การทำให้ใบหน้าเรียวเล็กมีอยู่หลายวิธี เช่น การผ่าตัดปรับรูปหน้า การร้อยไหม การฉีดโบท็อกซ์ การทำเลเซอร์ และอีกหนึ่งในวิธีหน้าเรียวที่นิยมมากที่สุดนั่นก็คือ การฉีดเมโสแฟต แต่ การฉีดเมโสแฟตไม่ได้ทำให้หน้าเรียวเล็กได้เพียงอย่างเดียว แต่ยัง สามารถช่วยลดสัดส่วนในจุดอื่นๆในร่างกายได้อีกด้วย วันนี้เราจะมาเจาะลึกหน้าที่ ของเมโสแฟต รวมทั้งข้อดีและข้อเสียของเมโสแฟตว่ามีอะไรบ้าง เลื่อนอ่านในหัวข้อต่อๆไปได้เลยค่ะ
เมโสแฟตคืออะไร?
Meso fat คือ ตัวยาที่ใช้ในการช่วยสลายไขมันส่วนเกินให้ถูกกำจัดออกไปจากร่างกาย ด้วย
– L-carnitine มีหน้าที่ช่วยสลายไขมันแล้วเปลี่ยนไขมันมาเป็นพลังงาน ให้กับร่างกาย
– Mesostabyl มีหน้าที่ยับยั้งการเกิดไขมันใหม่ ของร่างกาย
– Tyrosine มีหน้าที่ในการเร่งระบบเผาผลาญ ทำให้ร่างกายสามารถกำจัดไขมันส่วนเกิน ได้มากขึ้น และ เร็วขึ้น
– Artichoke extract มีหน้าที่ลดการสร้างกรดไขมัน
และกลุ่มตัวยาอื่นๆเช่น L- Cartinitine , Dexpenthenol vitamin b complex , Decxy cholate ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่สกัดจากถั่วเหลือง และวิตามินอีกหลายชนิด โดยฉีดเข้าไปในชั้นไขมัน เพื่อช่วยเร่งการเผาผลาญและเร่งการการขับของเสียให้ออกจากร่างกายได้ไวขึ้นส่งผลทำให้บริเวณที่ฉีดเมโสแฟตเล็กกระชับเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สาเหตุของไขมันส่วนเกิน เกิดจากอะไร?
การเกิดไขมันส่วนเกินตามร่างกายมีได้หลายสาเหตุ เช่น
1. เกิดจากอาหารที่รับประทานเข้าไป แล้วร่างกายไม่สามารถเผาผลาญออกไปได้หมด
2. ขาดการออกกำลังกายที่ถูกต้องอย่างเป็นประจำ
3. เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้ประสิทธิภาพระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานลดลง
4. ผลข้างเคียงของยาควบคุมโรคบางชนิดที่ต้องทานเป็นประจำ
การฉีดเมโสแฟตเหมาะกับใคร
– เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมอยู่ในบริเวณที่ไม่สามารถกำจัดได้ด้วยการออกกำลังกาย เช่น เหนียง แก้ม ต้นแขน ต้นขา เป็นต้น
– เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมันหน้าเรียวเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วโดยไม่ต้องพักฟื้น
– เหมาะกับคนที่ไม้ต้องการผ่าตัด ดูดไขมัน ผิวบอบบางไม่สามารถทำเลเซอร์ หรือกำจัดไขมันด้วยวิธีอื่น
– เหมาะสำคนที่ต้องการกำจัดมีไขมันส่วนเกินแบบเฉพาะจุดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (ไม่ใช่คนอ้วนที่ต้องการลดน้ำหนัก)
– เหมาะสำหรับคนที่อยากให้ผิวยกกระชับเรียบเนียนขึ้น
– เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กและเห็นกรอบหน้าที่ชัดเจนขึ้น(แนะนำให้ทำคู่กับการฉีดโบท็อกซ์)
ฉีดเมโสแฟต VS ดูดไขมัน แตกต่างกันอย่างไร?
