็นผล

หลังฉีดแฟตจะเห็นผลได้ภายใน 7-14 วันหลังทำ และเห็นผลเต็มที่หลังทำ 3 สัปดาห์ โดยปกติจะอยู่ได้ 3 -4 เดือน แต่ถ้าดูแลตัวเองดีโดยงดอาหารทอด แป้ง น้ำตาล อาหารที่มีโซเดียมสูง รวมถึงออกกำลังกายร่วมด้วย จะช่วยรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น ซึ่งหลังฉีดเมโสแฟตแก้มไขมันจะเริ่มสลาย 10-15% ตั้งแต่การรักษาครั้งแรก แพทย์จึงแนะนำให้ฉีดซ้ำทุกสัปดาห์ 5 ครั้งขึ้นไปติดต่อกันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันในร่างกายของแต่ละคนและการดูแลตัวเองด้วย

หลังฉีดแฟตแก้ม เป็นก้อน ไตแข็ง ควรทำอย่างไร ?

หลังฉีดแฟตแก้ม บางท่านอาจมีอาการเป็นก้อนแข็ง เป็นไต ขึ้นมาบ้าง ซึ่งเกิดจากตัวยาที่ฉีดแฟตแก้ใไม่กระจายตัวออก อาการนี้สามารถแก้ไขได้โดยใช้มือนวดคลึงบริเวณที่ฉีดเพื่อช่วยให้ตัวยากระจายตัวมากขึ้น แต่ถ้าหากภายใน 4-7 วันแล้วอาการเป็นก้อนเป็นไตยังไม่หายไปหรือมีอาการบวมแดง แสบร้อนผิวประกอบด้วย ให้กลับมาพบแพทย์เจ้าของเคสอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวน้อยมาก

ฉีดแฟตแก้ม ราคาค่าใช้จ่ายเท่าไร

โดยทั่วไปแล้วค่าใช้จ่ายในการฉีดเมโสแฟตจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้ โปรโมชั่นของแต่คลินิก รวมถึงวิธีการขายด้วย เพราะบางคลินิกขายตัวยาเมโสแแบบเหมาขวด, เป็นเข็ม ,หรือ เป็นปริมาณ CC แต่โดยเฉลี่ยแล้วควรเริ่มต้นที่ราคา 1,500-2,000 บาท
สำหรับที่กังนัมคลินิก เรามีโปรโมชั่นยิ่งซื้อเยอะยิ่งคุ้ม ในราคาที่คุณเข้าถึงได้ และปลอดภัย โดยทางคลินิกมีตัวเลือกราคาเมโสแฟตแก้มหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ เริ่มต้นราคาอยู่ที่ 1,500 บาท

ฉีดแฟตแก้มสลายไขมัน (Meso Fat)

1 เข็ม ราคา 1,500 บาท
5 เข็ม ราคา 6,500 บาท (เฉลี่ยเข็มละ 1,300 บาท)
10 เข็ม ราคา 10,000 บาท (เฉลี่ยเข็มละ 1,000 บาท)

ฉีดแฟตแก้ม ด้วย Sisi Meso Fat Premium (Korea)

Sisi Meso Fat Premium (Korea)1 ขวด2 ขวด5 ขวด10 ขวด
SISI สูตร Face (Korea)2990
(10CC)
4,990
(20CC)
เฉลี่ยขวดละ
2,495 บาท
9,990
(50 CC)
เฉลี่ยขวดละ
1,998 บาท
18,000
(100CC)
เฉลี่ยขวดละ
1,800 บาท
SISI สูตร Body (Korea) สามารถฉีดลดไขมันที่หน้าได้4,990
(35CC)
8,990
(70CC)
เฉลี่ยขวดละ
4,495 บาท
20,000
(175CC)
เฉลี่ยขวดละ
4,000 บาท
35,000
(350CC)
เฉลี่ยขวดละ
3,500 บาท

อยากฉีดแฟตเหนียง ไว้ใจเลือกคลินิกไหนดี

ทำไมถึงต้องเลือกคลินิกที่ไว้ใจได้ ? เพราะเลือกคลินิกถูกต้องไว้ใจได้ ก็จะนำไปสู่ความงามที่ปลอดภัย สำหรับคนที่มีปัญหาแก้มใหญ่
มีไขมันสะสมตรงแก้มเยอะเป็นพิเศษ และต้องการที่จะฉีดแฟต ทางกังนัมคลินิกมีข้อแนะนำดังนี้

  • เลือกฉีดแฟตแก้มในคลินิกที่ได้มาตรฐาน เป็นคลินิกเปิดอย่างถูกต้องตามกฏหมายและต้องมีใบรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขนอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงในการพบเจอหมอเถื่อน หมอกระเป๋า รวมถึงน้ำยาแฟตที่ใช้ในการรักษา
  • ฉีดแฟตแก้มกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ เพื่อคุณจะได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ แพทย์จะสามารถประเมินปริมาณตัวยาได้อย่างเหมาะสม
  • ตรวจดูน้ำยาแฟตทุกครั้งก่อนฉีด ระวังเมโสแฟตปลอม เช่น เมโสแฟตเตียรอยด์ Hyaluronidase
  • ก่อนฉีดแฟตแก้ม ต้องศึกษาดูเคสรีวิวการรักษาจริง จากผู้ที่เคยใช้บริการที่คลินิก เพื่อดูผลลัพธ์และใช้ประกอบการตัดสินใจในการฉีดแฟตแก้ม

สรุปฉีดแฟตแก้มดีจริงไหม?

การลดไขมันแก้ม ด้วยวิธีเมโสแฟต ( Meso Fat) เป็นการลดไขมันเฉพาะจุดที่ได้ผลรวดเร็ว เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่คครั้งแรกที่ทำปริมาณไขมันลดลงถึง 10-15 % รวมถึงปลอดภัยไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายเนื่องจากสารสกัดที่ที่นำมาผลิตตัวยาเมโสทำมาจากธรรมชาติ มีผลข้างเคียงบ้างเล็กน้อย เช่น การบวมช้ำโดยจะยุบลงภายใน 3 วัน แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีควรทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย และควบคุมอาหารไปด้วย และเพื่อความปลอดภัยควรเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และมีความน่าเชื่อถือ

Scroll to Top