ถึงแม้ว่าการฉีดเมโสแฟต และ การดูดไขมันจะเป็นวิธีที่ช่วยกำจัดไขมันออกจากร่างกายที่มีข้อแตกต่างกันดังนี้
การฉีดเมโสแฟต คือการฉีดกลุ่มตัวยา L- Cartinitine , Dexpenthenol vitamin b complex , Decxy cholate ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่สกัดจากถั่วเหลือง และวิตามินต่าง ทำให้ไขมันส่วนเกินในร่างกายเกินการสลายตัวออกจากกันแล้วถูกขับออกจากระบบร่างกายด้วยกานเผาผลาญ โดยไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ ไม่เกิดรอยช้ำ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
การดูดไขมัน คือ การใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีลักษณะเป็นเข็มแบบเฉพาะสำหรับใช้ในการดูดไขมัน โดยจะต่อเข้ากับเครื่องดูดไขมันแทงเข้าไปยังบริเวณที่ต้องการดูดไขมัน ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถกำจัดไขมันออกจากร่างกายได้แบบทันที และสามารถกำจัดไขมันในแต่ละครั้งได้มากกว่าวิธีอื่น เหมาะกับคนที่ต้องการดำจัดไขมันครั้งละมากๆ หรือ คนอ้วนที่ต้องการลดน้ำหนัก ลดสัดส่วน
ข้อดีและข้อเสียของการฉีดเมโสแฟต
ข้อดีการฉีดเมโสแฟต
1. ช่วยสลายไขมันใต้ผิวทำให้ ผิวหนังที่เป็นคลื่นดูเรียบเนียนขึ้น
2. ช่วยกำจัดไขมันในบริเวณที่ไม่สามารถ กำจัดด้วยวิธีออกกำลังกายได้เช่นเหนียงใต้คาง แก้มเป็นต้น
3. เห็นผลลัพธ์รวดเร็วภายใน 5 ถึง 7 วัน
4. เป็นวิธีที่เจ็บตัวน้อยเพียงแค่เฉพาะตอนคุณหมอจิ้มเข็มฉีดตัวยาเท้านั้น แต่ได้ผลที่ชัดเจน
5. ใช้ระยะเวลาในการฉีดเพียง 5-10 นาทีเท่านั้นและไม่ต้องพักฟื้นหลังการฉีด
6. ช่วยทำให้ใบหน้าเรียวขึ้น หรือทำให้บริเวณที่ฉีดดูลงเล็ก และ ดูกระชับขึ้น
ข้อเสียการฉีดเมโสแฟต
1. อาจมีอาการบวมหลังฉีด ประมาณ 1- 2 วัน
2. ไม่เห็นผลทันที ต้องรอประมาณ 2-4 สัปดาห์
ฉีดเมโสแฟตมีผลข้างเคียงไหม?
การฉีดMeso Fat ของแท้ เป็นสารที่สกัดมาจากธรรมชาติมี อ.ย.รับรอง กับคุณหมอ แท้ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นการสลายไขมัน ลดเหนียง ลดแก้มหน้าเรียว ยกกระชับ ที่ถือว่ามีควาปลอดภัยสูงและมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายกับร่างกายน้อยมากๆ
สาเหตุที่ฉีดเมโสแฟตแล้วไม่เห็นผล
การฉีดเมโสแฟตแล้วไม่เห็นผล มีสาเหตุหลักๆดังนี้
1. ใช้เมโสแฟตที่เป็นตัวยาไม่ได้มาตรฐาน ยาหิ้ว,ยาปลอม ซึ่งอาจมีส่วนผสมที่อันตราย นอกจากจะไม่เห็นผลแล้วอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงภายหลังได้
2. ฉีเมโสแฟตกับหมอกระเป๋า เพราะหมอกระเป๋าไม่สามารถซื้อยาแท้ที่ผ่าน อย. ได้ (เนื่องจากมีกฏหมายยาควบคุม)
3. หมอขาดความเชี่ยวชาญทำให้คำนวนปริมาณยาที่ใช้ไม่เหมาะสมกับบริเวณที่จะฉีด ทำให้เห็นผลไม่ชัดเจน
เมโสแฟต มีกี่ประเภท อะไรบ้าง
สำหรับการฉีดเมโสแฟต แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
1. เสโสแฟตที่ใช้สำหรับ บริเวณใบหน้าหน้า เช่นเหนียง ใต้คาง แก้ม เป็นต้น
2. เมโสแฟตที่ใช้สำหรับ บริเวณลำตัว เช่น ต้นแขน ต้นขา สะโพก เป็นต้น
(ต้องเลือกใช้ประเภทของตัวยาถูกต้องให้เหมาะสมกับบริเวณที่จะฉีด เนื่องจากแต่ละบริเวณมีความหนาของชั้นไขมันแตกต่างกัน)
ทำไมต้องฉีดเมโสแฟตที่กังนัมคลินิก
1. ลูกค้าจะได้รับการฉีดเมโสแฟตที่เป็นตัวยาแท้ ที่ผ่าน อย.กับคุณหมอแท้ทุกเคส เพื่อความปลอดภัยของตัวลูกค้า
2. ฉีดเมโสแฟตลดแก้ม เหนียงใต้คาง ต้นแขน ต้นขา ด้วยตัวยาและปริมาณที่เหมาะสม ทำให้เห็นผลชัดเจน
3. กังนัมเป็นคลินิกที่มีชื่อเสียงมาจากการบอกต่อจากลูกค้ามาใช้บริการแล้วเห็นผลชัดเจน น่าพอใจ
4. กังนัมคลินิกให้บริการมาตรฐานระดับสากล มีระบบการตัดการที่ดี พนักงานให้บริการระดับพรีเมี่ยม ไม่ต้องรอคิวนาน
5. มีสาขามากถึง 10 กว่าสาขาทั่วกรุงเทพฯ เพื่อให้ลูกค้าเดินทางเข้าใช้บริการอย่างสะดวก
6. ลูกค้าสามารถขอดูตัวยาที่ใช้ในการฉีดได้
เมโสแฟตนิยมฉีดบริเวณไหนบ้าง
จุดที่นิยมฉีดเมโสแฟตเพื่อสลายไขมันในร่างกายได้แก่
1. บริเวณแก้ม เพื่อให้ใบหน้าเล็กลง หน้าดูเรียวขึ้น
2. บริเวณใต้คาง, เหนียง เมื่อไขมันใต้คางหายไปจะทำให้เห็นกรอบหน้าที่ชัดเจนมากขึ้น
3. บริเวณต้นแขน เพื่อปรับให้ต้นแขนดูเรียวเล็กและมีความกระชับตึงขึ้น
4. บริเวณต้นขา เป็นการลดปัญหาต้นขาเป็นคลื่นผิวเปลือกส้ม ทำให้ต้นขาเรียบเนียน กระชับ และเล็กลงอย่างรวดเร็ว
5. บริเวณสะโพก ทำให้ขนาดของสะโพกนั้นลดลง และ ได้สัดส่วนที่สวยงาม
ฉีดเมโสแฟตกี่วันเห็นผล?ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?
โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นผล 5-7 วันหลังการฉีด และจะเห็นผลชัดเจนมากประมาณ 2-4 สัปดาห์หลังการฉีด ผลลัพธ์สามารถอยู่นาน 2-3 เดือน หากอยากได้ผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้นแนะนำให้ฉีดซ้ำทุก 3-6 เดือน
ฉีดเมโสแฟตช่วยสลายไขมันได้จริงมั้ย?
เมโสแฟตได้รับความนิยมจากสถาบันความงามต่างๆ ในการนำมาฉีดลดไขมันส่วนเกินในจุดที่ต้องการ โดยมีผลการวิจัยแล้วว่าสามารถช่วยสลายไขมันได้อย่างเห็นผลจริง
หลังฉีดเมโสแฟตสามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้หรือไม่?
หลังการฉีดเมโสแฟตออนนี่ขอแนะนำวให้งด ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกประเภท อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ เพราะเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์จะทำให้ระบบการเผาผลาญของร่างกาย ทำงานได้ ช้าลง และทำให้ตัวยาเสื่อมสภาพได้ไวขึ้น
ใครบ้างไม่สามารถฉีดเมโสแฟตได้
1. สตรีมีครรภ์ หรือ สาวๆกำลังให้นมบุตร
2. ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวานที่ต้องอินซูลิน
3. ผู้ป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต
4. ผู้เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด โรคหัวใจ หรือระบบไหลเวียนของโลหิต
5. ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
6. ผู้ป่วยโรคมะเร็ง
ฉีดเมโสแฟตที่ไหนดี?
1. คลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ สามารถเปิดเผยตัวยาที่ใช้และรายชื่อของแพทย์ได้
2. ตัวยาที่ใช้ต้องผ่านการรับรองจาก อ.ย. แล้วเท่านั้น
3. มีข้อมูลรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจ
4. คลินิกมีหลายสาขา สามารถเดินทางได้สะดวก และ ต้องไม่รอคิวนาน
ข้อปฏิบัติก่อนการฉีดเมโสแฟต
1. พักผ่อนให้เพียงพอก่อนการฉีดอย่างน้อย 8 ชั่วโมง
2. ไม่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
3. งดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนการฉีด
การดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟต
1. ดื่มน้ำเยอะ ๆ อย่างน้อย วันละ 2 ลิตรเพื่อช่วยในการขับไขมันออกให้ได้มากที่สุด
2. งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ ประมาณ 1 สัปดาห์
หลังฉีด
3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยเพิ่มการเผาผลาญของร่างกาย
5. หลีกเลี่ยงการกด การนวด หรือการสัมผัสในบริเวณที่ฉีด
ฉีดเมโสแฟตราคาเท่าไหร่?
ราคาขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและปริมาณยาที่ใช้ เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมแนะนำให้เข้ามาปรึกษาคุณหมอที่กังนัมคลินิกได้ทุกสาขา
รีวิวคนไข้ฉีดฉีดเมโสแฟตที่กังนัมคลินิก
สรุปฉีดเมโสแฟตดีไหม?
การฉีดเมโสแฟตถือเป็นวิธีการ ที่ช่วยสลายไขมันส่วนเกิน แบบเฉพาะจุดที่เห็นผลชัดเจนรวดเร็วเป็นวิธีที่เจ็บตัวน้อย และไม่ต้องพักฟื้น อีกทั้งยังช่วยให้บริเวณที่ฉีดดูยกกระชับขึ้น เป็นวิธีที่เจ็บตัวน้อย แต่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน และ นอกจากนี้ การฉีดเมโสแฟตยังมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมาก จึงทำให้การฉีดเมโสแฟตนั้นได้รับความนิยมสูงกว่าวิธีอื่นๆ